Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Post Reply
Who Can Post? All users can post new topics and all users can reply.
Username   Need to register?
Password:   Forgot password?
Subject: (optional)
Icon: [*]
Formatting Mode:
Normal
Advanced
Help

Insert Bold text Insert Italicised text Insert Underlined text Insert Centered text Insert a Hyperlink Insert E-mail Hyperlink Insert an Image Insert Code Formatted text Insert Quoted text Insert List
Message:
HTML is On
Smilies are On
BB Code is On
[img] Code is On

Disable Smilies?
Use signature?
Turn BBCode off?
Receive email on reply?
Attachment:
    

Topic Review
ปาริชาต

[*] posted on 6/11/14 at 10:23
กราบอนุโมทนา ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ศิษย์ปลายแถว

[*] posted on 4/11/14 at 23:07
โมทนาสาธุขอรับ
note

[*] posted on 2/11/14 at 00:30
กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ
Charls

[*] posted on 29/10/14 at 13:33
คัดลอกจากหนังสือ การอุทิศส่วนกุศล
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ ลูกทำสังฆทานให้ สัมภเวสี ถ้ากลับไปแล้วจะ กรวดน้ำ ให้ได้ไหมค่ะ...?

หลวงพ่อ : การอุทิศส่วนกุศล ในพระพุทธศาสนานี่ไม่มีน้ำ แต่ว่าที่ พระเจ้าพิมพิสาร ทำเป็นองค์แรก เพราะว่าศาสนาพราหมณ์เขาถือว่า ถ้าจะให้อะไรกับใคร ต้องให้คนนั้นแบมือแล้วเอาน้ำราดลงไป และตอนที่พระเจ้าพิมพิสารทำ พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ห้ามเพราะเป็นพระเพณีนิยม เวลาที่พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนกุศลต้องใช้น้ำ เพราะว่าท่านเพิ่งพบพระพุทธเจ้า ประเพณีของพราหมณ์ยังชินอยู่ แต่ว่าใจท่านตั้งตรง
เวลาอุทิศส่วนกุศลจริงๆ ในพระพุทธศาสนาไม่ต้องใช้น้ำ ผีกับเปรตต้องรีบวิ่งกลับ เพราะไม่ได้กินแน่ เพราะฉันเคยพบมาแล้ว แต่ไม่มีน้ำนะว่า "อิมินา" เพลินไปยังไม่ถึงครึ่งก็มีคน ๒ คน ถือโซ่มาคล้องคอปั๊บลากไปเลย

ผู้ถาม : มีบางคนเขาบอกว่า "กรวดน้ำแบบแห้ง" ตายไปชาติหน้าจะแห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำ โบราณพูดอย่างนี้จะจริงหรือเปล่าค่ะ...?

หลวงพ่อ : เขาพูดได้ยินหรือเปล่า คนที่พูดมาได้ยินหรือเปล่า... คนโบราณพูดอย่างนี้ คนโบราณเขาพูดหรือเปล่า... ถ้าได้ยินแสดงว่าเขาพูดจริง แต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจริง
การอุทิศส่วนกุศล พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ใช้น้ำ ฉันใช้น้ำวันเดียววันบวช ว่าไม่ถูกเลย ฉันไม่เคยใช้น้ำเลยก็เห็นผีได้รับ แต่ชาติหน้าถ้าจะทำอย่างนั้น ถ้าฉันยังไม่ตายก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรนะ! กินน้ำเกลือเผื่ออยู่แล้ว เผื่อชาติหน้าจะอด!

ผู้ถาม : อ้อ..มินาล่ะ! หลวงพ่อถึงให้น้ำเกลือบ่อยๆ

หลวงพ่อ : ใช่! มีทั้งน้ำสะอาด น้ำเกลือ น้ำหวาน เผื่อไว้ตลอด รวมความว่า เวลาจะอุทิศส่วนกุศล ให้ใช้ภาษาไทยสั้นๆ อย่างทำบุญสังฆทาน เราก็ตั้งใจว่า "การบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ผลนี้จะมีแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ ...(บอกชื่อ)... ขอให้มาโมทนารับผลเช่นเดียวกับข้าพเจ้า"
และตอนที่พระสงฆ์ให้พรนี้ ก็ขอให้เจ้าภาพและทุกท่านที่บำเพ็ญกุศลแล้ว ตั้งจิตปราถนาเอาตามประสงค์ สมมติว่าท่านทั้งหลายตั้งใจเพื่อ "พระนิพพาน" อันนี้ก็ต้องเผื่อไว้ด้วยว่าหากสมมติเราตายจากชาตินี้ไปแล้วยังไม่ถึงซึ่ง พระนิพพานเพียงไร สมมติว่าเราตาย ถ้าเราไม่เผื่อไว้ละก็มันจะขลุกขลัก
ฉะนั้นการอธิษฐานจิต คือตั้งจิตอธิษฐานเขาเรียกว่า "อธิษฐานบารมี" เจริญพระกรรมฐานก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี อธิษฐานว่า " ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ แต่ทว่าถ้าหากข้าพเจ้าไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด จะเกิดใหม่ไปในชาติใดก็ตาม ขอคำว่า "ไม่มี" จงอย่าปรากฎแก่ข้าพเจ้า" ถ้าเราต้องการอะไรให้มันมีทุกอย่าง จะไม่รวยมากก็ช่าง! เท่านี้ก็พอแล้ว...

ผู้ถาม : ถ้าทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมค่ะ...?

หลวงพ่อ : การ ทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้วเดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ!

ผู้ถาม : แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมค่ะ...?

หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศลนี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม.. ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม
อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้วเจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะได้ไหม จึงไปถาม พระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านมารับบาตรนะ
ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า " สมมติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยม แล้วคบทุกคนก็สว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม...?"
ท่านอนุรุทธก็บอกว่าไม่ยุบ! แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์"
เรื่อง ของการทำบุญนี้ เวลาทำผู้ที่เป็นเจ้าภาพได้ครบ เวลาอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตาย ถ้าผู้นั้นเขาได้มากสักเท่าใดก็ตามทีผลบุญของเราไม่ได้ลดลงเลย แต่ว่าการอุทิศส่วนกุศลมันเป็นผลกำไรของเราอีกทางหนึ่ง คือได้ เมตตาบารมี ทีนี้พวกเราก็ขยันให้กันบ่อยๆ เมตตาบารมีจะได้เต็มเร็วขึ้น
nattamai

[*] posted on 28/10/14 at 13:36
เท่าที่ผมจำได้ว่าหลวงพ่อเคยบอกไว้ว่าการกรวดน้ำ นั้นจริงๆไม่ต้องทำก็ได้ครับ เพราะสมัยพระพุทธเจ้าเองจริงๆก็ไม่มี เป็นพิธีของพาราหมณ์เท่นั้น เพียงแค่เราอยากอุทิศส่วนกุศลให้ใคร เรานึกชื่อ บอกเป็นภาษาไทยนี่แหละใ้ได้เลยครับ แต่ต่อมามีกรวดน้ำเพราะตอนนั้นคนยังนับถือแนวทางพราหมณ์กันมาก ตอนสมัยพระเจ้าอะไรผมก็จำไม่ได้ครับ พอจะอุทิศส่วนกุศล ถ้าให้ตั้งใจเฉยๆ เดี๋ยวใจเค้าจะไม่อิ่มบุญเหมือนมันไม่มีอะไรเลย พระพุทธเจ้าท่านเลยให้เอาน้ำมาเทเป็นกรวดน้ำครับ แบบว่าพอให้มีพืธีรีตรองหน่อยนะครับ ความจริงแล้วนึกตั้งใจอธิฐานเอานี่ใช้ได้เลยครับ
ปาริชาต

[*] posted on 26/10/14 at 17:57
อยากทราบว่าหากกรวดน้ำย่อ หลังการสวดมนต์ตอนกลางคืนก่อนนอน สามารถท่องบทกรวดน้ำย่อได้โดยที่ไม่จุดธูปไม่หลั่งน้ำ กล่าวบทกรวดน้ำเพียงอย่างเดียวเป็นการปฏิบัติที่สามารถกระทำได้หรือไม่ค่ะ
Go To Top