เมื่อถึงวันศุกร์ที่ ๑๗ ธ.ค. ๕๓ อันเป็นวันสุดท้ายของงาน จะนำไปกราบไหว้บูชาสถานที่สำคัญภายในวัด ๑๘ แห่ง แล้วมาทำพิธีลาสิกขาบท ณ วิหาร ๑๐๐
เมตร (แต่ระยะหลังมีการนำไปกราบไหว้ในตอนกลางคืนก่อนบ้าง) หลังจากนั้นขอให้ทุกคนช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ ล้างห้องน้ำ ทิ้งขยะให้เรียบร้อย
แล้วนำสิ่งของที่เบิกมาคืนเจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน
โดยเฉพาะของที่เบิกไปนั้น เป็นส่วนกลางของสงฆ์ เช่น บาตร กลด มุ้ง และเสื่อหมอนเป็นต้น ทั้งพระและฆราวาสเมื่อนำไปใช้แล้ว
จะต้องรักษาและทำความสะอาดให้ดี ถ้าชำรุดจะต้องซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมด้วย มิฉะนั้น....จะถือว่ามีเจตนาทำลายของสงฆ์ทันที.
**********
คำสมาทานธุดงค์
(ตั้งนะโม ๓ จบก่อน)
๑. ถือการใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ให้ว่าดังนี้ คะหะปะติทานะจีวะรัง ปะฏิกขิปามิ ปังสุกูลิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดจีวรที่ คฤหบดีถวาย
ขอสมาทานองค์ของผู้ถือการใช้ ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
๒. ถือการใช้ผ้า ๓ ผืนเป็นวัตรว่า จะตุตถะจีวะรัง ปะฏิกขิปามิ เตจีวะริกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดจีวรผืนที่สี่
ขอสมาทานองค์ของผู้ถือผ้าไตรจีวรเป็นวัตร
๓. ถือการเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรว่า อะติเรกะลาภัง ปะฏิกขิปามิ ปิณฑะปาติกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดอติเรกลาภ ขอสมาทาน
องค์ของผู้ถือการเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร
(คำว่า "งดอติเรกลาภ" คือไม่รับของ ที่เขานำมาถวายเป็นพิเศษ นอกจากที่ได้มาจากบิณฑบาตเท่านั้น)
๔. ถือการเที่ยวบิณฑบาตไปตามแถวเป็นวัตร ว่าดังนี้ โลลุปปะจารัง ปะฏิกขิปามิ สะปะทานะจาริกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดการเที่ยวไปด้วยความโลเล
ขอสมาทานองค์ ของผู้เที่ยวบิณฑบาตไปตามแถวเป็นวัตร
(คำว่า "ไปตามแถว" หมายความว่าเคย ไปทางไหน...ก็ไปทางนั้นไม่โลเล)
๕. ถือการฉันที่อาสนะเดียวเป็นวัตร ว่า นานาสะนะโภชะนัง ปะฏิกขิปามิ เอกาสะ นิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดการฉันที่อาสนะต่าง ๆ
ขอสมาทานองค์ของผู้ฉันที่อาสนะเดียวเป็นวัตร
๖. ถือการฉันเฉพาะอาหารในบาตรเป็น วัตร ว่า ทุติยะภาชะนัง ปะฏิกขิปามิ ปัตตะ ปิณฑิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดภาชนะที่ สอง
ขอสมาทานองค์ของผู้ถือการฉันเฉพาะ อาหารในบาตรเป็นวัตร
๗. ถือไม่ฉันอาหารที่ห้ามเขานำมาถวาย ในภายหลังเป็นวัตร ว่า อะติริตตะโภชะนัง ปะฏิกขิปามิ ขะลุปัจฉาภัตติกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดโภชนะอันเหลือเฟือ
ขอสมาทานองค์ของผู้ถือการไม่ฉันอาหารที่ห้ามแล้วมีผู้นำมา ถวายในภายหลังอีกเป็นวัตร
๘. ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร ว่า คามันตะ เสนาสะนัง ปะฏิกขิปามิ อารัญญิกังคัง สะมาทิ ยามิ ข้าพเจ้างดสถานที่อาศัยใกล้หมู่บ้าน
ขอสมาทานองค์ของผู้อยู่ในป่าเป็นวัตร
๙. ถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร ว่า ฉันนัง ปะฏิกขิปามิ รุกขะมูลิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดสถานที่มุงที่บัง ขอสมาทานองค์ของผู้อยู่โคนไม้เป็นวัตร
๑๐. ถืออยู่ในที่แจ้งเป็นวัตร ว่าดังนี้ ฉันนัญจะ รุกขะมูลิกัญจะ ปะฏิกขิปามิ อัพโภกาสิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดสถาน ที่มุงที่บังและโคนไม้
ขอสมาทานองค์ของผู้ถือการอยู่ในที่แจ้งเป็นวัตร
๑๑. ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร ว่าดังนี้ นะสุสานัง ปะฏิกขิปามิ โสสานิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดสถานที่อยู่อันมิใช่ป่าช้า ขอ
สมาทานองค์ของผู้ถือการอยู่ป่าช้าเป็นวัตร
๑๒. ถือการอยู่ในสถานที่ตามที่จัดให้เป็นวัตร ว่า เสนาสะนะโลลุปปัง ปะฏิกขิปามิ ยะถาสันถะติกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างด ความโลเลในสถานที่อยู่
ขอสมาทานองค์ของ ผู้ถือการอยู่ในสถานที่ตามที่จัดให้เป็นวัตร
๑๓. ถือการนั่งเป็นวัตร ว่า เสยยัง ปะฏิกขิปามิ เนสัชชิกังคัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้างดการนอน ขอสมาทานองค์ของผู้ถือการนั่งเป็นวัตร
......(หมายเหตุ : จะมีผู้กล่าวนำในการสมาทานทุกข้อ แต่ถ้าต้องการสมาทานข้อไหน ให้ เลือกปฏิบัติเฉพาะข้อนั้น ต่อไปจะเป็นบทสวด มนต์ ก่อนที่จะสวด ๒
บทนี้ ควรตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วสวด "อิติปิโส" ก่อน และจะ สวดมนต์บทไหนอีกก็ได้ตามที่ต้องการ)
บทเมตตัญจะ
.......เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย
อะปะริมาณัง อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ
อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง ติฏฐัญจะรัง
นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะ มิทโธ
เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง
วิหารัง อิธะมาหุ ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา
ทัสสะเนนะ สัมปันโน กาเมสุ วิเนยยะ
เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติฯ
(บทนี้แผ่ให้ "เทวดา" และบทต่อไปแผ่ให้ สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย เช่น "งู" เป็นต้น)
บทวิรูปักเข
........วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอรา ปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง
เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม มา มัง
อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก มา มัง
จะ ตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
........อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ
ปะมาณะวันตานิ สิริงสะ ปานิ
อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา
กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา
ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง
นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมา สัมพุทธานัง ฯ
**********
webmaster - 2/12/10 at 15:58
ทางวัดท่าซุงแจ้งข่าวให้ทราบ
๑. ฆราวาสชาย-หญิง จะอยู่ธุดงค์ในป่า (พราหมณ์ชายจัดให้อยู่ในป่าใหม่ (ท้ายสุดของพระ) ส่วนพราหมณ์หญิงอยู่ป่าศรีไพร (ป่าเก่า) โปรดติดต่อพระเจ้าหน้าที่ ณ
ศาลา ๒๕ ไร่ ตั้งแต่วันที่ ๖ ธันวาคม เป็นต้นไป
๒. ผู้หญิงสมัครอยู่ธุดงค์ แต่ไม่ได้อยู่ป่า จะจัดให้พักที่ อาคาร ๒๕ ไร่
ผู้ชายสมัครธุดงต์ แต่ไม่ได้อยู่ป่า จะจัดให้พักที่ ศาลา ๔ ไร่
๓. พราหมณ์ชาย-หญิง ที่ไม่ได้อยู่ธุดงค์ในป่า ไปเจริญกรรมฐานร่วมกัน ณ ลานธรรม ให้นั่งต่อแถวหลังพราหมณ์ชาย-หญิง ที่อยู่ธุดงค์ในป่า
๔. พระภิกษุอาคันตุกะที่เดินทางมาเพื่อปฏิบัติธุดงค์ นิมนต์ติดต่อพระเจ้าหน้าที่ ณ ศาลานวราช
๕. พระภิกษุอาคันตุกะที่ไม่ได้มาอยู่ธุดงค์ พักที่อาคารบนหอฉัน และฉันเช้า-เพล ที่ศาลา ๔ ไร่ (ไม่ต้องออกบิณฑบาต)
๖. ผู้ที่ประสงค์จะใส่บาตรพระสงฆ์ในตอนเช้า ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ธ.ค. จะมีอาหารจำหน่ายที่บริเวณ ลานจอดรถ ๒๕ ไร่ เมื่อซื้ออาหารใส่บาตรแล้ว
โปรดเข้าแถวให้เรียบรัอยก่อนเวลา ๐๖.๐๐ น. (จากสถิติในแต่ละปี จะมีพระสงฆ์วัดท่าซุงและพระอาคันตุกะ รวมแล้วไม่เกิน ๕๐๐ รูป)
๗. ผู้ที่อยู่ธุดงค์ ทั้งพระภิกษุและสามเณร รวมทั้งญาติโยมชายหญิง หากมีอาการป่วยไข้ไม่สบาย โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่พยาบาล ที่ศาลา ๑๒ ไร่
และที่ห้องพยาบาลตึกขาว ชั้น ๒
๘. ผู้ที่เข้าพักในห้องพัก บางท่านเดินทางมาในระหว่างงานธุดงค์ โดยเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีคนเข้าพักเป็นจำนวนมาก โปรดระมัดระวังสิ่งของมีค่า
อย่าเก็บไว้ในห้อง ควรนำสิ่งของมีค่าติดตัวออกไปด้วยทุกครั้ง
การฝึกมโนมยิทธิ (ครึ่งกำลัง)
งานธุดงค์ปีนี้ เริ่มฝึกตั้งแต่วันที่ ๙ ธ.ค. ๒๕๕๓ ผู้ที่ไม่เคยฝึกและมีความประสงค์จะฝึกมโนมยิทธิ โปรดเขียนใบสมัครที่เจ้าหน้าที่ในศาลา ๑๒ ไร่
ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึง เวลา ๑๑.๐๐ น. ควรเข้าห้องฝึกเวลา ๑๑.๓๐ น. เริ่มฝึกเวลา ๑๒.๓๐ น. เครื่องบูชาครูมีเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ในศาลา ๑๒ ไร่
หมายเหตุ
กำหนดงานธุดงค์ ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๗ ธ.ค. ๕๓ ทางเวปวัดท่าซุงได้แก้ไขใหม่ ณ วันที่ 2 ธ.ค. ๕๓