ข่าวศูนย์ฯ (ธัมมวิโมกข์ เมษายน 2553) "เว็บวัดท่าซุง"
kittinaja - 26/3/10 at 15:21

ข้อมูลจาก.. หนังสือ "ธัมมวิโมกข์"
ฉบับ เดือน เมษายน ๒๕๕๓


"จามร" และ " วิชชุดา " - รวบรวม
ผู้ถ่ายภาพ นาย พสิษฐ์ หีบพร


งานปฎิบัติธรรมปิดวาจา (รักษาศีล ๘ กรรมบถ ๑๐)
วันที่ ๒๖, ๒๗, ๒๘ กุมภาพันธ์ และ ๑ มีนาคม ๒๕๕๓


พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวโร (หลวงพี่โอ) เป็นประธานร่วมกับ พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ พร้อมพระวิเชียร สุธมฺมปายโก, พระปรีชา และ พระชะอุ้ม จัดงานปฏิบัติธรรมปิดวาจา รักษาศีล ๘ กรรมบถ ๑๐ ในบริเวณป่าราชพฤกษ์ ๑๐๐ ไร่ (ป่าธุดงค์)

ด้านในเป็นเวลา ๓ คืน ๒ วัน งานนี้จัดเป็นครั้งที่ ๓ โดยท่านพระครูปลัดอนันต์ ประกาศไว้ที่บ้านสายลมเมื่อคราวเดือนมกราคม ญาติโยมหลายท่านตื่นเต้นดีใจที่จะได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกครั้งพิเศษนี้ไม่แม้แต่ลังเลใจที่จะละทิ้งความสะดวกสบายเพลิดเพลินในทางโลก หลายท่านที่เคยได้เข้าร่วมเมื่อครั้งก่อนคงจำบรรยากาศบริเวณป่าด้านในช่วงค่ำคืนได้ว่าสวยสงบอย่างมีมนต์ขลังมากเพียงใด งานปีนี้ป่าก็ยังคงความ "ขลัง" เหมือนทุกครั้ง

ญาติโยมที่ทราบข่าวทยอยเดินทางเข้ารายงานตัวกับพระวิเชียร (๑) หรือหลวงพี่เล็กกันตั้งแต่เช้าวันศุกร์เพื่อขอเลขประจำตัวและตำแหน่งสถานที่กางเต๊นท์ หลายท่านทราบซึ้งกับความเมตตาของหลวงพี่ซึ่งคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี งานครั้งนี้มีอุบาสิกาเดินทางมาเข้าร่วมทั้งหมด ๑๐๒ คน และมีอุบาสกเข้า ร่วม ๖ คน


กิจวัตรในแต่ละวันเน้นให้มีการฝึกสติพิจารณา ใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการระลึกรู้ มีสติ และอยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง เพื่อป้องกันจิตใจและระมัดระวังไม่ปล่อยวาจาออกมา ตามที่ตั้งกติกาและเวลาเอาไว้


ในแต่ละวันมีการกำหนดช่วงเวลาที่อนุญาตให้พูดคุยกันได้ และกำหนดบทลงโทษหากมีการละเมิดเปิดปากในช่วง ๐๘.๐๐ - ๑๖.๓๐ น. และหลังจากการเปิดเสียงตามสายเวลา ๒๐.๐๐ น. ซึ่งจะเป็นเวลาฝึกจิตสร้างปัญญาด้วยการเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิ ก่อนจะปิดไฟนอนเวลา ๒๑.๐๐ น. โดยคนที่รู้ตัวว่าเผลอก็ต้องออกมารายงานตัวขานชื่อสารภาพความผิดเรื่องที่ทำ ขอขมากรรมต่อหน้าพระและทุกคนหลังทำวัตรเช้าตอนตีสี่

วันแรกก็มีญาติโยมประมาณสิบคนที่ต้องออกมาสวดอิติปิโส เรียกสติแก้ลืม แต่พอวันต่อมามีผู้ออกมาสวดอิติปิโส ถึงสามสิบกว่าคน ต้องชมเชยทุกท่านที่ซื่อสัตย์ต่อความดีของตัวเอง พูดได้ว่านอกจากจะฝึกให้มีสติและวินัยแล้วยังฝึกให้ยอมรับความจริงว่าตนขาดสติบ่อยขนาดไหนอีกต่างหาก

กราบขอบพระคุณหลวงพี่โอและท่านพระครูปลัดอนันต์ ที่เมตตาสงเคราะห์ทนเหนื่อยจัดอบรมให้กับญาติโยมในครั้งนี้ และขอขอบพระคุณพร้อมทั้งขออนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ทุกองค์ ที่ร่วมกันจัดงาน รวมทั้งญาติโยมทุกท่านที่ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมฝึกสติรอบพิเศษครั้งนี้


ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยพร้อมด้วยอานิสงค์แห่งความตั้งใจปฏิบัติดีของท่านทั้งหลาย จงเป็นปัจจัยให้ทุกท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม สมดังปรารถนาในความดีงาม ทุกประการ หากปรารถนาพระนิพพานก็ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ..




ทำบุญงานวันมาฆบูชา
วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
(ขี้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ )


เวลา ๐๗.๐๐ น. ญาติโยมนำภัตตาหาร ใส่บาตรทำบุญ ที่ศาลาพระพินิจอักษร เวลา ๐๘.๐๐ น. ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ระหว่างพระสงฆ์ฉันภัตตาหาร เปิดวีดิทัศน์ พระธรรมเทศนา เรื่องวันมาฆบูชา โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จบแล้ว ทายกนำอุทิศส่วนกุศล พระสงฆ์ให้พร

เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. ถวายสังฆทานที่มหาวิหาร ๑๐๐ เมตร หยุดรับสังฆทาน ระหว่างเวลา ๑๒.๐๐ น.-๑๔.๐๐ น. เพื่อให้ญาติโยมได้ฝึกมโนมยิทธิ ที่ มหาวิหาร ๑๐๐ เมตร
เวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์ลงสังฆกรรมฟังสวดพระปาติโมกข์


ตอนเย็น เวลา ๑๗.๓๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เจ้าอาวาส นำพระภิกษุสงฆ์ ญาติโยมพุทธบริษัท ทียนรอบพระอุโบสถ ๓ รอบ เนื่องใน วันมาฆบูชา


เมื่อปักธูปเทียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อุทิศส่วนกุศล เสร็จแล้วแยกย้ายกันกลับที่พัก




วันที่ ๕, ๖, ๗ และ ๘ มีนาคม ๒๕๕๓
ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ และพระสงฆ์ ๔ รูป มี พระครูสังฆรักษ์สุรจิต, พระไพบูลย์, พระบุญชู เดินทางไปรับสังฆทานและฝึกมโนมยิทธิ ณ บ้านเลขที่ ๙ ซอยสายลม ๑ กรุงเทพฯ

วันที่ ๕ มี.ค. ฉันภัตตาหารเช้าแล้วออกเดินทางไปบ้าน พล.อ.อ.อาทร โรจนวิภาต เพื่อรับสังฆทาน เวลา ๑๑.๐๐ น. ฉันภัตตาหารเพล เวลา ๑๒.๐๐ น. เดินทางเข้าบ้านสายลม
ตอนกลางคืน เวลา ๑๙.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทานและสนทนาธรรมกับญาติโยมพุทธบริษัท

วันที่ ๖ - ๗ มี.ค. มีการฝึกมโนมยิทธิ แบบครึ่งกำลัง ตั้งแต่เวลา ๑๒.๓๐ น. ถึง ๑๕.๐๐ น.
วันที่ ๖ มี.ค.
ผู้ฝึกมโนมยิทธิขั้นต้น ๒๕๔ คน
ฝึกไปเห็นสภาวะพระนิพพานได้ ๑๗๓ คน
ผู้มาฝึกญาณ ๘ - คน
รวมผู้มาฝึกมโนมยิทธิทั้งหมด ๒๕๔ คน

วันที่ ๗ มี.ค. ผู้ฝึกมโนมยิทธิขั้นต้น ๒๒๗ คน
ฝึกไปเห็นสภาวะพระนิพพานได้ ๑๖๓ คน
ผู้มาฝึกญาณ ๘ ๒๘๕ คน
รวมผู้มาฝึกทั้งหมด ๕๑๒ คน
รวม ๒ วัน ๗๖๖ คน

วันที่ ๖, ๗ และ ๘ มี.ค.
ตอนเช้า เวลา ๐๙.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ ลงรับสังฆทาน
เวลา ๑๑.๐๐ น. พักฉันภัตตาหารเพล
เวลา ๑๒.๑๕ น. รับสังฆทานต่อจนกระทั่ง เวลา ๑๕.๓๐ น. ขึ้นพัก
ตอนกลางคืน เวลา ๑๙.๐๐ น. เจริญ พระกรรมฐานแบบสุกขวิปัสสโก โดยเปิดวีดิทัศน์คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เวลา ๒๐.๐๐ น. หลังสวดมนต์เสร็จ ดร. ปริญญา นุตาลัย นำกล่าวคำถวายสังฆทาน เวลา ๒๑.๐๐ น. ดร. ปริญญา นำสวด อิติปิโส ทำนองสรภัญญะ และ คาถาเงินล้าน จบแล้วอุทิศส่วนกุศล ท่านพระครูปลัดอนันต์ ให้พรแล้วขึ้นพัก

วันที่ ๘ มี.ค. เดินทางกลับวัด

ในส่วนของบทสนทนาระหว่างท่านพระครูปลัดอนันต์ และ ดร. ปริญญา เดือนนี้เป็นเรื่อง ของการจัดงานพิเศษประจำเดือนมีนาคมปีนี้ คือ
วันที่ ๑๓ - ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๓ งานทำบุญ ประจำปี และพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ไทย งานวันเสาร์ห้า ในวันที่ ๒๐ มีนาคม ซึ่งทางวัดจัดฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง รอบพิเศษเวลา ๑๒.๐๐ น. งานพิธีพุทธาภิเษกใน เวลา ๑๗.๐๐ น. และ พิธีเททองหล่อพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ และรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ๒ องค์ เพื่อประดิษฐานที่ตึกสมบัติพ่อให้ เวลา ๑๘.๓๐ น. ซึ่งมีญาติโยมเริ่มทยอยถวายทองคำเพื่อหล่อพระให้กับท่านพระครูปลัดอนันต์ หลายท่านแล้ว




งานทำบุญประจำปีที่ศาลา ๑๒ ไร่
และพิธีบวงสรวง ที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพมหากษัตริย์ไทย
วันเสาร์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๓

วันนี้เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน ถวายอาหารเช้าและเพลพระสงฆ์วัดท่าซุงที่สวนไผ่เวฬุวัน
เวลา ๑๖.๓๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เดินทางมาถึงเต็นท์ปะรำพิธีด้านข้าง พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้านนอกกำแพงหน้ามหาวิหาร ๑๐๐ เมตร ฝั่งทิศตะวันตก โดยมี ดร. ปริญญา นุตาลัย ทำหน้าที่ทายกและพิธีกรผู้ดำเนินงาน


พระครูสมุห์พิชิต (หลวงพี่โอ) พร้อมด้วยพระวัดท่าซุงเมตตามาเข้าร่วมพิธีบวงสรวงกันหลายรูป ท่านพระครูปลัดอนันต์ สนทนาโต้ตอบกับ ดร. ปริญญา เจริญศรัทธาให้กับศิษยานุศิษย์พุทธบริษัทที่นั่งรออย่างสบายใจ ท่ามกลางอากาศร้อนและแล้งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา แดดยังจัดแสงอาทิตย์ยังจ้าชวนให้นึกถึงบรรยากาศร้อน ของการเมืองในเมืองหลวง


เพียงครู่หนึ่งแดดก็ลด เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. เริ่มพิธีบวงสรวงหน้าพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
โดยมี คุณภูมมรินทร์รัตน์ สัตยากุมภ์, คุณสุธาทิพย์ กลิ่นจำปา และคุณกฤษฌานะ กรีกุล เป็นเจ้าภาพเครื่องบูชาบายศรี จุดธูปเทียนบวงสรวง
พระเจ้าหน้าที่คุมเครื่องเสียงเปิดเทป บวงสรวง โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ จากนั้น ดร. ปริญญา นำพุทธศาสนิกชนทั้งหมดกล่าวขอขมาพระรัตยตรัย บูรพมหากษัตริย์ไทย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นวัดท่าซุง


จบแล้ว คณะนักเรียน ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา แสดงรำถวายมือ สวยงามน่าชมเชย หลังจบการแสดง ท่านพระครูปลัดอนันต์ เมตตามอบรางวัลให้กับนักเรียนที่รำ

จากนั้นย้ายไปทำพิธีที่เต็นท์ปะรำพิธี ฝั่งทิศตะวันออก ระหว่างรอทำพิธีบวงสรวง วงโยธวาธิตคณะนักเรียน ร.ร. พระสุธรรมยานเถระวิทยา บรรเลงเพลงโชว์สร้างความเพลิดเพลินให้ ผู้มาร่วมงานบวงสรวงในวันนี้


ก่อนเริ่มทำพิธีบวงสรวง ดร. ปริญญา ประกาศแจ้งรายชื่อเจ้าภาพบายศรีให้เข้าประจำที่เพื่อจุดธูปเทียนบวงสรวงหน้าพระราชานุสาวรีย์ทั้ง ๔ รัชกาล
เจ้าภาพเครื่องบูชาบายศรี มีรายนาม ดังนี้


คุณกนิษฐา ฉันทนาชัย เจ้าภาพเครื่องบายศรีบูชา รัชกาลที่ ๑


คุณฐิตาพร ช่วยพนัง เจ้าภาพเครื่องบายศรีบูชา รัชกาลที่ ๕


คุณต้น - คุณภัคชาดา หิรัณยเตชะ เจ้าภาพเครื่องบายศรีบูชา รัชกาลที่ ๖


คุณวิภาวัลย์ ต้นสายเพชร เจ้าภาพเครื่องบายศรีบูชา รัชกาลที่ ๗
จากนั้นจึงเริ่มเปิดเทปบวงสรวง โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ จบแล้วต่อด้วยการรำถวายของนักเรียน ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา จำนวน ๕ ชุด


ชุดรำงูกินหาง



ชุดระบำเซิ้ง



จบการรำถวายของนักเรียน ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา ทั้ง ๕ ชุด ซึ่งมีทั้งความน่ารักน่าเอ็นดูและอ่อนช้อยสวยงาม ท่านพระครูปลัดอนันต์ เมตตามอบรางวัลให้กับนักเรียนที่รำทุกคน รวมทั้งครูผู้ฝึกและนักดนตรี
จบพิธีบวงสรวงที่หน้าอนุสาวรีย์บูรพมหา- กษัตริย์ไทย ประมาณเวลา ๑๘.๓๐ น.

ขอขอบคุณคณะพระสงฆ์วัดท่าซุง อาจารย์ บุญเรือน บุญมาก คณะนักเรียน ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา และคณะเจ้าหน้าที่ทำงาน ที่ร่วมกันจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ประกอบ พิธีการต่าง ๆ อย่างสวยงาม รวมทั้งคณะผู้จัดทำเครื่องบูชาบายศรี ท่านผู้เป็นเจ้าภาพบายศรี ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วย

หลังจบพิธีที่พระบรมราชานุสาวรีย์หน้ามหาวิหาร ๑๐๐ เมตรแล้ว ญาติโยมพุทธบริษัทก็ไปรวมกันที่ศาลา ๑๒ไร่ เพื่อฟังพระสงฆ์วัดท่าซุงเจริญพระพุทธมนต์เย็น

ท่านพระครูปลัดอนันต์ นั่งรับสังฆทาน ที่หน้าพระประธาน ณ ศาลา ๑๒ ไร่ มีญาติโยมทยอยเข้ามาถวายสังฆทานทั้งชุดใหญ่ ชุดเล็กกันอย่างต่อเนื่อง พิธีกรรมช่วงหัวค่ำของวันนี้จะอยู่ ด้านอาสนสงฆ์ด้านซ้ายของพระประธาน
เวลา ๑๙.๐๐ น. พระสงฆ์วัดท่าซุง ขึ้นนั่งบนอาสนสงฆ์


เวลา ๑๙.๑๐ น. ดร.ปริญญา กล่าวเรียนเชิญ คุณวันทภรณ์ พรกิตติโชติเจริญ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนรัย และ คุณประมวล ราชอินทร์ จุดธูปเทียนบูชาพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณประไพ สุนทราณู จุดธูปเทียนบูชาพระธรรม

จากนั้น ดร.ปริญญา กล่าวนำบูชาพระรัตนตรัยและสมาทานศีลห้า ประธานสงฆ์ให้ศีล จบแล้วฆราวาสทั้งหมดกล่าวอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ชุมนุมเทวดาจบแล้วสวด พระปริตรและสวดธัมมจักรกัปปวัตนสูตร


ญาติโยมนั่งพนมมือฟังสวดพระพุทธมนต์ด้วย


ความสงบ พระสงฆ์สวดจบแล้ว ดร. ปริญญา ประกาศรายชื่อเจ้าภาพถวายเครื่องไทยทาน


นักเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยานำเครื่องไทยทานวางเรียงบนอาสนสงฆ์ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ดร. ปริญญา นำกล่าวคำถวายเครื่องไทยทานแด่พระสงฆ์

เจ้าภาพทั้งหมดเข้าถวายเครื่องไทยทานแด่พระสงฆ์
จากนั้นเป็นการสวดพระอภิธรรม ถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ พระสงฆ์ไม่ได้ลงจากอาสนสงฆ์ สวดอภิธรรมต่อเนื่องเลย

ดร. ปริญญา ประกาศเชิญชวนให้ญาติโยมพุทธบริษัทไปผาติกรรมผ้าไตรและผ้าสบงสำหรับเพื่อถวายเป็นผ้าบังสุกุล เมื่อพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมจบ


ดร. ปริญญา นำกล่าวอาราธนาธรรม พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม จบแล้ว เจ้าหน้าที่นำผ้าภูษาโยงวางพาดบนอาสนาสงฆ์ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ญาติโยมเข้าทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล จากนั้นจึงประกาศเชิญให้ญาติโยมเข้าถวายปัจจัยใส่ย่ามแด่พระสงฆ์ตามอัธยาศัย

เสร็จแล้ว ดร. ปริญญา นำอุทิศส่วนกุศล ถวายกุศลให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ พระสงฆ์ให้พร เป็นเสร็จพิธีในการบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ญาติโยมก็แยกย้ายกันกลับที่พัก




งานทำบุญประจำปี ๒๕๕๓
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๓



เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน ถวายอาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่สวนไผ่เวฬุวัน
เวลา ๐๘.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ พร้อมพระสงฆ์อาคันตุกะ และพระสงฆ์วัดท่าซุง ทำพิธีบวงสรวง ท่านท้าวเวหน พระภูมิเจ้าที่ของวัดท่าซุง ซึ่งอยู่ใกล้กับ วิหารพระศรีอาริยเมตไตรย


โดยมี คุณวิรัตน์ คาดการ เจ้าภาพเครื่องบายศรีบูชา ท่านท้าวเวหน พระภูมิเจ้าที่ของวัดท่าซุง ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ทำพิธีบวงสรวง เสร็จแล้วประพรมน้ำพุทธมนต์


จากนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์ พร้อมคณะสงฆ์และญาติโยมพุทธบริษัทเคลื่อนขบวน เข้าสู่ศาลา ๑๒ ไร่
จากนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์ พร้อมด้วย พระครูสังฆรักษ์สุรจิต ขึ้นนั่งรับสังฆทาน จากญาติโยมพุทธบริษัทที่โซฟาบนเวทีหน้าพระประธาน
ญาติโยมเข้ามาในศาลา ๑๒ ไร่ ก็ถวายสังฆทานกันตลอดตั้งแต่เช้า มีทั้งชุดละ ๑๐๐ บาท, ๕๐๐ บาท, ๑,๐๐๐ บาท และ ๒,๐๐๐ บาท


พระสงฆ์วัดท่าซุงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายฆราวาสส่วนหนึ่งรอต้อนรับพระเถรานุเถระและคณะพระสังฆาธิการที่นิมนต์มางานทำบุญประจำปีในวันนี้
เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน เป็นผู้ทำอาหารเลี้ยงพระสงฆ์อาคันตุกะที่เดินทางมาร่วมงาน และพระสงฆ์วัดท่าซุงที่สวนไผ่เวฬุวัน
คณะพุดตาล, คณะรวมใจภักดิ์, คณะ นักเรียน ร.ร.พสธ. เป็นฝ่ายจัดเลี้ยงพระเถรานุเถระและพระสังฆาธิการ ที่ศาลา ๑๒ ไร่
นักเรียนชาย - หญิง ร.ร. พระสุธรรมยานเถระวิทยา ช่วยกันยกสังฆทาน
วงเครื่องมโหรีปี่พาทย์และวงโยธวาทิต ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยาบรรเลงเพลงและ แสดงรำ ที่เวทีพิเศษ ถัดจากเวทีหน้าพระประธานศาลา ๑๒ ไร่


เวลา ๐๘.๕๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ และ พระครูสังฆรักษ์สุรจิต ทำพิธีบวงสรวงเนื่องในวันทำบุญงานประจำปี ที่ ศาลา ๑๒ ไร่
เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึง ๑๐.๐๐ น. พระเถรานุเถระทยอยเดินทางถึงวัดท่าซุง และเข้านั่งพักที่ โซฟารับรอง ข้างพระประธานในศาลา ๑๒ ไร่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระธรรมปริยัติโมลี เจ้าคณะภาค ๓ ขึ้นนั่งโซฟา ด้านหน้าพระประธาน


เวลา ๑๐.๓๐ น. ดร. ปริญญา นุตาลัย อาราธนาพระสังฆาธิการที่นิมนต์มาทั้งหมดขึ้นอาสนสงฆ์ เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้ว ดร.ปริญญา เรียนเชิญตัวแทนฝ่ายฆราวาสจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และที่โต๊ะหมู่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ
จากนั้น ดร. ปริญญา กล่าวนำกราบพระและอาราธนาศีล ๕ ประธานสงฆ์ให้ศีล จบแล้ว พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์


เมื่อเรียบร้อยแล้ว ดร.ปริญญา กล่าวคำถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์


เสร็จแล้วจึงได้นิมนต์พระเถรานุเถระที่นิมนต์มาในงานลงจากอาสนสงฆ์ไปที่บริเวณสำหรับฉันอาหารเพล ซึ่งจัดวางโต๊ะ-เก้าอี้คลุมผ้าขาวตกแต่งพื้นที่โดยรอบไว้อย่างสวยงามสะอาดเรียบร้อย เมื่อพระเถรานุเถระนั่งเรียบร้อยแล้ว เจ้า หน้าที่เข้าประเคนสำรับอาหาร พระเถรานุเถระเริ่มฉันภัตตาหารพระสงฆ์อาคันตุกะที่เดินทางมาร่วมงานและพระสงฆ์วัดท่าซุง ร่วมฉันภัตตาหารเพลที่จัดไว้ในพื้นที่เดียวกัน

ในระหว่าง พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระธรรมปริยัติโมลี และพระเถรานุเถระฉันภัตตาหาร นักเรียน ร.ร.พระสุธรรมยานเถระวิทยา รำถวายและบรรเลงดนตรีไปด้วย


คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดเลี้ยงเข้าปรนนิบัติรับใช้อยู่ด้านข้าง เมื่อพระฉันของคาวเสร็จก็ยกออกและนำของหวานเข้าเทียบจนฉันเสร็จเรียบร้อย


พระเถรานุเถระกลับมานั่งที่อาสนสงฆ์ นั่งเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่เครื่องไทยทานเข้า เทียบวางบนอาสนสงฆ์ ดร. ปริญญา ประกาศรายชื่อเจ้าภาพเครื่องไทยทาน ให้เข้านั่งประจำที่


เรียบร้อยแล้ว ดร. ปริญญา นำกล่าวคำถวายเครื่องไทยทาน จบแล้วเจ้าภาพเข้าประเคนถวายเครื่องไทยทาน


ท่านพระครูปลัดอนันต์ เข้าไปถวายเครื่องไทยทานแด่ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระธรรมปริยัติโมลี และเข้าไปถวาย ปัจจัยแด่พระเถรานุเถระ


เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่นำขันเงินมาวางบนอาสนสงฆ์ด้านหน้าพระสังฆาธิการ เพื่อให้ญาติโยมได้ทำบุญใส่ขันตามอัธยาศัย


เสร็จแล้ว ดร.ปริญญา อาราธนา พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระธรรมปริยัติโมลี เจ้าคณะภาค ๓ กล่าวสัมโมทนียกถา


กล่าวจบ ดร.ปริญญา นำอุทิศส่วนกุศล พระเถรานุเถระให้พร หลังจากให้พรจบแล้ว พระสงฆ์ลงจากอาสนสงฆ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับคอยส่งและขอบคุณท่านที่เดินทางมาในวันนี้

เป็นอันว่างานทำบุญประจำปี ๒๕๕๓ สำเร็จลงด้วยความเรียบร้อย พระสงฆ์ฝ่ายจัดงานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายฆราวาสถึงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยกัน แต่ก็อิ่มอกอิ่มใจในวันนี้ แล้วหวังว่าปีหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายฆราวาสทุกท่านคงจะมาร่วมในการจัดงาน และสร้างบารมีร่วมกันอีกนะ แล้วพบกันอีกในงานทำบุญประจำปีปีหน้า ขออนุโมทนา..

ด้วยอานิสงส์แห่งความตั้งใจดีของทุก ท่านในครั้งนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้มีพร้อมทั้ง ความสุข และความเจริญ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ขอให้ได้สมตามคำอธิษฐาน ดังความปรารถนาทุกประการ หากท่านปรารถนาพระนิพพาน ขอให้ได้เข้าสู่พระนิพพานในชาติ ปัจจุบันนี้เทอญ .




งานฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกําลัง,
พิธีพุทธาภิเษก (เสาร์ ๕) และงานพิธีเททองหล่อพระ
วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓

วันเสาร์ที่ ๒๐ มีนาคม ของปีนี้ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษฤกษ์ดีที่หลาย ๆ ปีจะมีสักครั้งหนึ่งเพราะตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ คํ่า เดือน ๕ ทั่วประเทศไทยจึงจัดงานพุทธาภิเษกปลุกเสกวัตถุมงคลเช่นเดียวกับที่วัดท่าซุง ซึ่งถือโอกาสนี้จัดฝึกมโนมยิทธิเต็มกําลังที่ศาลา ๑๒ ไร่

ญาติโยมกลุ่มหนึ่งเดินทางมาพักรักษาศีล ที่วัดกันล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย และเตรียมสมาธิจิตสําหรับการฝึกรอบพิเศษในวันเสาร์ ๕ นี้ ญาติโยมที่เดินทางมาวัดตอนเช้าที่ใช้บริการแพยนต์ข้ามแม่นํ้า จึงต้องทําใจว่าจะต้องต่อคิวรอนานไม่ตํ่ากว่าครึ่งชั่วโมง แน่นอนว่ายิ่งมาถึงช้ามากเท่าใดก็จะยิ่งหาที่จอด รถได้ยากและลดโอกาสที่จะได้นั่งในตําแหน่ง ที่ต้องการในศาลา ๑๒ ไร่ ให้น้อยลงเรื่อย ๆ เพราะที่นั่งบริเวณหน้าพระประธานและที่ตําแหน่ง ดี ๆ ถูกจับจองเต็ม หมดตั้งแต่ช่วงเก้าโมงเช้า


ช่วงเช้าถวายภัตตาหารเช้าและเพลแด่พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงและพระอาคันตุกะที่ใต้อาคารศาลา ๑๒ ไร่ เจ้าหน้าที่และครูผู้ฝึกเริ่มแจกกระดาษคาถา "นะโนพุทธายะ" ให้ผู้ที่มาร่วมฝึกตั้งแต่ช่วงสิบโมงกว่า

ซึ่งผู้มาฝึกส่วนมากก็จะทราบแล้วว่า ต้องเก็บกระดาษพระคาถาไว้ในที่สูง เช่น แขวนไว้ที่คอหรือศีรษะ ที่บริเวณประตูทางเข้าศาลา ๑๒ ไร่ มีจุดให้บริการบูชาพานครูดอกไม้สามสีธูปเทียนเหมือนทุกครั้งและเพิ่มพิเศษด้วยการจําหน่ายแผ่นทองเหลืองสำหรับพิธีหล่อพระในตอนหัวคํ่า


นอกจากนี้ก็มีซุ้มจําหน่ายหนังสือธรรมะ วัตถุมงคล ยาสมุนไพร สินค้าของทางวัด บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สําหรับผู้ที่ไม่สบาย และหน่วยสร้างบุญของคุณลุงยกทรง เหมือนดั่งคำโบราณว่าไว้ กองทัพเดินด้วยท้อง

ก่อนจะเริ่มฝึกใหญ่ต้องเตรียมกายให้แกร่ง ในศาลา ๔ ไร่ จึ่งแน่นขนัดไปด้วยญาติโยม เพราะมีอาหารเครื่องดื่มอร่อยหลายเมนู ซึ่ง เจ้าภาพที่มีจิตเมตตานำอาหารที่คัดสรรแล้วว่าอร่อยมาเลี้ยงฟรีมากมายเหมือนเช่นทุกครั้ง


เวลาประมาณ ๑๑.๔๕ นาที ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เดินทางเข้าสู่ที่นั่งหน้าพระประธาน เพื่อให้คําแนะนําในการทรงกําลังใจ และเตรียมตัวฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกําลัง ก่อนที่จะเริ่มทําพิธีบวงสรวง
เวลา ๑๑.๕๐ น. โดย ท่านพระครูปลัดอนันต์ และ พระครูสังฆรักษ์สุรจิต จุดธูปเทียนบวงสรวงและทํานํ้าพระพุทธมนต์

จากนั้น พระมงคลเวทย์ พระเจ้าหน้าที่ควบคุมเสียงศาลา ๑๒ ไร่ และ คุณปรีชา พึ่งแสง เปิดเทปเสียง พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน มหาเถระ บูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล ๕ และสมาทานพระกรรมฐาน ตามด้วยคําแนะนําในการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกําลัง ก่อนที่จะให้ผู้ฝึกปิดหน้าด้วย กระดาษพระคาถา นะโมพุทธายะ พนมมือภาวนา นะ มะ พะ ธะ


จากนั้นพระสงฆ์เดินเข้าช่วยประพรมนํ้าพระพุทธมนต์ให้ผู้ร่วมฝึกทุกคน คณะครูฝึกมโนมยิทธิ แบบครึ่งกําลังทั้งพระและฆราวาส ทําหน้าที่ ครูผู้ช่วยฝึก ไปตามแถวที่ผู้ฝึกนั่งฝึกเพื่อช่วยแตะคทา ส่องไฟ เพื่อช่วยให้ผู้ฝึกมีกำลังใจเแช่มชื่น และช่วยแนะนำในการตัดร่างกาย สำหรับผู้ที่กำลังจะฝึกได้ เพื่อให้กำลังใจเด็ดเดี่ยวยิ่งขึ้น


เวลา ๑๓.๑๐ น. ฝึกเสร็จ พระสงฆ์ประพรมนํ้าพระพุทธมนต์อีกครั้ง ตามคําของ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ที่ว่า กันเฝือ แล้วจึงเริ่มเก็บ กลับคืนมา จํานวนผู้เข้าร่วมฝึกครั้งนี้หลายพันคน ก่อนจะจบพิธีการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกําลัง ด้วยการอุทิศส่วนกุศล และกราบพระ

การฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังในวันนี้ มีผู้มาร่วมฝึกมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ผู้มาร่วมฝึกทะยอยเดินทางเข้ามาในศาลา ๑๒ ไร่ ไม่ขาดสายยิ่งใกล้เวลาเริ่มฝึก ผู้มาร่วมฝึกก็ยังเดินเข้ามามาก.. จนได้เวลาฝึกแล้ว ก็ยังมีผู้ฝึกเดินทางมา จนที่นั่งใน ๑๒ ไร่ มีผู้ฝึกนั่งเต็มหมด ไม่เว้นแม้ช่องทางเดินหน้าประตูทางเข้าศาลา ๑๒ ไร่ ด้านหน้าร้านจำหน่ายหนังสือธัมมมวิโมกข์ พอด้านหน้าเต็ม ก็ต้องเข้ามานั่งในบริเวณด้านในร้าน และข้างร้านร้านหนังสือ ซึ่งการฝึกมโนเต็มกำลังครั้งก่อน ๆ ไม่มีคนมาก จนที่นั่งไม่มี และแน่นจนต้องเข้ามานั่งในบริเวณร้านหนังสืออย่างนี้

และยังมีนั่งฝึกที่ทางเดิน ก่อนเข้าศาลา ๑๒ ไร่ แม้แต่หน้าศาลา ๔ ไร่ ก็ยังมี คนนั่งฝึก แต่ละท่านที่มาเวลาในที่เริ่มฝึกแล้ว ก็นั่งฝึก โดยที่ไม่มีกระดาษพระคาถา นะโมพุทธายะ เพราะมา ถึงช้า บางคนก็ไม่มีเครื่องบูชาครู เพราะผู้ฝึกนั่งเต็มแน่นทางเดินไปหมด เข้าไปบูชาดอกไม้และเครื่องบูชาครูไม่ได้ แต่ทุกคนก็ยังนั่งฝึกกันด้วยความสงบ ใบหน้าอิ่มเอิบ จนเสร็จพิธี ด้วยกำลังใจเต็มที่จะมา ร่วมฝึกมโนยิทธิเต็มกำลังในครั้งนี้ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงกับกำลังใจของทุกท่านในครั้งนี้ด้วย สาธุ ๆ..


เสร็จพิธีแล้วญาติโยมต่างทยอยกันเข้าแถวถวายสังฆทาน แถวที่คิวยาวมากเป็นพิเศษคือแถว ของสังฆทานชุดใหญ่ ๒,๐๐๐ บาทเหมือนทุกครั้ง มี พระสงฆ์ที่นั่งรับสังฆทานทั้งหมด ๔ รูป คือ ท่านพระครูปลัดอนันต์ พระครูสังฆรักษ์สุรจิต พระครูใบฎีกาสมพงษ์ และ พระบุญมา ก่อนหยุดรับสังฆทานที่เวลาประมาณ ๑๕.๑๕ น.




พิธีพุทธาภิเษก (เสาร์ ๕)

อากาศช่วงบ่ายของวันเสาร์ ๕ ร้อนแดดแรง จัดจ้าจนกระทั่งเกือบถึงเวลาเริ่มพิธี เก้าอี้ที่นั่งสองข้างของพระอุโบสถถูกจับจองเต็มหมดตั้งแต่ช่วงบ่าย เก้าอี้และที่นั่งในเขตพระอุโบสถเต็มก่อนเวลาเริ่มพิธีหลายชั่วโมง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของวัดจะปูเสื่อให้นั่งในบริเวณ พื้นที่ว่างโดยรอบ ที่นั่งในเขตพระอุโบสถก็ยังมีไม่มาก พอสําหรับพุทธบริษัทที่มารอเข้าร่วมพิธี ทําให้ต้องออกมานั่งอยู่รอบนอกหน้าประตูไม่สามารถฝ่าเข้าไปในเขตพระอุโบสถได้


รถยนต์ที่เคยจอดในบริเวณที่จอดรถรอบพระอุโบสถถูกสั่งให้เคลื่อนย้ายรถออกนอกบริเวณตั้งแต่ วันศุกร์ เจ้าของรถป้ายแดงป้ายขาวที่ปรารถนาจะเข้าร่วมพิธี จึงต้องจอดเรียงแถวซ้อนคันกันอยู่บนถนนใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นเพราะยังทําถนนไม่เสร็จ ด้ายสายสิญจน์ถูกผูกลากโยงยาวออกจากพระอุโบสถข้ามแนวรั้วหลังคาศาลานวราช ผ่านกําแพง พันเสาไฟฟ้า โยงออกมาผูกพันรอบรถยนต์พ่วงต่อกันหลาย ๆ คัน แถมยังไม่หลงเหลือด้ายสายสิญจน์ให้เห็นที่รถเลยสักคันหลังจบพิธี

ปริมาณวัตถุมงคลที่สามารถขนเข้าไปวางในพระอุโบสถซ้อนลังต่อสูงขึ้นร่วมสองเมตร แน่นจนพระสงฆ์แทบจะไม่มีที่ทําพิธี แล้วยังมีรูปหล่อลอยองค์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ หลวงปู่ องค์ใหญ่หลายองค์ รวมทั้งวัตถุมงคล เครื่องลางของขลังอีกมากมายวางเรียงรายอยู่โดยรอบพระอุโบสถอีก

เวลา ๑๖.๔๐ น. พระครูปลัดอนันต์ และพระสงฆ์วัดท่าซุง เดินทางมาถึงพระอุโบสถ ซึ่งมีญาติโยมพุทธบริษัทนั่งอยู่เต็มพื้นที่โดยรอบของพระอุโบสถแล้ว


เวลา ๑๕.๐๐ น. ท่านพระครูปลัดอนันต์ พระครูสมุห์พิชิต พระครูสังฆรักษ์สุรจิต พระใบฎีกาประทีป และ พระละออง จุดธูปเทียนทําพิธี เปิดเทปเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทําพิธีบวงสรวง


เพื่อขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ตามด้วยการสวดบูชาพระรัตนตรัย สวดอิติปิโส ๑๐ จบ และทําสมาธิกรรมฐานอธิษฐานจิต กําหนดจิตขึ้นพระนิพพาน ๓๐ นาที แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล


เสร็จแล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์ พระใบฎีกาประทีป และ พระละออง ประพรมนํ้าพระพุทธมนต์ให้กับสิ่งของรอบพระอุโบสถและญาติโยมที่มาร่วมในพิธี เป็นอันเสร็จพิธีพุทธาภิเษก


จากนั้นพระสงฆ์วัดท่าซุงทยอยเดินออกจากพระอุโบสถผ่านกลุ่มพุทธบริษัทที่เบียดเสียดแน่นขนัดเพื่อรอถวายปัจจัยใส่ย่ามพระบ้าง ขอ แบ่งนํ้าพระพุทธมนต์บ้าง รอขนวัตถุมงคลที่นํามา ร่วมในพิธีกลับบ้าง ดูวุ่นวายสับสนไปหมดแต่ทั้งพระ ทั้งฆราวาสแทบทุกคนต่างมีสีหน้าแช่มชื่นเบิกบาน ต่างกระวีกระวาดย้ายไปรวมกันที่ลานด้านหน้าปราสาท ทองคําเพื่อร่วมพิธีเททองหล่อพระกันต่อไป


มีเสียงรํ่าลือพูดกันทั่วไปว่าวัตถุมงคลที่ผ่าน พิธีพุทธาภิเษกจากวัดท่าซุงในครั้งนี้มีความขลังเต็มเปี่ยมด้วยพุทธานุภาพมาก เสมือนเมื่อครั้ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อปลุกเสกด้วยองค์ท่านเองเลยทีเดียว ขึ้นชื่อ ว่าวัตถุมงคลที่มีรูปพระพุทธเจ้าแล้วย่อมมีพุทธานุภาพเสมือนกันหมดทั้งนั้น




พิธีเททองหล่อพระพุทธรูป ปางป่าเลไลยก์
และหล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ (ท่ายืนถือไม้เท้า และ ท่านั่งขัดสมาธิ)



เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. เหล่าพุทธบริษัทลูกศิษย์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ นั่งกันแน่นขนัดที่ลานด้านหน้าปราสาททองคํา บริเวณปะรําพิธี เขตพื้นที่สุมหุ่นเบ้าหลอมสําหรับเททองหล่อพระ


ท่านพระครูปลัดอนันต์ พร้อมด้วย พระครูสมุห์พิชิต พระใบฎีกาประทีป และพระสงฆ์วัดท่าซุง เข้านั่งในเต็นท์ปะรําพิธี ญาติโยมทยอยเข้าถวายแผ่นทองเหลือง ปัจจัย โลหะมีค่า และทองคําให้กับ ท่านพระครูปลัดอนันต์


ระหว่างรอเวลาสุมทองในเบ้าให้ได้ที่ พระชัยวัฒน์ และ พ.ต.อ. อรรณพ กอวัฒนา ร่วมพูดคุยสนทนากันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของพิธีกรรมคืนนี้ให้กับญาติโยมฟัง เช่นการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ "สมบัติพ่อให้" และตำแหน่งของพระพุทธรูปและรูปเหมือนหลวงพ่อฯ ว่าจะเอิญเชิญไปประดิษฐานตรงไหนภายในอาคารนี้


ก่อนที่ ท่านพระครูปลัดอนันต์ จะเดินไปที่โต๊ะบวงสรวงซึ่งตั้งอยู่หน้าพื้นที่ปะรําพิธีเททองเพื่อเริ่มทําพิธีบวงสรวง ท่านได้ประกาศให้เจ้าภาพและตัวแทนคณะต่าง ๆ สิบกว่าคณะ เข้ารับถุงทอง (เป็นทองคำแท้ที่แต่ละคนนำมาถวาย เมื่อเจ้าหน้ารวบรวมกันแล้ว จึงได้แบ่งเป็นถุงๆ) เพื่อนำลงไปในเบ้าหลอมจาก ท่านพระครูปลัดอนันต์ ที่ปะรำพิธีสงฆ์ด้านข้างปราสาททองคํา


คณะเจ้าภาพตัวแทนทยอยกันเข้าไปหย่อนถุงทองลงเบ้าหลอมทอง โดยมีตัวแทนฝ่ายคฤหัสถ์ คือคณะของ พ.ต.อ. อรรณพ กอวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการถวายทุนสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ "สมบัติพ่อให้" เป็นจำนวนเงินหลายสิบล้าน


ต่อไปก็เป็นฝ่ายบรรพชิตได้แก่ พระครูสุรินทร์ (วัดสุขุมาราม จ.พิจิตร) และ พระครูสมุห์พิชิต พระใบฎีกาประทีป พระชัยวัฒน์ และ ท่านพระครูปลัดอนันต์ เข้าร่วมเททองครั้งนี้ด้วย เมื่อทองหลอมในเบ้าได้ที่แล้ว ช่างเททองก็นำนํ้าทองในเบ้าเทลงในแบบพิมพ์จนครบทุกองค์


ระหว่างนั้น พระสงฆ์ ๙ รูปนําโดย พระบุญมา พร้อมด้วยพระวัดท่าซุงและพระที่มาจากต่างวัด สวดชยันโต จากนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์ กล่าวนําญาติโยมร่วมสวดอิติปิ โส เสียงกระหึ่มก้องสะท้อนทั่ววัด ท่ามกลางแสงไฟที่ประดับบน "ปราสาททองคำ" สวยงามระยิบระยับสว่างไสวไปทั่วบริเวณนั้น ซึ่งมีญาติโยมใส่ชุดขาวเป็นส่วนใหญ่นั่งอยู่หน้าปราสาททองคำเต็มไปหมด


เสร็จพิธีเททองเวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ญาติโยมบางส่วนเดินทางกลับทันที ส่วนท่านที่อยู่ค้างต่อที่วัดทยอยกันกลับเข้าที่พัก เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปร่วมพิธียกฉัตรที่ "วัดธรรมยาน" จังหวัดเพชรบูรณ์ ของหลวงพี่วิรัช ในวันรุ่งขึ้น

หลายท่านเดินเข้าไปรับประทานอาหารต่อที่ศาลา ๔ ไร่ ต้องขออภัยที่คืนนั้นอาหารและเครื่องดื่มมีไม่พอสําหรับบริการญาติโยมในรอบดึก เพราะญาติโยมมาร่วมงานกันมากมายแน่นขนัดวัดจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่ขับรถกลับออกไปจากวัดในคืนนั้น ปรากฏว่ารถติดกันไปเป็นแถวยาวเหยียด นั่งตั้งแต่ประตูทางเข้าวิหารร้อยเมตรไปจนถึงศาลา ๒๕ ไร่

ณ โอกาสนี้ จึงขออนุโมทนาบุญกับจิตอันเป็นกุศล ของท่านสาธุชนที่มาร่วมพิธีบุญของวัดทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ว่าท่านจะเป็นศิษย์ใหม่เพิ่งเคยมาร่วมงานหรือเป็นศิษย์เก่าแก่ก็ถือว่าเป็นลูกหลาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเหมือนกันทั้งหมด

ตราบใดที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยยังคงร่วมใจด้วยศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ท่านใด ที่เดินมาร่วมงานในครั้งเกือบทั่วประเทศ รวมทั้งท่านที่มาจากต่างประเทศด้วย ก็ชื่อว่าได้ร่วมกันสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ดํารงคงอยู่คู่โลกจนครบ ๕,๐๐๐ ปี

ขอบุญกุศลที่ทุกท่านได้ร่วมแรงร่วมใจกันทํามาทั้งหมดนี้ จงเป็นพลวปัจจัยให้ท่านทั้งหลาย จงเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมโดยฉับพลันทันใด หากปรารถนาสิ่งใดที่ไม่ละเมิดกฎของกรรมก็ขอให้สมความปรารถนา หากปรารถนาในพระนิพพานก็ขอให้ได้พบพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ.




แจ้งข่าว
วันที่ ๓๐ เมษายน และวันที่ ๑, ๒, ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓

ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ และพระสงฆ์ ๓ รูป เดินทางไปรับสังฆทาน และฝึกมโนมยิทธิที่บ้านเลขที่ ๙ ซอยสายลม ๑ กรุงเทพ ฯ
วันที่ ๑, ๒ พ.ค. มีการฝึกมโนมยิทธิ ตั้งแต่ เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๕.๐๐ น.




โมทนา

๑. คุณสัจจะ ทันการ, คุณกรรณิการ์ การ-เดช ถวายอาหารและยารักษาโรค ประจำเดือน กุมภาพันธ์ มีรายการดังนี้ ค่าอาหาร ๑๙,๐๐๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

๒. คุณศิริวัฒนา บัญชรเทวกุล (แต๋ว) และครอบครัว นำเครื่องดื่มมาเลี้ยงคณะครูฝึก ที่บ้านสายลม ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๓. คุณพรพรรณ เลิศลํ้า (ต๋อย) และคณะ นำดอกไม้มาให้ผู้ฝึกใหม่บูชาครูในการฝึกมโน-มยิทธิที่บ้านสายลม เดือนมีนาคม ไม่ทราบมูลค่า ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๔. คณปรียา สปินเลอร์ , ครอบครัวลายคราม, คุณไก่ - คุณลุงเก็ต ร่วมทำบุญหล่อพระปางเลไลยก์ จำนวน ๑ องค์ และหล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จำนวน ๒ องค์ เป็นเงิน ๓,๑๕๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

รายนามผู้บริจาคเงินและสิ่งของร่วม ทำบุญในงานทำบุญประจำปี เมื่อวันที่ ๑๓, ๑๔ มี.ค. ๒๕๕๓ มีรายนามดังนี้
๑. คุณป้าอัจฉรา ไพบูลย์ และคณะ จัดพุ่มดอกมะลิ และพานดอกไม้โต๊ะหมู่บูชา ในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๒. พระธีระยุทธ สุธมฺมธีโร และคณะร่วมมิตร ก.ท.ม. เลี้ยงขนมจีน แกงเขียวหวานหมูและไก่ แก่ผู้มาทำบุญในงานทำบุญประจำปี วันที่ ๑๔ มี.ค. ๒๕๕๓ เป็นเงิน ๑๕,๖๘๐ บาท ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๓. พระชลอ วัดศาลพันท้าย ฯ เลี้ยงหอยทอด ลอดช่อง และผลไม้ แก่ผู้มาในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๔. คุณเมย เลี้ยงก๋วยเตี๋ยว และน้ำอัดลม แก่ผู้มาในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๕. คณะปลาร้าโคราช เลี้ยงส้มตำ น้ำพริก ผัก แก่ผู้มาในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

๖. คณะคุณสุเทพ เลี้ยงน้ำสมุนไพร แก่ผู้ มาในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๗. คณะแม่จำเนียร เลี้ยงข้าวต้ม, กาแฟ และโอวัลติน แก่ผู้มาในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๘. ลุงเต่าและคณะ เลี้ยงโอเลี้ยง และ ชาเย็น แก่ผู้มาในงานทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๙.โรงครัววัด เลี้ยงอาหารหลายอย่าง แก่ผู้มาในงานทำบุญ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๑๐. โรงนํ้าแข็งโพธิ์หอม อ.ชัณสูตร จ. สิงห์บุรี ถวายนํ้าแข็ง ๒๑๖ ก้อน เพื่อเลี้ยงผู้ที่มา ทำบุญประจำปี ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
๑๑. โรงนํ้าแข็งพรพิบูลย์ อ.เมือง จ. อุทัยธานี ถวายนํ้าแข็ง ๒๐๐ ถุง เพื่อเลี้ยงผู้ที่มา ทำบุญประจำปี

ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง