Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 14/6/11 at 15:25 [ QUOTE ]

หนังสือ"พรสวรรค์" รวมเล่ม 1-2-3 (ตอนที่ 7 จบบริบูรณ์ )





หน้าปกหนังสือ "พรสวรรค์" ฉบับรวมเล่ม


พรสวรรค์

(รวมเล่ม1-2-3 )

คำแถลง

1. ข้อความในหนังสือนี้ได้รับมาจากการทรงกระดาน (ที่เรียกกันอย่างสามัญว่า "ผีถ้วยแก้ว") กับการเข้าทรงแบบทั่วไป ผู้จับแก้วให้เดิน อย่างน้อยคนหนึ่งต้องเป็นผู้สามารถเป็นสื่อได้ (ให้ประทับทรงได้) โดยธรรมดาเราใช้ 2 ถึง 3 คน ซึ่งมีความรู้ทางธรรมเพียงตื้นๆ

คำกล่าวที่ว่า "ผู้เดินกระดานไถแก้วไปตามใจตนนั้น" ลองคิดดูว่า 3 คน 3 ความคิด หากไถแก้ว ตามข้อความที่เทศน์แล้ว จะเห็นได้ว่าลึกซึ่งกว่าผู้ที่ศึกษาธรรมทั่วไปเสียอีก (เกินความรู้ของผู้จับแก้ว) ส่วนผู้ที่ประทับทรงนั้นเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ปกติไม่ได้ประทับทรงเป็นประจำ และจะประทับทรงก็ต่อเมื่อท่านผู้มาเดินกระดานขอร้องเท่านั้น

2. ข้อความเหล่านี้ ได้ตัดเอาคำสุภาพ เช่น "ครับผม" หรือ "พระพุทธเจ้าข้า" ออกไปเสีย เพื่อย่นเนื้อที่กระดาษ

3. ท่านที่มาเดินกระดานโดยปกติ เราไม่ได้บ่งชื่อว่าขอเชิญองค์นั้นองค์นี้ ท่านมาโปรดของท่านเอง หรือหากเทพผู้ควบคุมการเชิญกระดานไปเชิญ เราก็ไม่อาจทราบได้ เพราะพระพุทธเจ้าท่านจะเสด็จจะต้องมีผู้ไปทูลเชิญก่อน เว้นแต่จะทรงโปรดเป็นกรณีพิเศษ

4. ศัพท์ภาษาบาลี คงจะผิดพลาดด้านตัวสะกดบ้าง เพราะเวลาผู้อ่านอ่านมา ผู้จดก็สะกดเอาเอง โปรดอย่าถือเป็นข้อบกพร่อง

คณะพรสวรรค์


สารบัญ

108.
คำเทศน์ของ “คำเทศน์ของ “ท่านหญิง”
109. คำเทศน์ของ “คำเทศน์ของ “ท่านพัว”
110. คำเทศน์ของ “คำเทศน์ของ “ท่านธรรมภิกษุ ( อ๋อย ) ”
111. คำเทศน์ของ “พระเจ้าพังคราช”
112. คำเทศน์ของ “ท่านชัยปราการ”
113. คำเทศน์ของ “ท่านขุนใหญ่ หรือ จ้าวไทย”
114. คำเทศน์ของ “ท่านขุนเสือ (เล่าตื้อ)”
115. คำเทศน์ของ “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์”
116. คำเทศน์ของ “ท่านแม่ย่า”
117. คำเทศน์ของ “ท่านย่าอินทิรา”
118. คำเทศน์ของ “ท่านย่าจันทร์เทวี”
119. คำเทศน์ของ “พ่อขุนรามคำแหง”
120. คำเทศน์ของ “น้องพ่อขุนรามคำแหง”
121. คำเทศน์ของ “พระเจ้าลิไท”
122. คำเทศน์ของ “พระนางนพมาศ”
123. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง”
124. คำเทศน์ของ “กรมพระราชวังบวร (สมัยอยุธยา)”
125. คำเทศน์ของ “ท่านบุเรงนอง”
126. คำเทศน์ของ “พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวร”
127. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”
128. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระเอกาทศรถ”
129. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระนารายณ์มหาราช”
130. คำเทศน์ของ “ท่านกฤษฎา”
131. คำเทศน์ของ “ท่านพันท้ายนรสิงห์”
132. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
133. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง”
134. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาท ร.1”
135. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาท ร.2”
136. คำเทศน์ของ “สมเด็จพระศรีสวรินทรามาตย์”
137. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาท ร.3”
138. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาทของสมเด็จพระปิ่นเกล้า”
139. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาทของ ร.5”
140. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาทของ ร.6”
141. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาทของ ร.7”
142. คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาทของ ร.5”
143. คำเทศน์ของ “ดร.เดือน บุนนาค”
144. คำเทศน์ของ “หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ท่าน “ฤๅษีลิงดำ”)”


108
คำเทศน์ของ ท่านหญิง

“ท่านหญิง” เป็นศิษย์หลวงพ่อ ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เราเข้าใจว่าท่านจบกิจทางศาสนาแล้ว จึงถือโอกาสถามรายละเอียด

16 กุมภาพันธ์ 2520

☺ ว่าไงจ๊ะ ตามหญิงนะ ทุกๆ คน หญิงเป็นสุขที่สุดไม่มีอะไรสุขมากเท่านี้อีกแล้ว
☻ (ถาม – หลวงพ่อช่วยอย่างไร ?)
☺ ตั้งอารมณ์ให้หญิง ก่อนเกิดเหตุ ก็รู้สึกตัวหวิวๆ แล้ว เมื่อเกิดเหตุรู้สึกชาไปทั้งตัว แล้วระลึกถึงหลวงพ่อ พอเริ่มหน้ามืด ก็รีบจับลม ภาวนา เพราะรู้ตัวแล้วว่าคงไม่รอดแน่

☻ (ถาม – เมื่อกี้นี้ มีพิธีอะไร ?)
☺ บวช ไม่ใช่บวชมีนาคอะไรนะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส “เอหิภิกขุ”
☻ (ถาม – คนเวลาไปนิพพาน ต้องบวชทุกคนหรือ ?)
☺ ถวายตัว
(ปรารภ – พวกเราดีใจที่ท่านเป็นองค์นำ)
☺ เราชนะแล้วนะ


☻ (ถาม – ท่านเห็นพระนิพพานก่อนจะสิ้น ?)
☺ พระท่านมา
☻ (ถาม – ที่ว่าสว่าง)
☺ จ้ะ ตอนผ่าน ท่านเกศ ท่านชี้ให้ดูบ้านของพวกเรา ขอบใจมากๆ นะ ทุกๆ คน สิ่งใดที่หญิงเคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ขออโหสิกรรมด้วย ทุกๆ คนจะได้ไปสบาย หมั่นอโหสิกรรมกันนะ จะได้ไม่มีการจองเวร

◄ll กลับสู่สารบัญ


109
คำเทศน์ของ ท่านพัว

“ท่านพัว” เป็นศิษย์หลวงพ่ออีกคนหนึ่ง ทำทานไว้มากมาย เราเข้าใจว่าท่านจบกิจทางศาสนาเช่นเดียวกับท่านหญิง ก่อนสิ้นมียศเป็นจ่านายสิบตำรวจ เกษียณอายุนานแล้ว

10 มีนาคม 2520

☺ คนเฝ้าเยอะนะ ผมหมายถึงเทพ
☻ (ถาม – ท่านพัวหรือ ?)
☺ ใช่ครับ
☻ (ถาม – อยากให้ช่วยเล่าให้พวกเราฟัง เพราะเป็นคนที่ 2)
☺ พระมารับฮะ

☻ (ถาม – เห็นว่าจะไปไหว้พระที่จุฬามุนีสัก 3 วันก่อน แล้วไปหรือเปล่า ?)
☺ ไป สวยมาก
☻ (ถาม – ตอนอยู่จุฬามุนี เห็นพระนิพพาน ?)
☺ พระท่านบอก
☻ (ถาม – ตอนป่วย จิตใจเป็นอย่างไร ?)
☺ เบื่อฮะ ที่ต้องนอน ต้องกินยา อะไรจุกจิก

• ตอนจะไปรู้สึกว่าหายใจไม่ค่อยคล่อง มีเจ็บบ้างก็พยายามจับ “พุทโธ” คิดว่าไม่เอาอีกแล้ว ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น มันรู้สึกเบื่อขึ้นมา ในขณะนั้นก็รู้สึกสบายแปลกๆ รู้ตอนหลัง พระท่านบอกว่าอารมณ์ตอนสบายนั้น อยู่ในภาวะฌาน
• จิตไปจับ พุทโธ เข้า แล้วเพ่งที่เบื่อเป็นอารมณ์ เลยไปๆ มาๆ ก็เป็นเอกัคตา คิดทวนไปทวนมาก็คิดว่า ขอไม่เกิดตามหลวงพ่อสอนดีกว่า เหมือนกับเราตกลงใจอะไรสักอย่างที่แน่นอนนั่นแหละครับ
• ถึงอยากให้ท่านๆ ทั้งหลายได้เอามาเป็นแนวนิดๆ หน่อยๆ บ้าง


☻ (ถาม – ตอนใกล้ๆ มีการทุรนทุราย)
☺ ตอนนั้นผมไม่รู้ เพลินไป รู้แต่ว่าพอคิดได้พระท่านก็มาเรียกไป
☻ (ถาม – เรียกยังไง)
☺ ท่านก็ว่า “ลูกสบายแล้ว ลูกตัดสินใจถูกแล้ว มาหาพ่อ ลูกจะไม่มีทุกข์แล้ว”

☻ (ถาม – เห็นฉัพพรรณรังสี ?)
☺ สว่างมากครับ
☻ (ถาม – มองเห็นตัวเองไหม ?)
☺ เห็นฮะ
☻ (ถาม – ลักษณะเป็นยังไง ?)
☺ ก็ศพธรรมดา เห็นศพตัวเองก็สังเวชใจ ยิ่งเห็นคนร้องไห้ก็สงสาร สงสารที่เขารักตัวปลอม

☻ (ถาม – บวชวันนี้ ?)
☺ ฮะ ที่พระจุฬามุนี พอออกไปพระท่านก็เรียก “เอหิภิกขุ”
☻ (ถาม – ร่างบนนั้น ในนิพพานเป็นอย่างไร ?)
☺ เป็นพระฮะ ตอมไปนะฮะ
☻ (ถาม – จะขอประทานรสชาติบนพระนิพพานได้ไหม ?)
☺ อย่าไปติดบรรยายเลย เพราะความสวยเอาไปไม่ได้ฮะ ฟังแล้วก็แค่ชื่นใจประเดี๋ยวเดียว สู้หมั่นฝึก หมั่นหนี หมั่นละดีกว่า

◄ll กลับสู่สารบัญ


110
คำเทศน์ของ ท่านธรรมภิกษุ

ท่านธรรมภิกษุเป็นสมาชิกคณะพรสวรรค์ เมื่อถึงมรณกรรมไปแล้วกลับมาคุยกับคณะพรรคได้ ชื่อข้างบนของท่านคือ “ธรรมภิกษุ” แต่เวลาสนทนายังให้สรรพนาม “อ๋อย” และแสดงเพศหญิง เพื่อเป็นเครื่องจำได้หมายรู้ เคยใช้สรรพนามอะไรกับใครก็ยังใช้ตามเดิม ในการสนทนากับหลายๆ คน จะไม่แยกเป็นรายบุคคล

14 มกราคม 2521

☺ ขอบคุณมากนะจ๊ะ
• คุณจ๊ะ ทำใจได้ไหมจ๊ะ
• อ๋อยสบายดีมากเลย ได้พบทุกๆ องค์ ไปไหนก็สบาย
☻ (ถาม – เห็นสมเด็จประทานม้วนอะไร ?)
☺ ให้ตัดเรื่องห่วงวัด ท่านทรงให้ดูคำพยากรณ์ของวัดและหลวงพ่อ [/color]

☻ (ถาม – อารมณ์ที่ทำจิตได้นั้น ตอนไหน ?)
☺ ก่อนตาย ถ้าทำได้ก็ไม่พ้นวัน
☻ (ถาม – มีความรู้สึกยังไง ?)
☺ ทุกข์เกิด เป็นห่วงหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อท่านมา ท่านสอนว่าไม่ให้ติดในตัวบุคคล
• อยากให้ทุกคนรีบขึ้นไปจัง อิสระจริงๆ ไปไหนหรือหาใครก็สะดวก ได้ไปกราบพระจนชุ่มใจจริงๆ

☻ (ถาม – ตอนเสวยวิมุติสุข เป็นยังไง ?)
☺ เบา อิ่มใจ สบาย เบาใจ สดชื่น เสียดายว่าเราโง่ตั้งนาน พวกเราไปได้ทุกคนเลย มีความสุขจริงๆ
☻ (ถาม – ตอนไป ไปในฌาน 4 หรือ ?)
☺ ฌาน 4
☻ (ถาม – งั้นคนไม่ได้ฌาน 4 ทำไง ?)
☺ ถึง แต่ไม่รู้

☻ (ถาม – ถึงในเวลาพิจารณา หรือในเวลาทำสมาธิ ?)
☺ ถึงทั้งเวลาพิจารณาและอยู่เฉยๆ ตอนยังไม่ตาย อ๋อยเคยได้อะไรทีไหน
☻ (ถาม – อยากถามเรื่องฌาน)
☺ อย่าเพิ่งถามเลย ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองไปได้ยังไง ขอศึกษาก่อนนะ
☻ (ถาม – พระรูปของสมเด็จองค์ปฐม ท่านเสกให้หรือเปล่า ?)
☺ เดี๋ยวนี้ท่านก็เสด็จ

☻ (ถาม – ถ้าสงสัยพระต่างๆ ว่าองค์ไหนเป็นอะไรแค่ไหน จะตอบได้หรือไม่ ?)
☺ ต้องไปทูลถาม เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นบอกได้เอง ต้องทำความเพียรอีกหน่อย
☻ (ถาม – ตอนก่อนตายคงมารับกันกระมัง ?)
☺ มากันมาก เห็นแล้วตกตะลึง

☻ (ถาม – มารับก่อนสิ้นใจหรือ ?)
☺ ใช่ สวยมากๆ สมเด็จฯ ทรงฉัพพรรณรังสีสวยที่สุด
☻ (ถาม – หลวงตา บอกว่า จะไปหนักมากตอนกุมภาพันธ์ ทำไมไปเสียก่อน ?)
☺ ขืนอยู่ก็ต้องครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างนั้น

18 มกราคม 2521

☺ ไปข้างบนสับสนจริงๆ เพราะเป็นของใหม่ ได้รู้อตีตังสญาณมากจนรู้จักใครเป็นใคร ตอนนี้ได้ไปเฝ้าท่านพ่อพระอินทร์ทุกวันเลย พบท่านแม่ศรีใหญ่ แม่ศรีเล็ก
☻ (ถาม – ที่เขาถ้ำมีสมบัติจริงหรือเปล่า ?)
☺ มี เขาเอาไปตั้งนานแล้ว โดยท่านหลอก
☻ (ถาม – เทวดาไม่ควรหลอก)
☺ ท่านให้พ้นเคราะห์จ๊ะ ม่ายงั้นต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยเรื่องอื่นๆ

☻ (ถาม – แล้วที่เมืองกาญจน์ ?)
☺ เป็นเรื่องของความเจ็บป่วย รู้ไหมฉันได้ธรรมเพราะอะไร ?
☻ (ตอบ – ขอให้เล่า คนอื่นจะได้ฟังด้วย)
☺ ท่านมาเร่ง ตอนที่ประทับทรง ท่านทรงเพื่อสอนอ๋อย เพราะท่านรู้แล้วว่าอ๋อยจะอยู่ได้น้อย ตอนนั้นถามจุกจิกท่านได้
☻ (ถาม – พระราชทานเพลิงและผ้าหน้าศพ ทราบหรือ ?)
☺ จ๊ะ ฉันไปหาท่านมาแล้ว แอบไป ไปกับท่านหญิง ท่านชวนไป

25 มกราคม 2521

☻ (ถาม – ขอทราบชื่อข้างบน)
☺ “ธรรมภิกษุ” ท่านเห็นว่าอ๋อยเลี้ยงพระมามาก รู้หรือเปล่าว่าอ๋อยไปเพราะเลี้ยงพระนะ

☻ (ถาม – จิตตอนใกล้จะดับเป็นอย่างไร ?)
☺ ตอนนั้นนะจ๊ะ พิจารณาความทุกข์ของร่างกายว่ามันเลว ใจเลยสบาย คือเราอย่าไปคิดเจ็บตาม (ไปกับ) ร่างกาย อารมณ์เหมือนคนเคลิ้ม ครึ่งหลับครึ่งรู้สึก นั่นแหละจะรู้สึกเบาขึ้น เขาขึ้นเรื่อยๆ จนใจเราจับอยู่ที่พระ จะเห็นพระท่านใสขึ้น นั่นแหละที่ตัวเราแยกออกโดยแท้เลย ที่จริงอ๋อยหลุดไปเกือบวันแล้วนะ อ๋อยถึงได้เห็นร่าง และได้พิจารณาร่าง (ของตัวเอง) เรามีพระชั้นเยี่ยมๆ นะ จับท่านไว้ให้ดี

☻ (ถาม – ตอนเผามีฝนปรอย พี่อ๋อยทำหรือ ?)
☺ พระย่ะ
☻ (ถาม – เริ่มตัดเมื่อไร ?)

☺ วันที่ 11 นะจ๊ะ ตอน 3 ทุ่มรู้สึกปวดมาก จะเหมือนวันอาทิตย์ ทนแทบแย่ ใจฉันก็นึกถึงหลวงพ่ออยู่ว่าท่านจะให้อยู่ต่อต้องขอไม่ทรมาน แล้วอารมณ์ก็ชักเคลิ้มๆ พิจารณาว่าร่างเรานี่มันทรมานจริงๆ แค่นั้นเองหลวงพ่อท่านก็ปรากฏขึ้น ใจคิดนะ แต่ไม่เหมือนหลวงพ่อตอนนี้หรอก สวยมาก ใจเลยจับที่ท่านกับสมเด็จองค์ปฐม

☺ พอดีตอน 4 ทุ่มกว่าๆ หลวงปู่ (ธรรมชัย) ท่านก็มาทำพิธี ตอนนั้นจิตยังกึ่งห่วงกึ่งไม่ห่วงอยู่ ใจยังได้ยินเสียงหลวงปู่ชัดมาก เลยได้ฟังท่านสวดอะไรต่ออะไรจนเคลิ้มอีกครั้ง คราวนี้ได้พบพระมากมาย หลวงพ่อ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่คำแสนใหญ่ท่านก็มา ท่านให้กำลังใจมาก โดยเปล่งฉัพพรรณรังสี เห็นคราวนี้ติดตา

☺ พร้อมกับได้ฟังเทศน์หลวงปู่อีกครั้งในเรื่องของทุกข์ ชาดก จิตก็เลยพิจารณาตามดูตัวเองที่นอนอยู่ ดูกายที่ดีกว่าสังขารขันธ์ 5 แล้วหลวงพ่อท่านจึงชวนไปดูที่อยู่ใหม่ ตอนนั้นสมเด็จตรัสว่า ยังติดที่ห่วงงานของวันของหลวงพ่อ เป็นตัณหาอย่างหยาบๆ อยู่ เลยต้องพิจารณาทบทวน ท่านทรงเมตตาแสดงภาพในอนาคตให้ปรากฏขึ้น ฉันเลยสบายใจขึ้น

☺ ตอนตี 3 ต่อตี 4 เมื่อจิตคิดทบทวนไปมาเรื่องภาระต่างๆ เรื่องวัดหลวงตา เรื่องคุณ และลูกๆ พร้อมทั้งดูสังขารตัวเองว่ามีแต่จะทรุดลงๆ แล้วยังทำความลำบากให้กับอีกหลายคน ไหนๆ ก็จะทิ้งแล้ว ไม่ต้องให้ใครเขามาลำบากกับเราอีก เมื่อจิตคิดเพียงเท่านี้ใจเลยเป็นสุข อิ่มเหมือนกับเราตัดสินใจ ตกลงใจจะเอาอะไรอย่างหนึ่งแน่นอน นั่นแหละที่เรียกว่า วิมุติสุข


☻ (ถาม – ตอนจิตออกไปไม่รู้ตัว ใช่ไหม ?)
☺ จ๊ะ เหมือนคนเคลิ้มๆ แล้วเลยไป
☻ (ถาม – นี่เป็นฌาน 4 ด้วยหรือ ?)
☺ จ๊ะ
☻ (ถาม – จิตไม่ได้จับพระนิพพานหรือ ?)
☺ จับซิจ๊ะ จับอยู่ตลอด นี่เล่าให้ฟังถึงความรู้สึก

☻ (ถาม – ทิ้งร่างไปตั้งแต่ตอนตี 4 หรือ ?)
☺ ใช่จ๊ะ ร่างมันยังทำงานของมันไปจนกว่าถ่านจะหมด
☻ (ถาม – แล้วอยู่ตรงนั้นถึงกี่โมง ถึงไปข้างบน ?)
☺ เคลื่อนไปอยู่เรื่อยๆ จ๊ะ เพราะท่านพาไปดู

☻ (ถาม – ไปแล้วเขามีพิธีอะไรบ้าง ?)
☺ วันนั้นแหละจ๊ะ ท่านก็เรียกเป็นเอหิภิกขุ
☻ (ถาม – กระดูกพระอรหันต์เขาว่าต้องเป็นพระธาตุ ?)
☺ อยู่ที่อธิษฐานจ๊ะ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เป็นล่ะจ๊ะ

☻ (ถาม – บนนิพพานมีเพศหรือเปล่า ?)
☺ ไม่ค่ะ
☻ (ถาม – ท่านเป็นภิกษุ หมายถึงผู้ชาย ?)
☺ พระค่ะ เราอย่าไปติดเพศซิคะ
☻ (ถาม – พวกสุกขวิปัสสโกไปข้างบนยังไง ?)
☺ กายทิพย์ยังไงคะ กายบุญ เหมือนเขาทำหุ่นเราไว้

8 มีนาคม 2521

☻ รู้เรื่องแบ่งภาคไหม ? ไม่ใช่แบ่งอย่างอวตาร แต่แบ่งอย่างที่เคยเล่าว่ามีหุ่นอยู่น่ะ ที่ว่ามีส่วนหนึ่งอยู่ข้างบน แล้วตัวเราเองมีชีวิตอยู่จริงๆ ข้างล่างน่ะ

☺ คือพวกเรานั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ครบเวลาข้างบน แล้วลงมาเกิด บุญยังมีอีกมาก แต่คิดจะลงมาเสียก่อนครบเวลา เพื่อช่วยหลวงพ่อท่าน และทำบุญกับพระศาสนาเพื่อมุ่งหวังพระนิพพานกัน จึงลงมากันก่อนที่อายุข้างบนโน้นจะหมด เลยลงมาพร้อมกันเป็นดวงจิต ส่วนหุ่นหรือตัวแทนยังมีบุญอยู่ ก็อยู่ข้างบนตามๆ ที่สร้างบุญไว้ คือสร้างไว้เท่าไรก็อยู่ตามชั้นของภูมินั้นๆ แต่ตัวที่อยู่ข้างบนหน้าไม่เหมือนกับเรา

☺ ที่ท่านเปรียบเทียบเรื่องการทำความดีเหมือนสะสมเงินทุนไว้ใช้นั้น ก็คล้ายกับเราเอาบุญนั้นมาใช้ ในเมื่อคนที่มาเกิดไม่ตั้งความประสงค์จะมาสร้างบุญอีก เมื่อใช้ไปๆ บุญก็ลดฐานะลงไปเป็นชั้นๆ ถ้ายังลืมตัวอีก ก็คงหมดบุญเร็วขึ้น

☺ นรก เปรียบเหมือนคุก บุญเหมือนเป็นเงินทอง สวรรค์เหมือนธนาคาร ถ้าเราไม่หาเงินมาเพิ่ม มีแต่จะใช้ไป ทุนก็จะค่อยๆ หมดไป เวลาที่อานุภาพของความดีนั้นหมดเกลี้ยงไปเมื่อไร ก็เหมือนคนล้มละลายเข้าคุกไป หรือถ้าเงินทองมีน้อยต้องไปทำผิดเข้าก็อาจเข้าคุกได้ เข้าใจไหม ?

☻ (ถาม – คับใจ)
☺ นั่นแหละ ชีวิตเราต้องใช้กรรมนะจ๊ะ ถือว่าเธอทำคนอื่นเขามาก็แล้วกัน แต่อยากให้มั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่า พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เป็นเบื้องต้นว่า คนทำดีย่อมได้ดีนี้เป็นความจริง ยึดไว้แค่นี่แล้วจะได้มีแรงต่อสู้นะจ๊ะ

22 เมษายน 2521

☻ (ถาม – จะข้าวยากหมากแพงหรือ ?)
☺ น่ากลัว แต่ทรัพยากรเริ่มเกิดนิดๆ แล้ว จำพวกธาตุ เช่น พลวง แพล็ตตินัม ยูเรเนียม โผล่แล้ว
☻ (ถาม – แล้วน้ำมัน ?)
☺ ต้องรอให้สงบก่อน

☻ (ถาม – พวก ผกค. ท่านจะเก็บ ?)
☺ เก็บไปตั้งเยอะแล้ว เป็นพัน อดอยากมาก เป็นไข้ป่าบ้าง ท้องร่วงบ้าง ไข้หวัดบ้าง
☻ (ถาม – แล้วพวกนักศึกษาที่ออกไป ?)
☺ บางคนก็ตายแล้ว เพราะรู้ตัวและคิดหนี คนเรามีใครบ้างที่อยากทรมาน นี่ทรมานมาเป็นปีแล้วนะ
☻ (ถาม – ทำไมไม่รีบกลับมาเสีย)

☺ พวกมันไม่ให้กลับ มันเล่นฉีดยาระงับประสาทด้วย
☻ (ถาม – เรื่องยุ่งๆ เช่น ในเวียดนาม ในเขมร จะมีต่อไปหรือ ?)
☺ มี แดนไหนไม่มีศาสนาก็ยุ่งทั้งนั้น
☻ (ถาม – บ้านเราความยากจนมาก เดี๋ยวจะรับศาสนาเมาฯ มากขึ้น)
☺ ก็คงเดือดร้อนใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่หนักใจ เพราะคิดว่าทราบสถานการณ์ต่อไปว่า เรารอด แก้ได้เอง

24 พฤษภาคม 2521

(ปรารภ – มีคนเอาอาจารย์ของเราไปนินทาว่าร้าย)
☺ อยู่เฉยๆ ดีกว่า อย่าไปสนใจชาวบ้าน ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์มากเรื่องยิ่งไปไกล คนเราลงไม่เชื่อในนรก – สวรรค์แล้ว จะให้เขาเชื่อเรื่องอดีตหรืออนาคตชาติได้อย่างไร ถ้าเขาไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็ไม่มีความหมายที่จะพูดเรื่องของกรรมหรอก
☺ ที่จริงพวกเราชอบไปเอาเรื่องอื่นมาเป็นเรื่องยาว แล้วก็ไปวิพากษ์วิจารณ์ให้ฝ่ายอื่นเห็นเป็นความแตกแยกกันไปที่สุด

☺ การสงสาร (เขาว่าผิดทาง) ไม่น่าจะสงสารให้เกินขอบเขต ควรสงสารตนเองดีกว่าที่จะไปหลงกิเลส วิจารณ์เขาให้จิตเศร้า เป็นทุกข์ แล้วก็จะมีความหลงตัวนิดๆ ว่าเรายังดีกว่าเขา นี่แหละที่ท่านสอนเราว่าพิณนั้นสายตึงเกินไปก็จะไม่เพราะ แล้วขาดเร็ว หย่อนเกินไปก็จะไม่เพราะ แล้วก็เสียเร็ว ท่านว่า “ตึง” นั้นคือ เครียดเกินไป อะไรๆ ก็ต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ นั่นคือความเครียด ควรให้เหมาะสมเป็นดี หย่อนไปท่านว่าไม่เป็นไร คำนี้แหละที่ท่านว่าหย่อน ส่วนมากจะเป็นเฉพาะตัวเราและคนที่เรายังให้ความลำเอียง

14 มิถุนายน 2521

คนที่ 1 (ปรารภว่ามัวสงสารเขา เลยไปไม่ได้)
☺ ทำไม่ล่ะ ไม่เกี่ยวกันนะ สงสารนั่นคือ เวทนา และมีเมตตา ส่วนที่จะช่วยเหลือใครนั้น เป็นเรื่องความกรุณา และเป็นส่วนทำบุญ สงสารก็ต้องสงสารอย่างมีขอบเขต เราช่วยได้ก็ช่วยไป ถ้าช่วยไม่ได้ก็ต้องทำใจให้เฉย ถือว่าเป็นกรรม

☺ หลวงตาท่านก็สอนอยู่บ่อยๆ ว่า คนเราเกิดมามีกรรมเป็นของตนเองทั้งสิ้น และถ้าคุณจะนำคำของพระศาสดามาปะติดปะต่อว่า ตนนั้นเป็นที่พึ่งแห่งตนก็รวมได้ความว่า เรานั้นมีกรรมทั้งดีและชั่ว มีทุกข์สุขอยู่พร้อมกัน แต่สามารถจะแก้ให้ประสบผลได้ก็ต้องทำด้วยตัวของตัวเอง

(ปรารภเรื่องเห็นรูปนิมิต แต่ไม่ได้ยินเสียงพูด)
☺ จิตยังหวาดไหวอยู่ พี่ว่าคุณมุ่งเอาวิปัสสนาญาณเป็นที่พึ่งดีกว่า อย่าไปคิดเรื่องฤทธิ์เลย ตอนพี่ไปไง พี่ได้อะไร ? เห็นก็ไม่เห็นกับเขา หูก็ไม่ได้ยิน เพียงแต่ฟังธรรมแล้วก็ดูทุกข์ที่ตัวเราผจญอยู่ ยิ่งเห็นมากรู้มาก จะไปลำบาก เพราะคนเรามีนิสัยอย่างหนึ่งคือดื้อ และเอาแต่ความเห็นตัวเอง จริงไหม ?

คนที่ 2
☺ ทำใจอย่าให้ไปกังวล กลัวอะไรเกินกว่าเหตุ อย่ามองอะไรให้มันหนักหนา ถ้ามองอะไรหนักหนามากไป เราจะแก้เหตุนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ต้องมองเห็นเป็นขั้นตอนว่าอะไรเป็นเหตุแรก แก้ไขไปตามหนัก – เบา ก่อน – หลัง เมื่อนั้นจะพบว่าปัญหาไม่หนักใจเลย

ตอบปัญหาเบ็ดเตล็ด
☻ (ถาม – เทวดาทิพย์ ย่อมเห็นนรกได้ทุกองค์ ใช่ไหม ?)
☺ แล้วแต่ความเป็นทิพย์ของเขา อยู่ที่บารมี อย่างคนใดอยู่ชั้นสูงก็ย่อมมองเห็นหรือรู้ในสิ่งที่ต่ำกว่าชั้นนั้น แต่ไม่รู้ถึงชั้นที่สูงกว่าตน
☻ (ถาม – หิมพานต์ เป็นเมืองทิพย์หรือ ?)
☺ เป็นแดน แดนระหว่างมนุษย์กับสวรรค์

☻ (ถาม – เมืองลับแล มีจริงหรือ ?)
☺ มี เป็นเมืองมนต์สะกด เทพฤๅษีท่านทำอาถรรพ์ไว้ มีเฉพาะหญิง อยู่ในนั้นมองไม่เห็นคนข้างนอก นอกจากออกมานอกเขต
☻ (ถาม – นางเงือกมีจริงหรือ ?)
☺ หลวงตาท่านพยักหน้า แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว

13 กรกฎาคม 2521

(ปรารภ – รู้ตัวว่ายังไม่ดี ไม่ค่อยกล้ามาพบ)
☺ อย่าไปกลัว “ไม่ดี” เลย เดี๋ยวจะไม่กล้าพิจารณา ตอนที่อ๋อยยังอยู่มันก็ไม่ดี เป็นเพราะไม่ดีนี่แหละ ทำให้ไปได้ถึงจ๊ะ

ถ้าเราคิดว่า ตัวเรา “ดีแล้ว” มันก็มีกิเลส ถ้าเราคิดว่าไม่ดี เราก็พยายามให้มันดี อย่าไปกลัวคนอื่นจะว่าเราว่าไม่ดี มันเป็นโลกธรรม แล้วความกลัวจะปิดบังความจริงและทำให้เราด้อยปัญญา
☻ (ถาม – ถ้ารู้ว่าไม่ดี แล้วมานะจะให้มันดี จะเกิดเป็นตัวมานะขึ้น)
☺ ทำความดีอย่าไปคิดมากจ้ะ มีหลักอย่างหนึ่งว่า การฟังธรรมนั้น ถ้ารู้มากเกินธรรมแล้ว จะทำให้เราโง่ไปบางขณะ ต้องฟังแล้วคล้องตามให้แตกฉาน จะมีปัญญา

26 กรกฎาคม 2521

(ปรารภ – ท่านพ่อหมอไม่ค่อยเสด็จรักษา)
☺ ท่านน่ะ ตายไปเป็นพรหมอยู่ ขณะนั้นท่านถือตามลัทธิของท่านในอรูปพรหมอยู่ตั้งนาน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่สมเด็จฯ ทรงเทศน์โปรดจักรวาล ท่านฟังเทศน์เลยบรรลุถึงธรรมขั้นอนาคามีมรรค ลดทิฐิได้ จึงมุ่งสู่การปฏิบัติเพื่อพระนิพพาน ท่านจะทำได้ก็ต้องล้างหนี้กรรมรายใหญ่ๆ หมด นี่แหละจ๊ะ

(ขอคำสอน)
☺ ตั้งใจที่เราจะอภัย จะต้องมีเมตตา สงสาร ไม่ลำเอียง จะต้องมีกรุณา ไม่นิ่งเฉยเมื่อมีเรื่อง และจะต้องวางอุเบกขาเมื่อร้อนในโทสะ และต้องพยายามลดทิฐิมานะลง จะได้แจ่มใส มีไม่ตรี ทุกอย่างที่เราทำ เราก็หวังที่จะให้ดีที่สุดของเรา แต่จะดีสัมฤทธิ์จริงหรือไม่นั้น เราจะรู้ด้วยปัญญาว่าเราทำอย่างมีสติ หรืออย่างโมหะโทสะนะจ๊ะ

2 สิงหาคม 2521

☻ (ถาม – เป็นเทพทราบทุกสิ่ง ทำไมจึงมีทางบำเพ็ญบุญน้อยกว่ามนุษย์ ?)
☺ เพราะว่ารู้เรื่องของชาวบ้านเขา
☻ (ถาม – รู้ก็ยิ่งมีทางช่วย)
☺ (ถ้าช่วยก็) ผิด

☻ (ถาม – ต้องแล้วแต่กรรมของเขาหรือ ?)
☺ เราไม่ใช่คนไปสอบ แต่สามารถรู้ข้อสอบและรู้คำตอบของข้อสอบ จะไปสอบแทนเขาได้หรือ ? ผิดกติกา ดีไม่ดีเจ้ากรรมนายเวรเขาจะหาว่ายุ่งไปอีก
☻ (ถาม – จะบำเพ็ญทางอริยมรรค เทพทำได้ยากกว่ามนุษย์หรือ ?)
☺ ใช่ เช่นที่ท่านพ่อหมอทำอยู่

☻ (ถาม – ยากกว่ายังไง ควรทำจิตได้ดีกว่ามนุษย์)
☺ กรรมล่ะ ใช้ยังไม่หมด
☻ (ถาม – มนุษย์ไม่มีโอกาสทราบกรรมที่ตามมาหรือ ?)
☺ ก็อุปสรรคต่างๆ ยังไง ที่ทำให้ลำบาก ยาก ทรมาน ส่วนเทพที่ว่ายากก็เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่มีมารผจญให้เห็นธรรมจริง เราสบายแล้ว ก็นึกว่าเราดีแล้ว

◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 27/6/11 at 14:33 [ QUOTE ]


111
คำเทศน์ของ พระเจ้าพังคราช


5 สิงหาคม 2517

☻ (ถาม – ขอทราบพระนาม (ที่) ถูกต้องของโอรสพระเจ้าพังคราช)
☺ เดือนแจ่มฟ้า
☻ (ถาม – ประวัติศาสตร์เขียนว่า พระเจ้าไชยสิริต่อจากพระเจ้าพรหมมหาราช)
☺ ลูกคนรอง คนโตตาย

☻ (ถาม – เชียงแสนสมัยท่าน ?)
☺ เมืองเชียงแสนไม่ใช่สมัยฉัน ฉันสมัยอาณาจักรเชียงแสนเก่าก่อน ก่อนอาณาจักรขอม
☻ (ถาม – การอพยพจากจีน เริ่มในสมัยใด ?)
☺ อพยพสมัยพุทธกาล อพยพเป็นหลายพวก อาณาจักรแรกชื่อ “โละลัง” แถวมณฑลอัลไต เขตใต้ของไทยอยู่เชียงคำ

☺ เหตุที่ต้องย้ายมี 3 ข้อ
1. โรคระบาด
2. แล้ง
3. โดนรุกราน
☺ พื้นที่ประเทศไทยเวลานี้ ตอนนั้นเป็นของขอมทวาราวดีศรีวิชัย สมัยพ่อขุนรามเขาตีขอมออกหมด อาณาจักรคลุมภาคใต้ทั้งหมด

23 กุมภาพันธ์ 2518

☺ เวลาแผ่นดิน บ้านเมืองเดือนร้อน เราก็ไม่เป็นสุข เราผู้มีสายเลือดเชื้อชาติไทยก็ควรได้รับความเดือดร้อน จะทนอยู่ได้รึ ?
☺ จงทำตนให้เป็นผู้ที่ไม่เสียชาติเกิด ที่ได้เป็นคนชาติเชื้อไทย



112
คำเทศน์ของ ท่านชัยปราการ


25 พฤศจิกายน 2517

☺กู นามว่า “ชัยปราการ” ในพระเจ้าอยู่หัวศรีสุธรรมราชา ในอาณาจักรเชียงคำ
• กู บ่มีภัย กูมาโดยองค์จาตุโลกบาลทรงอนุญาต
• อยากจะขอให้ช่วยแก่เหล่าผู้กล้าด้วยชีวิต ที่แดนเชียงคำในกาลนี้ ผู้อยู่ก็ช่วยให้พ้นภัย ผู้ตายก็ให้มีสุข

2 เมษายน 2518

(องค์นี้ชื่อเดียวกัน แต่คงจะเป็นสมัยหลัง เข้าใจว่าอยู่บริเวณ จ. กำแพงเพชร)
☻ (ตอบปัญหาว่ามีพระอริยะอยู่แล้ว ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าตรัสรู้หรือไม่ ?)
☺ธรรมะขององค์สมเด็จเหมือนกันทุกพระองค์โดยเนื้อหา ฉะนั้น ไม่แปลกที่เขาลงมารู้ธรรมนั้นก่อนพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพราะธรรมนั้น ก็มาจากพระพุทธเจ้าพระองค์ที่แล้ว แต่เขารู้แค่พื้นฐาน

☺คนที่ว่าปรารถนาพุทธภูมิมีบารมีพระโพธิสัตว์นั้น รู้ได้อย่างไรว่าตัวเป็นพระโพธิสัตว์เต็มที่ นอกจากจะได้รับการพยากรณ์จากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไป เช่นเดียวกันกับพระอริยะเจ้าที่ลงมาเกิดโดยที่องค์สมเด็จยังไม่ตรัสรู้ ได้ชื่อว่าเป็นพระอริยเจ้า แต่ยังไม่ได้ประกาศ
☺อย่าลืมว่า พระพุทธองค์ท่านไม่ลงมาตรัสในกรณียุคเข็ญ สมัยที่ท่านเกิด ต้องสบาย ผู้คนเป็นสุข มีธรรม แต่ธรรมนั้นแค่ไหน




113
คำเทศน์ของ ท่านขุนใหญ่ หรือ จ้าวไทย

องค์นี้คงจะสมัยโบราณมากเกินยุคประวัติศาสตร์ไทย

5 พฤศจิกายน 2518

☺ ให้อัญเชิญยอดฉัตรมาชม และอนุโมทนา
• มาชมบารมีกษัตริย์ กษัตราธิราชแห่งสยาม
• ข้าขออ้างบุญญาธิการของข้าไว้ให้ลือลั้นว่า ข้าจะประกาศว่า พระมหากษัตราธิราชภูมิพลอดุลยเดชศรีวิกรม์ จะเป็นกษัตราธิราชที่นำความสุข ความร่มเย็นมาสู่ประชาราษฎร์ เพื่อให้เธอทั้งหลายอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรืองชั่วกาลนานเทอญ

23 พฤศจิกายน 2521

☺ ข้าคอยมานานแล้ว จะมาพูดเรื่องนี้แหละ (เรื่องที่หลวงพ่อบอกว่าจะเกิด)
• มันเริ่มตั้งแต่แรม 9 ค่ำ เดือน 12 คือวันนี้
• ทำบายศรี 5 ชั้น ธูปแพ เทียนแพอย่างสวย 1 ที่ เครื่องบวงสรวงครบชุดอย่างงาม ดอกไม้
• ฉัตร 4 ที่ สีขาวรอบโต๊ะใหญ่ตรงหน้าพระ
• บางศรีวางชั้นสูง

☺ นำรูปบรรพกษัตริย์มาวางรวมกันอีกที่หนึ่งทางทิศเหนือ หันหน้าเข้าพิธี วงสายสิญจน์ วันนี้ถือเป็นวันโจโรฤกษ์
☺ ขอให้คนที่สะดวกแต่งขาวทั้งหมดเพราะเป็นพิธี พิธีที่ขึ้นชื่อว่าของมงคลต้องมี แบบแผน ตำรา
☺ ให้ทุกคนที่มาร่วมพิธีนี้ จงระลึกถึงพระคุณขององค์อริยเจ้ามหาวีระ แต่ต้องตั้งสัตย์อธิษฐานในดวงจิตน้อมถึงองค์ท่านแสดงกตัญญุตา รำลึกในพระคุณที่ได้สั่งสอนให้พบทางพ้นทุกข์ และช่วยให้ได้ประสบความสุข ความสุขจากใจด้วยบารมีขององค์พระจอมไตรบรมศาสดา
☺ เมื่อรำลึกถึงพระอาจารย์องค์ประเสริฐแล้ว จงน้อมจิตกันถวายพระพรต่อท่านและต่อบรรพกษัตริย์ให้ทรงคุ้มครองป้องกันประเทศ

☺ มีนัยว่า ตามข่าวจะมีการทำร้ายคนในราชสกุล แต่จิตข้าไม่หวั่นเกรง ไม่เป็นผลในวันสองวันนี้
• แผนใหญ่ จะก่อขึ้นในวันที่ 3 เป็นต้นไป 3 เป็นวันรวม แต่ด้วยบารมีที่ยุพราชบวช ทำอะไรไม่ได้
• จะสู้ไม่ได้ด้วยกา ก็ขอให้สู้ด้วยพลังจิต นับว่าจะได้เป็นผู้รับใช้ชาติและศาสนาทั่วๆ กัน
• องค์อริยเจ้าท่านนั้น พวกเธออย่าถือว่าเป็นไม่สำคัญ ท่านนั้นสำคัญมาแต่อดีตโบราณกาลแล้ว ได้เป็นตั้งตั้งกู้ชาติ สร้างชาติมาแต่ปากบรรพ์จนถึงปัจจุบัน รักษาขันธ์ท่านให้ดี จะได้ชื่อว่าบำรุงพระศาสนาประการหนึ่ง บำรุงขวัญชาวประชาประการหนึ่ง บำรุงชาติให้พ้นภัยประการหนึ่ง

☺ โมทนาเป็นอย่างยิ่งในสิ่งที่ลูกตั้งใจห่วงใย แม้บรรพกษัตริย์ที่สูญไปแล้ว จากโลกในภพนี้ยังมิวายห่วงลูก รักหลาน ให้อยู่สุขกายสุขใจ ดังเสมือนพสุธาที่ท่านได้มาโดยเอาประชานับแสนหมื่นนับล้านเข้าแลกเพื่อปถพีเพียงแค่ธุลีที่ได้มาก็แสนภูมิใจเป็นนัก

☺ สิ่งไรที่ลูกหลานเห็นว่าอยู่สบายแล้ว มีมากพอแล้ว สิ่งนั้นลูกหลานจะไม่รู้คุณค่าของๆ ที่ใช้ แต่คนหามานี่ซิ เลือดตาไหล ไหลเป็นสายเลือด จริงไหม ดังเช่นเราไม่มีกิน สร้างฐานะมาจนเป็นเศรษฐี เมื่อบุตรเกิดมาบนกองเงินกองทอง จะไม่รู้จักค่าของเงินทองเหล่านั้นว่าได้มากยากเพียงใด รู้จักแต่จะใช้ให้หมดไป เพราะเป็นธรรมดาของพระธรรม

☺ แต่ถ้าหมู่เราสำนึกในการครองโลก สมบัติของโลก เราก็จะต้องรักษามันไว้ให้ดีที่สุด นานที่สุด
• ขอเมตตาสอนลูกหลานให้รักแผ่นดิน และรักษาสมบัติของแผ่นดินไว้เพื่อส่วนรวม อย่าคิดว่าสมบัติ พสุธาเหล่านี้เป็นเพียงของเราแต่ตนเท่านั้นไม่ จำต้องสืบทอดต่อไปถึงภายภาคหน้าอีก จงรักษาไว้ให้นานที่สุด

◄ll กลับสู่สารบัญ


114
คำเทศน์ของ ท่านขุนเสือ (เล่าตื้อ)

(ท่านพ่อขุนเสือหรือเล่าตื้อ เป็นผู้นำไทยสมัยก่อนอาณาจักรเชียงแสน)

9 กรกฎาคม 2519

• สูญหมด ค่าเป็นสูญ
• ไม่มีใครทำอะไรไทยได้
• มันช่างกำเริบ กระหยิ่มใจเหลือเกิน บังอาจกล่าวลบหลู่บรรพบุรุษผู้สร้างชาติไทย (ผู้) ให้พวกมันได้ซุกหัวนอน
• พวกกูทุกคน จะสิงสู่จิตใจคนไทยที่มีอุดมคติรักไทยให้ทำสิ่งเพื่อขัดขวางไอ้พวกเนรคุณ จะลงนรกก็ไม่ว่า กูขอสาปแช่งไอ้พวกเนรคุณผืนปถพีนี้ ให้มันฉิบหาย 7 ชั่วโครต



115
คำเทศน์ของ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์


มิถุนายน 2517

ประทับทรงสอนเด็ก
☺ พวกเอ็งมีบุญมากนะ ที่องค์บรมโพธิสัตว์มาทำการรักษาในครั้งนี้ ข้ายังไม่เคยเลย รักษาบุญอันนั้นไว้ให้ดี
☺ เราเป็นชาย เราต้องทำสิ่งใดคิดถึงประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำสิ่งใดคิดถึงประเทศชาติและองค์พระประมุข จำไว้ หวังว่าเอ็งคงจำข้าได้ เราทำดี อยู่ในศีลธรรม ไม่มีอะไรจะมาแผ้วพานได้ จงภูมิใจในความดีที่เรากระทำไว้เถิด

☺ การมาครั้งนี้ อยากจะกล่าวอย่างหนึ่งว่า อันสมเด็จพระองค์ท่านผู้ทรงหมดแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง ได้ทรงยกข้อความขึ้นอันหนึ่งว่า ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน อันนี้ ขอให้เข้าใจสำหรับคนที่ตั้งตนและเป็นตน เราต้องพึ่งตัวเองให้เป็นหลักใหญ่สำคัญอยู่แล้ว อันตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้น ต้องดูตัวเราเสียก่อนว่าตนนั้นพึ่งได้หรือไม่ ตนนั้นมีความสามารถเพียงใด เรารู้จักตัวเองแค่ไหน ความสามารถของเรานั้นแค่ไหน ฉะนั้นแล เราต้องทำตัวให้สมกับที่เราหยิ่งในเกียรติ ในศักดิ์ศรีของตัวเอง เจ้าเด็กหนุ่มทั้งหลายขอให้เข้าใกล้สักหน่อย วันนี้ ขออนุญาต

☺ จิตคนเรานั้นมีหลายประเภท บางคนจิตดี จิตดีนั้นยังจำแนกไปอีก จิตดีแบบมักง่าย จิตดีแบบหยาบๆ จิตดีแบบละเอียด จิตดีเยี่ยงผงธุลี ด้วยอุปนิสัยใจคนของคนเรา จะทำการข้างหน้าต่อไป เราจะต้องดูคนให้เป็น ให้ลึก ให้ซึ้ง เราจะทำการสิ่งใด เราต้องพิจารณาหาเหตุ หาผล ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุมีผลอยู่ในตัวของมันเอง ไม่ต้องไปขวนขวายมากนัก ถ้าเราดูเป็นพิจารณาเป็น สิ่งทั้งหลายที่เราจะทำต่อไป เราจะต้องมีจิตสูง หรือพูดกันว่ามีอำนาจควบคุมในตัวของเราเองได้

☺ ตัวเรานั้น จิตใต้สำนึกข้างในสุดจะเป็นผู้ควบคุม สิ่งไรที่เราทำไป ถูกหรือผิดนั้น จิตเป็นผู้บอก เราทำไป การงานต่างๆ จะดีหรือเลวอยู่ที่จิตเรา ไม่ใช่ให้กายเป็นคนทำ กายเรานั้นคือความขี้เกียจคร้าน ความเฉื่อยแฉะ เรามีจิตที่มั่นคง ต้องบังคับกายให้ได้ ลูกหลานของข้าทุกคน ข้าอยากให้เป็นผู้บังคับตัวเอง ไม่ใช่นำตัวเองไปบังคับจิต จงตีความหมายนี้ให้แน่พอ แล้วเจ้าทั้งหลาย ลูกหลานของข้าทั้งหลาย จะประสบผลและความสำเร็จในสิ่งนั้นๆ ในการในงานทั้งปวง

☺ เราทำสิ่งใด นอกจากดูตัวเราเองแล้ว ยังไม่พอ ดูผู้อื่นด้วยว่าเขานั้นมีจิตเช่นไร ในการที่จะทำสิ่งใดต่อไป เอาเป็นว่า พูดอย่างที่พวกเอ็งทั้งหลายได้รู้ซึ่งกันดี
• ทุกอย่างที่พวกเอ็งทั้งหลายทำ ขอให้อยู่ในความเป็นจริง อย่าหลอกตัวเอง หลอกจิตของเราเอง จำไว้ๆ การหลอกจิตของเราเองก็เท่ากับดูหมิ่นตัวเอง เราเป็นอย่างไรทำอย่างนั้น ของทุกอย่างไม่เกินความสามารถของมนุษย์ที่จะทำได้

28 มิถุนายน 2520

☺ “อินทราทิตย์”
☺ ขอให้ทุกคนที่ไปสุโขทัยจงตั้งใจมีสติอธิษฐาน มีพลังใจที่แกร่งกล้า

13 กรกฎาคม 2521

☺ บ้านเราเมืองเรา ถ้าทุกผู้ทุกตัวตนรู้จักรักษารับผิดชอบในถิ่นที่อยู่อาศัย ในรังเกิดรังตายแล้ว ถ้วนทั่วทุกคนย่อมผาสุก หน้าใส ตาใส

◄ll กลับสู่สารบัญ


116
คำเทศน์ของ ท่านแม่ย่า


22 ตุลาคม 2518

สอนเด็กผู้หญิง
☺ ในสมัยโบราณ ตั้งแต่บรรพบุรุษสืบสันดานกันมา ก็คือเรื่องประเพณี ธรรมเนียม เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดนะ ฉะนั้น ย่าอยากจะสอนในสิ่งสำคัญ คือคำว่า “กุลสตรี”
☺ กุลสตรี คือสตรีที่มีสกุล มีชาติเกิด ที่มีความเป็นผู้สูงด้วยธรรม สูงด้วยความประพฤติ จรรยา ฉะนั้น เธอทั้งหลายขึ้นชื่อว่าเป็นกุลสตรีไทย
☺ เธอเป็นกุลสตรีไทย เธอต้องรู้คุณและค่าของคำนี้ให้มากๆ และลึกซึ้งอย่างยิ่ง ชาติที่ดีย่อมมีประเพณีส่อถึงศีลธรรมเป็นหลักใหญ่ การทำอะไรของผู้หญิงไทย ต้องถือว่าเป็นเรื่องใหญ่

☺ จะเข้าจุดประเด็น แปลว่า ปัจจุบันนี้การเป็นมาทางด้านจิตใจ การอบรมของหญิงไทย ย่าขอให้คำว่า “ทรามมาก” ผู้หญิงไทยเดี๋ยวนี้ชอบปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามแบบคนทางตะวันตกมากเหลือเกิน จนมองเห็นเป็นพวก ขอใช้ศัพท์สูงนะ “ดอกทอง” จริงไหม ?
☺ จำไว้เสมอ ถ้าเธอคิดว่าเธอเป็นกุลสตรี จงระลึกไว้ว่าเธอนั้น สูงด้วยศีลธรรมหรือยัง สูงด้วยมารยาทหรือยัง อย่าให้ใครเขาหมิ่นว่าเราขาดการอบรม ไร้ชาติไร้สกุล

☺ ผู้หญิงไทยควรเป็นผู้รักตัว สงวนองค์ใช่ไหม ไม่ใช่ทำตัวง่ายๆ ไม่ว่าเป็นพี่เป็นน้อง เป็นผัวหรือเป็นเมีย ใช่ไหมยะ
☺ คนเรา แม้รักกันฉันพี่น้อง ก็ควรให้อยู่ในขอบเขตของศีลธรรม ไม่ใช่ไร้ยางอายประเภทที่ยืนแก้ผ้า ย่าไม่อยากพูด หญิงงามเมืองสมัยก่อนยังดีกว่า ออเซาะกันแค่ปากก็ยังน่าเกลียด คนเดี๋ยวนี้มันออเซาะทั้งตัว
☺ ผู้หญิงที่สวยนั้น สวยบาดใจชาย คือสวยมารยาท เขายกย่องว่าเป็นคนงาม แต่ผู้หญิงที่รูปสวยอย่างเดียว มารยาทไพร่นั้น เลวยิ่งกว่าแม่ดอกทั้งหลาย

☺ ย่าจะสรุปละว่า ผู้หญิงที่งามต้องตาต้องใจชายนั้นคือ
1. สมเป็นกุลสตรีไทย
2. มีมารยาทงาม
3. มีจริยาพร้อมที่เป็นแม่บ้าน ผู้หญิงคนใดถือว่าตัววิเศษกว่าคนรัก ย่าขอบอกว่าผู้หญิงคนนั้นโง่ที่สุด
4. ผู้หญิงที่ฉลาดนั้น ต้องมีวาจาเพราะ พูดสบายใจ ไม่ใช่พูดเองสบายใจ แต่พูดให้คนอื่นสบายใจ
5. ผู้หญิงนั้นต้องเป็นผู้สำรวม คนสำรวมคือคนงาม ใช่ไหมยะหลานๆ ?

☺ จำไว้ให้หนัก ครุ่นคิดให้หนัก เรายังมีชาติที่เป็นไทย มีประเพณี ศีลธรรมของไทยจริงๆ อย่างกระแดะไปเอาของคนอื่นมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอนั้นเข้ามาทางธรรม อย่าให้คนที่เขาเลื่อมใสศรัทธาพระคิดเป็นของเลวทราม เพราะมีคนพูดถึงท่านมานานแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว
☺ ถ้าเป็นผู้ใหญ่เขายังว่าน่ายกให้ เพราะเป็นผู้ผ่านชายมาแล้ว ส่วนเด็กที่ยังบริสุทธิ์นี้ อย่าให้เขาขึ้นชื่อว่าเป็น “สถานที่เสื่อมสภาพ”

☺ บัดนี้ โลกย่อมแจ้งว่าหญิงไทยไร้ยางอาย ไอ้เรื่องพี่ๆ น้องๆ โดยไม่รู้จักมักจี่มาก่อน แล้วมาสนิทกันเกินงามนั้น คนไม่เข้าใจย่ะ จะพูดว่า เข้ามาทางนี้คนเขาไม่คิดไม่ได้ เราเอาศีลธรรมประเพณีเป็นเครื่องวัด จำไว้นะยะหลานทั้งหลายซึ่งย่าเคยเลี้ยงมาเคยรักมา อย่าทำให้ย่าต้องโกรธ ย่าจะไม่พูดด้วยนะยะ

☺ นี่แหละ คือสิ่งที่ผู้หญิงจะช่วยได้ คือชื่อเสียง
☺ หญิงไทยต้องเก่ง ต้องเข้มแข็งอดทน อดกลั้นและอดทน อยากอะไรก็อดไว้ เพื่อศักดิ์ศรี ช่วยกันสอน ช่วยกันเตือน ช่วยกันเผยแพร่ ใครจะร่วมกับย่าบ้าง เดินสายกลาง ไม่ใช่ให้เครียด รู้จักอะไรควรไม่ควร รู้อะไรดีไม่ดี รู้กาลเทศะ

12 ตุลาคม 2518

☺ พระพุทธเจ้าบรมศาสดาเทศน์ทีไร สวรรค์เปิดหมด ได้ยินถึงกันพร้อม เทพท่านถึงรู้ว่าที่ใดติดต่อท่านได้ และที่ไหนท่านโปรดได้
☺ เรื่องกรรมน่ะ เถียงกับมันไม่ได้ มันทำตรงหน้าที่ของมัน ให้สินจ้างรางวัลมันก็ไม่เอา ฉะนั้น เรารับปากอะไรไว้ก็ตามอย่านึกพลิกแพลง ตีคำ เล่นสำนวนไม่สำเร็จ


25 ตุลาคม 2519

☺ ในยุคนี้เด็กๆ ทั้งหลายจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ ก็ต้องมีขนมธรรมเนียมที่รักษาความเป็นไทยไว้ได้ คือว่า เด็กนั้น เมื่อถึงวัยอันที่จะใช้ประโยชน์และกระทำประโยชน์ต่อชาติได้ ก็คือวัยหนุ่ม-สาว วัยนี้เป็นวัยที่มักจะต้องอารมณ์เป็นใหญ่ ฉะนั้น ต้องเปลี่ยนวิถีของตนเองให้อยู่ในสภาพที่ไม่นอกลู่นอกทาง จนเกินไป การจะกระทำได้ดังนี้นั้น ต้องมีผ่อนหนักผ่อนเบา รู้จักอภัยที่ไม่รุนแรง ลำบากมากสำหรับเด็กยุคนี้

☺ อันที่จริงนะ ย่าอยากจะให้ใครที่มีเวลา เขียนเรื่องเด็กหนุ่ม-สาวไทย จรรโลงวัฒนธรรมไทย เน้นถึงเกียรติ ศักดิ์ศรีของคนไทย โดยเฉพาะหญิงสาวไทย สอนแบบสนุกปนด่า ปนรักชาติ
☺ นับวันหญิงไทยสาวๆ ชักน่าบัดสีขึ้นทุกที เรามีของเราไม่ชอบ ชอบเป็นขี้ข้าทางวัฒนธรรม
☺ อยากให้มีคนเขียนสอนเด็กตั้งแต่โรงเรียนด้วยซ้ำ ศีลธรรมที่สอนกัน ย่ารู้สึกยังเป็นยาเบื่อของเด็ก

พูดถึงการสอนแผนใหม่
☺ ยิ่งไปกันใหญ่ เด็กจะเห็นศีลธรรมเป็นของ (คน) แก่ ย่าพูดตรงๆ นะ จำนวนเท่าไรที่เด็กหญิงไม่บริสุทธิ์ มีตั้งค่อน ย่าดูแล้วอนาถใจมาก ปู่ย่าตายายที่เขามีประเพณีเขาไม่เสียใจแย่รึ ? ย่าหนักใจมากนะ ดูซิ เรื่องต่างๆ ก็เพราะเด็กทั้งนั้น เพราะเด็กส่วนใหญ่ ขาดการอบรมเรื่องเกียรติยศ ความหยิ่งหมดไป กลายเป็นเงิน

(ปรารภ สมัยนี้ไปอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน)
☺ อิสระมากไป เหมือนเมืองเรา ในเวลาที่ผ่านมาประชาธิปไตยมากไป คิดดูแล้วกันว่าเด็กๆ ที่จะมาบริหารในภายภาคหน้านั้น ถ้าปล่อยกันเช่นนี้แล้ว จะเป็นยังไง
☺ เด็กที่เกิดปีเดียวกันน่ะ มีเป็นแสน คิดดูพออายุ 20 ปี จะหาดีได้เท่าไร ต้องเริ่ม
☻ (ถาม – สอนเด็กหรือสอนผู้ใหญ่ ?)
☺ สอนทั้งนั้น สอนให้สัมพันธ์กัน บ้านเมืองยุคเจ้าฟ้าต่อไปเป็นไงถ้าเด็กรุ่นเล็กขึ้นมา

2 กุมภาพันธ์ 2520

กับพวกที่รำฉลอง
☺ นี่นะยะ พวกที่ตั้งใจจะรำนี่ ถือเป็นอานิสงส์ของศรัทธาที่เต็มใจ พร้อมใจการทำบุญเพื่อสนองกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษทั้งหลาย จงทำบุญด้วยแรงกาย แรงใจ อย่าได้มีทิฐิมานะ อย่าได้มีเขามีเรา จงสมานสามัคคีกันไว้ ทุกคนที่รำ เคยรำเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง ก็ต้องมีผิดมีพลาด คนที่เป็นก็สอนคนที่ไม่เป็น อันนี้ เป็นสิ่งทดสอบใจเราดูว่า เรานั้นยังถือวัยวุฒิ หรือคุณวุฒิเป็นสำคัญ บางคนก็ทิฐิมากไป จงลดทิฐิลง อย่าลืมว่าเราทำบุญด้วยศรัทธา ปรารถนากุศล ปรารถนากตัญญู

☺ ย่าขอให้พรเจ้าทุกคน แล้วขอแจ้งให้หลานๆ ทุกคนได้รู้ประจักษ์แก่น้ำใจว่าเทพก็ดี บรรพบุรุษก็ดี เขายินดี ปิติ และของใจเจ้าทุกๆ คน พร้อมทั้งอนุโมทนา

◄ll กลับสู่สารบัญ


117
คำเทศน์ของ ท่านย่าอินทิรา

หมายเหตุ :- “ท่านแม่ย่า” ที่สุโขทัยความจริงมี 2 องค์ คือท่านย่าอินทิรา และท่านย่าจันทร์เทวี


8 สิงหาคม 2522

☺ หลานๆ พูดสุขถ้วนหน้าทุกหมู่นะยะ ?
• เรื่องจะแต่งตำนานสองหมู่ชน จะเป็นครรลองแบบใดยะ ?
ย่าจะให้เป็นครรลองของการสอนชนทุกวิถี จะมุ่งสู่ความเข้าใจในเหตุ เพราะอันใด ผลจะมุ่งฉันใด เป็นปริศนาให้ชนผู้ได้แลตำนานแล้ว จักคล้อยตามไปสู่สัมมาทิฐิกุศลกรรมที่ดีต่อชีวิต

☺ ย่าอยากมุ่งให้ชนมีความรักเกียรติภูมิ มีความเชื่อมั่นเอกลักษณ์ของชนชาติแห่งเราจะพูดได้ว่า ชนทั้งหลายนั้นได้พึงมีความรับผิดชอบร่วมกันในภูมิของเรา สิ่งนี้ย่าเล่าว่าเป็นหนทางไปสู่ความเห็นดี จักนำหมู่ชนให้รักพระพุทธศาสนามากขึ้น เป็นการสอนเล่าสู่ทั้งชายและหญิง เพราะเหตุที่ชายจะดีก็ต้องหญิง หญิงจะงามก็ต้องชาย งามในคำนี้มิใช่งามกาย อันมวลมนุษย์ทั้งปวงนั้น ถ้าแรกเริ่มการกำเนิดชีวิตมิได้มีสิ่งใดมากำหนดให้ดำเนินไปทางกุศลแล้วไซร้ อันใดเล่าที่จะเป็นทางกำหนดให้ผู้นั้น ?

☺ จึงเริ่มด้วยการก่อกำหนดให้มนุษย์นั้นรัก ผูกพันในศักดิ์ในศรีอย่างมีเหตุผล เป็นแนวมั่นให้ชนผู้นั้นได้ประพฤติ กระทำในสิ่งที่ควรแก่ชนชาติเรา ทำให้ชนผู้นั้นละอายต่อสิ่งที่ไม่บังควร นี่เป็นวิถีหนึ่ง


☺ จงตั้งตำนานแห่งสายธารน้ำใจ ชนทั้งมวลจักอยู่ร่มอยู่เย็นพูนสุขได้ จักต้องมีไมตรีอันงามต่อกัน จึงพึงรู้พึงคิดในอุปนิสัยชองตนดั่งเช่นชนทั้งปวงที่ได้คบสนิท นำจิตของตนไปสู่จิตแห่งผู้อื่น รู้จักอภัยในแห่งที่เป็นเหตุเพียงไม่หลง รู้จักเมตตากรุณาดังพรหมวิหาร 4 เหตุนี้จะสอนกุลบุตร กุลธิดา ให้มีพรหมวิหารอยู่แห่งตน รู้อารีกับชนทั่วหล้า เข้าใจหมดหรือไม่ ?

☺ ชนทุกหมู่ ย่อมจะคิดในตนว่าเป็นชนหาญกล้า แต่ชนเหล่านั้นมิยังใจตนให้รู้ถึงใจในความหาญกล้ามีในตนหรือไม่ ชนหมู่นั้นจักเป็นผู้ปลอมตน ไม่รู้จักตัวแห่งตนแท้จริง เมื่อเหตุแห่งที่เล่านี้บังเกิด นั่นคือความพ่ายแพ้ของผู้นั้น

☺ จงนำข้อธรรมะ บรรจงใส่ลงเป็นสติ ความเชื่อของคนทั้งมวลยังเริ่มแต่ความเห็นในตัวตนเป็นเบื้องหน้า ต่อมาจะเชื่อในอำนาจของสิ่งที่เหนือตัวตนเป็นลำดังรอง ครั้งต่อไป จะพึงเข้าใจในกรรมแห่งคนและสัตว์ในที่สุด ถ้าผู้นั้นได้ยึดปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนาจะรู้ยึดมั่นในความจริงที่เป็นจริงของธรรมดาพิภพ จะต้องนำหลักใจไส้ใจของชนออกกล่าว จักได้เป็นหนทางให้สะดุ้งสะพรึงคนและตำนาน

☺ เติมความเป็น 2 นัย นัยว่าชนนั้นมีทั้งกุศลและอกุศลพร้อมกันแห่งคน ชนนั้นจะก้าววิถีทางใด
☺ ได้กล่าวว่าไม่มีชนใดดีพร้อม ไม่มีชนใดสมฤทัยพร้อม ชนพึงแลชนอื่นว่าผู้ใดที่กุศลควรคบและควรอภัย ดังนี้ มิใช่มานะอย่างแรงกล้า แต่ขอกล่าวเป็นสัมมาทิฐิ คนเราจะนำจากทางอกุศลมากๆ มาสู่กุศลน้อยๆ มาสู่กุศลที่หนึ่งนั้น จักต้องค่อยๆ ปอกทีละชั้น

☺ หลานย่าทั้งหลายก็แลกัน จักดำเนินวิถีชีวิตนำมาหาสู่พระพุทธศาสนาได้ ก็จักต้องล่อหลอกบอกแก้เป็นขั้นตอน อย่าลืมว่าชนที่มารวมหมู่ในหมู่ รวมทั้งหลานๆ ด้วย ยังเป็นชนที่แบกภาระพันธะและอุปกิเลสกองโตๆ กันนะ จงถือว่าพวกหลานเข้ามานมัสการประพฤติธรรม เพื่อขจัดปัดล้างกิเลสอย่างหลวงให้สูญไป ใช่ไหมยะหลานๆ ถึงอย่างไร ย่าก็ปลื้มเป็นยิ่งนักที่เห็นความขยัน หวังกุศลในพระนิพพานเป็นที่ตั้ง แลได้ยินดีกับหลานที่มีความกตัญญู รู้พระคุณของพระมหาเจ้าต้นจันทน์
(หมายเหตุ :- หลวงพ่อเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดต้นจันทน์ที่สุโขทัยสมัยโน้น)

☺ ชาวเรา คงจะได้แลชาวเราในอดีตสมัยที่มาสมาคม ณ แห่งที่สถาน ย่าจึงอยากให้หลานๆ ได้บำเพ็ญจิตเพียงเสี้ยวเวลาหนึ่ง พวกผู้ใหญ่โพ้นสมัยอดีตกาลจะได้อวยพร ถวายชัยแก่หลานๆ นะยะ



118
คำเทศน์ของ ท่านย่าจันทร์เทวี


8 สิงหาคม 2522

คนที่ 1
☺ ว่าไงยะ เจ้าเป็นอย่างไรยะ กายน่ะ เจ้ารังแกคนเขามานักนะยะ สมควรโมทนาส่งแล้วย่ะ เป็นชายมาหลายยุคแล้ว ดันมาเป็นหญิง
☺ จะแก้หรือยะ ? ย่าว่ารับไปก่อนแล้วกัน เจ้าไม่อยู่ในปกครองของย่านี่นะ ยังหวังสงเคราะห์ในทุกชาติอยู่นี่นะ ทนเอานะยะ

คนที่ 2
☺ พิจารณาซิยะ มองดูตัวเราในเรานะยะ จะได้เป็นตามลำดับของฌาน
☺ จ้าถือเสียว่าเจ้าทำเขามานักต่อนักแล้ว ไหนๆ เจ้าปักใจมั่นที่จะสู่แดนไม่มาเกิดอีก เจ้าก็มีน้ำใจกล้าแข็งยอมทนไปแล้วกันนะยะ เป็นความจริงอยู่ประการหนึ่งนะยะว่า บุญย่อมรักษาผู้ทำบุญ ธรรมะย่อมรักษาจิตของผู้บูชาธรรมะ พุทธานุภาพย่อมรักษาตัวผู้เคารพนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า

คนที่ 3
☺ กรรมทั้งหลาย พระท่านก็กล่าวแล้วว่าเป็นสิ่งที่ยุติธรรมสำหรับคน แต่คนที่กำเนิดมามักไม่เข้าใจในกรรม ก็สมควรอยู่ที่ไม่เข้าใจ แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อเราตัดสินใจจะเลือกวิถีชีวิตทางใด แต่ย่อมต้องมีทางแย่ง นั่นแหละคือทางออกหรือทางวนเวียน เราเป็นผู้ตัดสินใจอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราจะต้องหาหลัก ข้อกำหนดในการจะเปลี่ยนวิถี

(ถามถึงการปฏิบัติ)
☺ อย่าได้พะวงในการปฏิบัติ เจ้ามั่นใจในธรรมะแค่ไหน ความมั่นใจในตัวเจ้าจะทำให้เจ้ามีปัญญาที่จะหาทางดีที่สุดเป็นวิถี
☺ ย่าไม่อยู่ในฐานะที่จะทำนาย เพราะย่าเองยังด็อกๆ แด็กๆ อยู่ ไม่ถึงไหน

คนที่ 4
☺ เมื่อไหร่จะไปอยู่กับท่านอ๋อยยะ ? รีบปฏิบัติใจซิยะ ต้องมั่นใจนะ บารมีคือความมั่นใจนะยะ

คนที่ 5
☺ การกระทำจิตใจให้ล่วงรู้ความทุกข์นั้น เจ้าจะต้องรู้สาเหตุที่เจ้ามีใจเศร้าหมองอยู่ เจ้าจะต้องรู้เหตุนั้นผิดที่ใด ถ้ายังไม่แจ้งในที่ผิดของเหตุ จงตรวจดูว่าผลของเหตุเป็นดีเป็นร้ายประการใด นั่นจะทำให้เจ้าชั่งใจ จำเริญใจให้มีปัญญา รู้ในความถูกต้อง
☺ สิ่งสำคัญ ศีล 5 หมั่นรักษาให้บริสุทธิ์ สมาธิหมั่นให้ทรงสติ เมื่อนั้นปัญญาเจ้าจะแจ่มใส

คนที่ 6 (เดือดร้อนที่อยู่)
☺ ยะ ย่าจะช่วย
มีดอกไม้ไหม ไปจุดธูป 5 ดอก เทียน 3 เล่มหน้าแท่นเทศน์ อธิษฐาน ด้วยผลกุศลที่เจ้าทำมาครั้งก่อนจนถึงปัจจุสมัย อันมีวิหารทาน สังฆทาน ธรรมทาน เป็นอาทิ จงยังผลสนองให้ตัวเจ้าได้พล ประสบปัจจัยทั้ง 4 มิมีขาด แล้วอธิษฐานไป ตอนแรกถึงยังพระผู้มีพระภาคเจ้าก่อนย่ะ แล้วด้วยบุญกุศลที่ย่าเอ่ยมาข้างต้นนี้ เจ้าก็อุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมกำหนด เจ้าเวรกำหนดทุกประการ ให้โมทนา อย่าลืมอโหสินะยะ (หมายเหตุ :- ขอให้เขาอโหสิกรรมให้)

คนที่ 7
☺ การงานทำไป พิจารณา ถ้าเขาจะว่า จะด่า ก็ช่างเขา ถ้าเจ้าไม่ผิด พิจารณาให้เห็นว่าคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นจริง ทุกคนไม่พ้นนินทา

◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 12/7/11 at 13:36 [ QUOTE ]


119
คำเทศน์ของ พ่อขุนรามคำแหง


มิถุนายน 2517

ประทับทรงสอนเด็กรามคำแหง
☺ พวกเอ็งทั้งหลาย อยู่ในสถาบันที่ใช้นามของกู นับว่าพวกเอ็งทั้งหลาย คงใช้นามของกูในทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ต่อแผ่นดิน ต่อชื่อเสียงของปวงชนทั้งหลายต่อสถาบัน

• ถ้าพวกเอ็งเห็นว่านามอันนี้ เป็นนามที่ไร้เกียรติแล้ว ก็จงทำอะไรได้ตามสบายนะ ขอฝากสถานที่สถาบันแห่งนั้นไว้ในความนึกคิดของพวกเอ็งตลอดไป ตลอดไป
• พวกเอ็งทุกคนก็เหมือนกับเป็นลูกของกู มีอะไรก็จุดธูปจุดเทียน บอกกล่าวกันได้เสมอ
• สถานอันเป็นที่ศึกษานั้น เป็นธรรมดาที่จะต้องมีคนดีและคนชั่ว อยู่ปะปนกันไป ขอเวลา และสถาบันนั้นจะรุ่งเรืองในวันข้างหน้าแน่นอน

☺ ขอพวกเจ้าให้คำมั่น นับจากนี้เป็นต้นไป เรื่องการต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสถาบันนั้น จงอย่าเข้าไปร่วม อย่าเข้าไปร่วม เรามีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน จงกระทำไป ปล่อยให้คนอยากเถลิงอำนาจทำไปเถิด
☺ ไป (เชียงแสน) คราวนี้ ถ้ามีเวลาพอก็ไปเยี่ยมเยียนที่สุโขทัยกันบ้างนะ จงทำใจให้สงบ ขอบใจที่จะนำชื่อเสียงมาสู่นามนั้น สถาบันนี้ จะสร้างให้เธอเป็นผู้ยิ่งใหญ่มากขึ้น ถ้าเธอรู้สภาพแห่งตัวเธอเอง

☺ จำไว้นะ ไม่มีใครบังคับ เป็นอิสระ เป็นไทแก่ตัวทุกอย่าง เหมือนกับสุโขทัยที่พวกเธอเคยเห็นกันมา เราอยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ไม่มีใครบังคับใคร ทุกอย่างเป็นอิสระ เป็นไทแก่ตัว

11 กรกฎาคม 2517

ประทับทรง
☺ จัดอาสนะตรงนี้หน่อย 2 ที่
☻ (ถาม – ให้ใคร ?)
☺ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1
☻ (ถาม – เมื่อเป็นมนุษย์รบกัน ดับขันธ์แล้วไม่เป็นศัตรูกันหรือ ?)
☺ โอ๊ย! ท่านไม่ได้รับกับเราหรอก ห่างสุโขทัยไม่รู้ว่ากี่ร้อยปี

☻ (ถาม – อีกเบาะใคร ?)
☺ พระมเหสี
☺ ท่านเล่าให้ฟัง สมัยนั้นรุ่งเรืองมาก แต่สมัยนั้นมีข้าทาสแล้ว ประชาชนอยู่สุขสบาย สมัยศาสนาพราหมณ์มีอิทธิพลมาก
☻ (ถาม – ตอนนั้น นับถือใคร ?)
☺ ต้นรัชกาล นับถือพระอิศวร กลางรัชกาลเปลี่ยนไปนับถือพระนารายณ์

สมัยนั้นคนงามนะ สวย จะบรรยายถึงเครื่องทรงพระมเหสีนะ ทรงชุดครึ่งหน้าแข้ง ผ้า ห่ม 2 ทับ ปลายขลิบทองเว้ามนขึ้นมา จีบทั้งองค์สีเขียวตอง ตรงเอวลงมาปักด้วยทองเป็นลายหยดนั้นถึงแค่นี้ (ชี้มือ) ทรงสายคาด นี่ท่านเนรมิตให้ดู เสื้อแขนสั้นคอกลม ตลบลงมา สีทอง มีผ้าห่มเป็นแพรแต่ปักด้วยทอง ห่มคล้อง เสื้อเข้าข้างในนะ ข้างในผ้าซิ่น ทรงเข็มขัด แขนขลิบลายทอง รอบคอกลม จีบลงมาเป็นลายทอง จีบรอบต้นแขน มีกำไรทองสองข้าง เป็นทองนะ หัวเป็นเพชรประดับด้วยมรกตรอบ เป็นเครื่องมรกต สมัยนั้นธรรมดา มีมาก

• ที่หูติดอะไรเล็กนิด เป็นดอก เป็นมรกตสลัก
• เกศา ทำเป็นรูปดอกเครือวัลย์ ผมเกล้าขึ้นไปรวมที่ข้างบน ทรงรัดด้วยกำไล ทองที่มวยบน ไม่ปล่อยเป็นพุ่ม เกล้าขึ้นไป
มีแปลกนะ ที่รัดคอเป็นทอง ไม่ใช่กำไล เป็นเส้นๆ ตรงๆ เป็นแถบพันเป็นเส้นตรงๆ คล้ายๆ สายนาฬิกา ตรงกลางนะ ประดับด้วยมรกตทุกเส้น รอบนอกกูก็ไม่รู้นะ ท่านบอกว่าเพชรตากุ้ง

• ท่านบอกว่าชุดนี้ไม่ใช่ชุดพิธีใหญ่ ชุดออกพระโรงทรงมีข้างหน้านะ ขอบเทากัน หยักลง มวยผมสูงกว่า กระบังมีลวดลายสวยมาก มีเจิมกลางหน้าผากแบบพราหมณ์
• พระธำมรงค์ 8 นิ้ว มีรัดที่โคนหน้า
• ผ้าที่เห็น ทอลายละเอียดมาก ผ้าซิ่นนะ ระยิบๆ แต่เสื้อเป็นสีเรียบ
• มีฉลองพระบาทปลายมน มีส้น ตรงปลายงอขึ้นมานิดหนึ่ง สมัยนั้นเป็นการที่นิยมการไว้เล็บนะ ไว้เล็บยาวประมาณ 1 ซม. แต่สีท่านไม่แต้มที่เล็บนะ เป็นสีออกเหมือนมุกธรรมชาติ


☻ (ถาม – เล่นสีที่หน้าหรือเปล่า ?)
☺ ท่านสวยอยู่แล้ว ท่านบอกว่าท่านมีเชื้อรามัญ พระพักตร์รูปเรียว แต่ไม่ยาว
☻ (ถาม – เครื่องแต่งองค์กษัตริย์ เป็นอย่างไร ?)
☺ ผมไว้มวยแบบพราหมณ์ เกล้าต่ำ มงกุฎท่านคล้ายๆ แขก คือเป็นกระบังรัดลงมาสวมเต็ม มีแป้นสุริยะอยู่ข้างหลัง แต่ไม่เลอะเทอะนะ สวน ฉันว่าสวยกว่าแขก
กางเกงแค่นี้ แล้วโจงกระเบนแค่นี้

• เสื้อนะ แขนสั้น แต่ออกมาอย่างนี้ เสื้อคอปิดติดนิดเดียว รัดข้อมือแค่นี้ (7-8 ซม.)
• คอท่านใหญ่ ไม่มีรัดคอนะ มีรัดข้อเท้า ทำแบบเครื่องลงถมทอง เป็นลายอย่างเครื่องถม สงสัยอิทธิพลทางใต้ อ้อ! ท่านบอกว่าแขกเอามา สมัยก่อนแขกมาลงที่นครศรีธรรมราช ต่อเรืออีกฝั่งหนึ่งมานครปฐมถึงจะมาได้ สมัยนั้นนครปฐมยังติดฝั่งทะเลอยู่

• ดาบท่านแปลกดี ทรงพระแสงยาว ปลายงุ้มเข้าบอกว่าได้รับอิทธิพลจากทางแขก
• ลัทธิพราหมณ์เข้ามา เครื่องแต่งตัวก็คล้ายสุโขทัย
• ท่านเสด็จกลับแล้วนะ ทรงพระมัสสุโง้งขึ้น หน้าท่านคม เป็นเหลี่ยม ตาท่านลึก
• เอาละๆ ไม่มีอะไรนะ


3 ธันวาคม 2518

☺สมัยกู กูกู้บ้านเมือง กูนำความเจริญมาสู่สุโขทัย
•ใช้นามของกูให้เป็นมงคล จงรู้ รับผิดชอบว่านาม “รามคำแหง” จะเป็นนามที่รุ่งเรืองอันเป็นศรีบ้าน ศรีเมืองยิ่ง ขอให้รักษาไว้ให้ดี
•ภัยพวกจีน ก็เช่นเดียวกับผู้ที่เคยในกาลก่อน

☺กูอยู่ คนกูอยู่ ก็รู้ได้ จำไว้นะ นามกูเป็นนิมิตของคนเจริญรุ่งเรือง
•คำของคนบริสุทธิ์ ปฏิบัติบริสุทธิ์ย่อมเป็นอมตะ ฉะนั้นอย่างได้กล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นมงคล จะสาปแช่งผู้นั้นให้เป็นอมตะ ตระกูลพระร่วง มีวาจาสิทธิ์ ทุกคนที่ร่วมวงศาพระร่วงย่อมฟื้นฟูคาถาสาปคนได้

8 กันยายน 2519

☺คนที่รักและบูชาพ่อก็จงทำดีให้สมกับเป็นลูกพ่อที่ชนะ ชนทั้งหลายยกให้เป็นมหาราช
•จำเอาไว้สำหรับลูกทุกคนว่า “พ่อ” ไม่ว่าจะเป็นพ่อเมือง พ่อบ้าน พ่อของลูก คำนี้พ่อขอหวังเห็นอย่างเดียวคือ ความเจริญของลูก ทำได้ดังนี้แหละ คือความกตัญญู

☺วัตถุเปลี่ยนไป วัฒนธรรมเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็แปรผัน ฉะนั้นของประจำสัญลักษณ์ของชาติเราคือวัฒนธรรมของไทย ขอให้รักษากันยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ของถ้ามันเกิดเสียไปครั้งหนึ่ง ยังอภัยได้ว่าเผลอหรือพลาด แต่ถ้าเสีย 2 ครั้งขึ้นไปนั่นมันจะเผลออีกรึ นั่นมันจงใจแล้ว ข้อความอันนี้ ดีสำหรับทุกๆ คนในส่วนตัว

25 ตุลาคม 2519

อบรมเด็กหนุ่ม – สาว
☺ข้าอยากให้พวกเอ็งรักเกียรติ รักศักดิ์ศรีของคน คนเราทำไม่ต้องมีเกียรติ ? เพราะว่าเป็นเครื่องจรรโลง ไว้ว่าเราเป็นบุคคลที่มีความดี สมควรที่เป็นคนน่าเคารพ นั่นคือเกียรติ
•เมื่อพอจะรู้เรื่องเกียรติแล้ว ก็จะอบรมพวกเอ็งให้รู้จักว่าควรทำอะไรบ้าง
•เวลานี้ เมื่อเราอยู่ในภาวะที่ต้องขวนขวาย ถีบตัวเองให้หาเลี้ยงตนได้ ก็ต้องหัดบิน ต้องมีความตั้งใจให้แม่นมั่น

☻อีกภาระหนึ่ง เป็นสิ่งที่เราจะแสดงความเคารพรักต่อคำว่า “ไทย” ได้ คือ ประเพณี เราเป็นคนไทย ต้องรักษาประเพณีของไทย เพราะคนที่ไม่ใช่คนไทยเขาจะมารักษาประเพณีของเราได้อย่างไร แต่บัดนี้มันกลับกัน เราเองทิ้งประเพณีของเรา รับเอาประเพณีของคนต่างชาติเข้ามาอย่างไม่อาย ถือเสมือนว่า เป็นขี้ข้าวัฒนธรรมเขา จะช่วยกันได้ไหม ?
ได้แน่นะ !


☺•เอาละ ข้าจะรวบรัดโดยวิธีของข้า คือถ้าว่าพวกเอ็งให้สัญญากับข้า ไม่ว่าใคร เราไม่ยินดีต่อคนทำผิดประเพณี เราก็ไม่ส่งเสริมให้คนทำผิดประเพณี อันนี้ถือว่าเป็นสัญญาที่พวกเอ็งให้ไว้กับข้านะ
☺•เช่น ชายไท ควรจะถือเอาเกียรติศักดิ์ศรีเป็นใหญ่ ไม่ทำให้หญิงต้องดูถูกดูหมิ่น และหญิงก็ต้องเป็นคนรักศักดิ์ศรีตนเอง ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจในเรื่องเหลวไหล

☺•จริงแท้ในยุคนี้ ตามที่ท่านแม่ย่าว่ามาแล้ว คือหญิงไทยที่บริสุทธิ์จริงๆ นั้นหายาก นี่หรือเรื่องดี ? บัดซบที่สุด พ่อ-แม่ ไม่รู้เลี้ยงกันภาษาอะไร หรือสักแต่ว่าออกลูกเป็นอย่างเดียว ? ฟังแล้วมันน่าอนาถหัวใจ ผู้ชายมันก็โฉดมาก ฉะนั้นข้าถึงอยากให้พวกเอ็งเป็นคนทำ จากกลุ่มน้อยๆ ก็ขยายไปถึงที่เป็นลูกหลาน อยากให้เป็นพลเมืองดี กรรมจะได้ไม่สนองลูกหลานเอ็ง

☺•หญิงชายรู้จักกัน ยังไม่มีอะไรผูกพันก็อย่าทำในเรื่องที่สังคมเขาว่าไม่เหมาะ เช่น ไปไหนสองต่อสองในยามวิกาล ทำอะไรอย่าประเจิดประเจ้อนัก ข้าก็ไม่ห้ามและไม่ชมเพราะคนต้องมีความรัก แต่เป็นเรื่องธรรมดาของคน ระวังอย่าให้เสียชื่อ หญิงนั้นก็ควรอดทน ระวังอย่างให้เสียชื่อ หญิงนั้นก็ควรอดทน อย่าออเซาะจดบัดสี อย่าให้เกินไปนัก ทำได้ไหม ?

☻ (ถามเรืองหญิงรุ่นคนหนึ่งที่แจ้งว่าจะสละโสด)
☺เพราะเรื่องนี้ ข้าถึงได้มาเตือน ลูกเสียน่ะ พ่อแม่น้ำตาตก แต่ก็ต้องปล่อยตามชะตา ข้าอยากให้พวกเอ็งซึ่งเป็นลูกหลานอย่าทำผิดอีกเลย
☺•ผู้ชายซึ่งชอบออเซาะหญิงก็ถือว่าผู้ชายนั้นอ่อนแอ เป็นพวกขาดความอบอุ่น หาที่พึ่งไม่ได้ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ผู้นำในครอบครัวไม่มี เห็นแล้วน่ากระทืบ
☺•เอานะ ข้าถือว่าบอกกันแล้ว ให้สัญญากันแล้ว ถ้าเกิดเรื่อง ข้าไม่ละเว้น ยอมรับข้อเสนอนั้นไว้ รับมาซิใครไม่รับก็บอกว่าไม่รับ ข้าไม่โกรธ แต่จะเป็นประเภททำเฉยๆ เอาตัวรอดน่ะไม่ได้

☺รักเกียรติของแต่ละคนนะ ถึงแม้ว่าจะมีแม้แต่น้อยนิดก็ตาม พ่อแม่แต่ละคนก็ดีๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่โจรผู้ร้ายหรือสัตว์นรก ฉะนั้น ควรทำอย่าให้ใครดูถูกว่าพ่อแม่เราสร้างเราเพราะความสนุกไม่ได้นะ พวกลูกหลานข้า ถ้าใครสอนได้ควรอ่านให้เขาฟังบ้าง อย่าทำเป็นพวกตายอดตายอยาก บ้าตัณหา
•ฝากไว้เท่านี้ นี่แหละคือสิ่งที่พวกเอ็งช่วยชาติได้ ปลดจากขี้ข้าวัฒนธรรมต่างชาติเสียที

17 พฤษภาคม 2520

☺พระธาตุของเราที่สำคัญ มี 3 แห่ง ที่เชียงรุ้ง จอมกิตติ และดอยตุง

◄ll กลับสู่สารบัญ



120
คำเทศน์ของ น้องพ่อขุนรามคำแหง


2 สิงหาคม 2521

☻ (ถาม – ขอถามรายละเอียดประวัติศาสตร์)น้องพ่อขุนรามคำแหง
☺ เวลา (ท่านย่า) ดำเนินมาค่อยเจรจากับท่าน
☻ (ถาม – ขอทราบพระนามท่าน)
☺ ถ้าข้าจะเอ่ยชื่อ ก็คงเอ่ยโดยไม่ขาดปัญญา
(คนเดินกระดานอ่านไม่ออก ขอทวนใหม่)
☺ สองนายนี้ อ่านอักขระคล่องดีอยู่หรือ จะแจ้งอะไรว่าความมา หรือจะแจ้งกันเอง ?

☻ (ถาม – เรื่องบ้านเมือง)
☺ บ้านเมืองมีความแปรผันไปตามกาลเวลา เราดำเนินขึ้นภูผาสักเวลาหนึ่ง เมื่ออยู่ตีนภูผาแล้ววันข้างหน้าเราจะได้อยู่ยอดภูผา สำคัญที่เพลา
• แน่นอน ที่เราดำเนินอยู่จักต้องพบงูร้ายสัตว์ป่า โขดหินต่างๆ เป็นลำบาก ลำบากแก่มือ แก่ตีน แก่ใจ เข้าใจแจ้ง ?
☻ (ถาม – ไม่แจ้งว่าท่านเป็นหญิงหรือชาย)
☺ข้าไม่ 2 เพศ

☻ (ถาม – ในที่สุดบ้านเมืองก็จะพ้นได้ ?)
☺ได้
☻ (ถาม – พ่อขุนผาเมืองเป็นอะไรกับผม)
☺นับญาติทางโคตรหลวง
• จะกล่าวไหม ?

☻ (ตอบ – ไม่กล้า กลัวเพคะ)
☺ข้ากัดไม่เป็น
• จะทำอะไรต่อไปในขณะมีชีพ ?
☻ (ตอบ – อยากปฏิบัติธรรม)
☺เป็นฉันใด ปฏิบัติธรรม
☻ (ตอบ – วันพระถือศีล 8 วันธรรมดาถือศีล 5)
☺มีแต่นำธรรมะปฏิบัติ

☻ (ถาม – มีอะไรสั่งสอนลูกหลาน ?)
☺ก็จักขอกล่าวสอนให้หมู่พวกเราชาวพุทธ พระศาสนานี้จงยึดและปฏิบัติตาม พระธรรมคำสั่งสอนของพระศาสดาเจ้าเป็นแน่วแน่มั่นคง แล้วจะนำพาให้ชาติบ้านเราเมืองเราจำเริญ

จะใคร่ขอกล่าวมาในอดีตที่ชาวเราได้เกิดมาในยุคของพ่อใหญ่ ขุนบางกลางท่าวในยุคสมัยนั้นเป็นไปด้วยความลำบากในเรื่องรบ เรื่องป้องกันบ้านเมือง ชาวเราจะรักษาถิ่นฐานเมืองที่อยู่ทำมาหากินได้ ต้องอาศัยแรงร่วม รวมน้ำใจกันเป็นแม่นมั่น จะเข้าป่าเข้าดงขึ้นดอยแสนลำบาก มีเหตุนานาให้เจ็บไข้ ป่วย ล้มตาย หรือทำให้ชาวเราต้องทนทุกข์ นอนกลางดินใต้ร่มไม้ กินน้ำธาร น้ำตก และน้ำไฟ เราทนได้

แต่ในปัจจุบันสมัยนี้ซิ ทำเช่นร่างกายเราในอดีตไม่ได้ เพราะทุกผู้ทุกนามขวนขวายหาความสำราญ แต่เป็นไปโดยกำลังวาสนาบารมีที่พึงเป็นมาแต่ปวงบรรพ์ จึงใคร่น้อมนำเอาใจหวนคิดว่าแผ่นดินนี้เรามีสิทธิ์ มีอำนาจในการรักษาคุ้มครองแทนบรรพบุรุษที่ลำบากมาเพื่อเรา กล่าวเช่นนี้แล้วอย่าพึงสัปดนคิดว่า เราคือบรรพบุรุษเอง

☻ (ถาม - ..............)
☺กล่าวในใจหรือ ? ข้าก็จะตอบในใจ
• อำลานะ
☻ (ถาม – ท่านไม่บอกชื่อ ?)
☺ข้าบอกในใจ

หมายเหตุของผู้บันทึก :
ความจริงจะทรงกล่าวเป็นภาษาปัจจุบันก็คงจะได้เห็นได้ชัดว่า แกล้งตรัสเป็นภาษาโบราณ สังเกตได้จากพระอารมณ์ขัน



121
คำเทศน์ของ พระเจ้าลิไท


2 พฤษภาคม 2517

☻ (ถาม – ไตรภูมิ แต่ในสมัยท่าน ?)
☺ ใช่
☻ (ถาม – ท่านแต่งเอง ?)
☺ ไม่

☻ (ถาม – ใครแต่ง ?)
☺ เทพบอก
☻ (ถาม – โดยวิธีดลใจ ?)
☺ ฝัน
☻ (ถาม – ฝันทุกวัน ?)
☺ ไม่ ฉันก็มีวิชา
• ลูกฉันอยู่นั่นไง รู้แล้วเป็นไง อย่าคิดว่าเป็นลูกเจ้าคนนายคนนะ เราก็คนธรรมดาเช่นกัน

☻ (ถาม – หมายความว่าเคยเป็น พระเจ้าลิไท ?)
☺ ไม่ เป็นคนที่ 2 ออกบวช ตามธรรมดาเมื่อลูกชายคนโตครองเมือง ลูกชายคนรองต้องออกบวช
☻ (ถาม – บวชตลอดอายุขัย ?)
☺ ใช่
☻ (ถาม – ท่านเป็นพรหม ?)
☺ ชั้น 10

☻ (ถาม – พระแก้วมรกต เดิมอยู่ที่ลาว ?)
☺ เชียงแสน ที่ไหนก็อยู่ อยู่ที่บารมีกษัตราธิราช
☻ (ถาม – พระแก้วมรกต สร้างที่ไหน ?)
☺ ทางเหนือของชมพูทวีป
☻ (ถาม – พระเจ้ามิลินท์สร้าง ?)
☺ ไม่ใช่ เทพ ท่านวิษณุกรรม มาในรูปเถระ
☻ (ถาม – พระพุทธชินราช ก็ท่านวิษณุ ?)
☺ ใช่

หมายเหตุ :- ถามว่าเขียนไตรภูมิเองหรือ คงจะเลี่ยงไม่อยากตอบ เกรงจะเป็นการอวด ตอบว่าฝัน แต่การเป็นพรหมชั้น 10 แสดงว่าท่านได้ฌาน 4 ศัพท์ของท่านที่ถอดจิตหรือใช้มโนมยิทธิไปดูที่โน่นที่นี่ ท่านมักจะเลี่ยงไปใช้คำว่า “ฝันไป” สรุปแล้ว ท่านคงไปดูมาเองแล้วจึงเขียนไตรภูมิ)

26 กันยายน 2519

กับเด็กหนุ่ม
☺ เจ้าจะให้สัจจะกับพ่อได้ไหม ?
1. สุขุมรอบคอบ พิจารณาเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ทิฐิมานะ
2. พยายามรักษาสามัคคีในกลุ่ม อย่าทำให้แตกกันเพราะปากเรา คือพูดก่อนคิดไม่ได้ ต้องคิดก่อนพูด
3. มีสติ คือความรู้ตัว สัมปชัญญะ คือความสำนึกตัวให้มากๆ
4. อย่าใช้อำนาจในทางข่มขู่

พ่อขอสอนว่า ขณะนี้และต่อไป เราไม่ใช่คนของกลุ่มย่อยๆ แล้ว เรามีสังคมที่ใหญ่ขึ้น มีหน้าที่ที่มากขึ้น มีภาระ อย่าทำอะไรโดยใช้อารมณ์โดยเด็ดขาดนะ
ข้อ 1 น่ะ สำคัญนะ เราจะไปทำงานเป็นหมู่คณะ อย่างสร้างศัตรู สามัคคีไว้ อะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด อย่างเช่นเรื่องชาวบ้านที่ไม่ดี ก็อย่างเอามาเป็นสาระ
เรื่องไม่ดีของคนอื่น รู้ไว้ก็ทิ้งไป อย่าเก็บเอามาสร้างศัตรู

◄ll กลับสู่สารบัญ


122
คำเทศน์ของ พระนางนพมาศ


30 สิงหาคม 2517

(ขอประทานพร)
☺ พรเธอมีแล้ว ที่พึ่งอันมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสังฆคุณ
☻ (ถาม – มีอะไรจะทำถวายท่านได้บ้าง ?)
☺ “นพมาศ”

☻ (ถาม – ตำนานว่า ท่านเป็นผู้คิดลอยกระทง ถูกใช่ไหม ?)
☺ ถูก
☻ (ถาม – ขอประทานอภัย ท่านอยู่ชั้นไหน ?)
☺ พรหม

☻ (ถาม – สมัยพระเจ้าลิไท คงจะสอนกรรมฐานกันมาก ?)
☺ มากหลาย
☻ (ถาม – ท่านอยู่ชั้นไหน ?)
☺ 15

☻ (ถาม – พรหมธาดาหมายความอย่างไร ?)
☺ พรหมชั้นหนึ่งมีชื่ออย่างนี้ คือชั้น 10
☻ (ถาม – เด็กๆ ที่เป็นลูกหลานท่าน คงจะมีในที่นี้ ?)
☺ มี

☻ (ถาม – มีอะไรจะสั่งผ่านพวกเราหรือไม่ ?)
☺ จิตคุมกาย ไม่ใช่กายคุมจิต ให้รู้ว่าจิตคืออะไร กายคืออะไร ธาตุประกอบคืออะไร
☻ (ถาม – ธาตุประกอบของจิต คืออะไร ?)
☺ สติ สัมปชัญญะ ปัญญา สมาธิ

☻ (ถาม – ท่านลิไท ท่านเสด็จอยู่ไหน ?)
☺ บน อยู่พระจุฬามุนี (อาจหมายถึงขณะที่ถาม)
☻ (ถาม – มนุษย์ตายในฌานน่าจะอยู่ที่อื่นไม่ได้นอกจากพรหม ?)
☺ ใช่ นอกจากพุทธภูมิ

22 กันยายน 2518

กับลูก
☺ว่าไงจ๊ะ หายไปนาน
☺อันอารมณ์นั้น ต้องขอให้ยกลงไว้ข้างล่างจิตตน เมื่อเธอทำได้ เธอก็จะพ้นซึ่งความไม่สบายใจทั้งปวง ไม่ยากเลย บังคับอะไรบังคับได้ จิตของตัวเราเองก็ต้องทำได้ เช่นกัน คิดอะไรอย่าตีความเกินเหตุ ถ้าเหตุนั้นไกลเกินการ

☺จังหวะของจิต ต้องแบ่งทำเป็นขั้นเป็นตอน ดูว่าเรื่องไหนสำคัญก่อนหลัง ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ยังไม่เสร็จก็จับเรื่องโน้น จังหวะนี้ อารมณ์จะเข้ามาคุมตัวเราทันที เราต้องแข็งแกร่งในสติตน ข่มอารมณ์เบื้องต่ำไว้ แล้วความคิดเราจะไม่สับสน สติก็จะเกิด ปัญญาก็จะมี เหตุผลรู้ดีรู้ชั่ว ถูกไม่ถูก จิตก็รู้ชัดขึ้น แล้วเราจะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงด้วยใบหน้าที่สดใส

☺ยังข้องด้วยสิ่งใดรึ ? ค่อยๆ คลำ ค่อยไป ทีละตอนนะ
• อารมณ์ชั่ววูบ ทำให้คนผิดมามากต่อมากแล้ว อย่าไปคิดถึงมัน แก้ดีกว่า จะต้องมีจิตใจที่ยอมนะ ในความผิดพลาดต่างๆ และความรู้ตนจะเกิดขึ้น ทุกคนน่ะมีผิดด้วยกันทั้งนั้น ผู้ที่ไม่เคยผิด คือผู้ที่ไม่ได้กอปรการ


☻ (ถาม – เวลาไม่ได้โกรธ ใครๆ หาว่าโกรธ)
☺ ทำไมต้องทำ (เป็นโกรธ) สวยดีหรือ เป็นลักษณะดีหรือ ทุกคนจะอยู่กันด้วยความสุขสงบได้ก็ต้องอาศัยไมตรี
☻ (ตอบ – เป็นเฉพาะบางคนเท่านั้น)
☺ โมหะ โทสะ ในพระธรรมท่านยกเว้นทำไมล่ะ ถ้าดี ท่านไม่ยกเว้น
• เอาเถอะ เชื่อแม่ แม่ก็สอนเพื่อให้ดี แต่จะดีได้ก็ขึ้นอยู่กับปฏิบัติ แม่ก็มีแต่ความหวัง ส่วนอนาคตเป็นของเธอผู้เลือกเดิน

☻ (ถาม – ถ้าไม่ทำเขาก็ไม่รู้ตัว)
☺ ผ้าขาดเป็นรูอย่าฉีกให้มันใช้การไม่ได้
☻ (ตอบ – ผมพูดมาหลายหน)
☺ ฉันก็ฟังหลาย จำไว้นะ ของทุกอย่างยังมีจังหวะอยู่ในตัว มีเวลาของมันเอง เอาน่า อย่ากังวลเกินเหตุ เราทำได้แค่ไหนก็ถือว่าอนุเคราะห์ได้เท่านั้น ถ้ามัวแต่หนักใจก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากตัวเราที่จะโทรม
• นักวิ่งแข่งทำเวลาที่ตัวทำได้ดีที่สุดเท่าไร จะให้มันดีกว่านั้น มันยาก จะไม่เล่นก็ไม่ได้

11 มิถุนายน 2518

กับลูก
☺ ทำงานก็อย่าคิดเพ้อ คิดมากก็อย่าคิดเพ้อ คิดรู้ก็พอตัว คิดเพ้อคือเหลือคิด
☻ (ตอบคำถาม)
☺ พระอรหันต์ ใครทำท่านก็มีผลอบายภูมิเป็นที่อยู่

◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 29/7/11 at 12:46 [ QUOTE ]


123
คำเทศน์ของ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง


30 กรกฎาคม 2518

สอนชายคนหนึ่งที่เป็นลูกหลาน
☺ การทำตัวให้อยู่ในหน้าที่ ความจริงก็รู้กันอยู่ ระเบียบวินัย ตรงต่องาน และที่สำคัญคือความรักอันแน่นแฟ้นต่อชาติ ศาสนา และองค์รวมใจของชาติ

☺ ชาติอยู่ได้ เพราะกำลังใจคนในชาติ คนในชาติอยู่ได้เพราะความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือรักของสิ่งเดียวกัน ยึดมั่นในสิ่งเดียวกัน คือศาสนาและประมุข
• อิทธิพล คือคนในชาติ ไม่ใช่ประมุข จริงไหม ?
• คนจะดีที่สุดได้ ต้องเป็นผู้ผ่านงานมาก ผู้ที่ผ่านงานมามาก คือผู้ที่เจออุปสรรคมามาก ชาติก็เช่นเดียวกัน คนที่ดำรงความเป็นหนึ่งได้ คือกลุ่มบุคคล กลุ่มบุคคลจะเป็นกลุ่มได้ก็เพราะคนที่เป็นมนุษย์

☺ คนปัจจุบันไม่รู้แน่ว่าตัวทำงานนั้นทำเพื่อใคร เพื่ออะไร ความรักชาติ ศาสนา ประมุขนั้น เป็นฉันใด ไม่รู้ว่าชาติให้อะไรกับตน ศาสนาให้อะไร กษัตริย์ให้อะไร ถ้าไม่ให้ก็เลยไม่ทำ ทำเฉพาะคนให้



124
คำเทศน์ของ กรมพระราชวังบวร (สมัยอยุธยา)


24 เมษายน 2517

สอนเด็กหนุ่ม
☺เราอย่าหวั่นไหวต่อเสียงต่างๆ (เรื่องเกี่ยวกับการประทับทรงและการทรงกระดาน) คิดว่ามันเป็นบุญ ได้ฟังเขาพูดแล้วก็ผ่านไป รักทำดีไว้เถิด ที่พอชมนั้นก็พูดจริงๆ แต่อย่าเหลิง บางทีก็ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครรู้ เราก็ปิดทองหลังพระไปเถิด
• ทุกคนก็เช่นกัน ฟังไว้ ฉันไม่ได้มาสอนเฉพาะ ใครฟังมากก็ได้มาก

กับอีกคนหนึ่ง
☺ เราบางทีก็อ่อน ใครว่าอะไรก็ตาม จิตเราต้องเป็นใหญ่ ไม่ใช่ให้กายเป็น
• รู้จักคำว่า “ยับยั้ง” ไหม คำสั้นๆ แต่ความหมายมันยาว เราน่ะรักรักพ่อรักแม่ในส่วนลึก แต่กายไม่แสดงว่ารักเสียเลย บางทีก็อยากคุยอยากช่วย ใช่ไหม แต่กายมันอยากออกจากบ้านไปสนุก นี่ก็เพราะให้กายเป็นใหญ่ ทำอะไรก็ไม่มีเหตุผล


☺ เรานะ ทำสิ่งใดก็ให้คิดหน้าคิดหลัง อย่าทำพอสนุกชั่วครู่ ม่ายงั้นเดี๋ยวจะนั่งเศร้า
• ค่อยเป็นค่อยไปนะลูก ถ้ารักพ่อก็ขอให้ฟังคำพ่อ
• จะบอกไว้อย่างว่า ถ้าลูกไม่ถอนออกจากทางนี้ ลูกจะเจริญ หมายถึงเจริญกว่าที่จะเป็น เพราะจะมีบารมีสร้างสมให้กับตัวเองมากขึ้น



125
คำเทศน์ของ ท่านบุเรงนอง

ท่านบุเรงนองนี้ ทราบว่าเป็นเทพที่ทรงฤทธิ์มากองค์หนึ่ง

25 พฤศจิกายน 2517

☺ เจริญสุข ท่านผู้เจริญด้วยคุณธรรม
☻ (ถาม – ตอนนี้ท่านประทับอยู่ที่ไหน ?)
☺ จาตุมหาราช

สอนเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เคยเป็นลูก
☺ ทำตัวให้สมกับที่มีเลือดขัตติยะ ถึงอย่างไร ก็มีเชื้อชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็คือเชื้อแถวแห่งนักรบ ชายชาติทหาร มีความเป็นบุรุษเต็มตัว อย่าทำอะไรไร้ความคิด ไม่มีเหตุผล เยี่ยงผู้อ่อนแอ
• ถึงอย่างไร องค์ดำ ข้าก็รักเยี่ยงลูก เสมอด้วยชีวิตข้า


(ตอบคำถาม)
☺ ข้านี่แหละ รามัญเต็มตัว (ที่เรียกว่ามอญ คือพม่าที่เป็นลูกรามัญ)
☻ (ถาม – มณีอิน มณีจัน เป็นชายาพระนเรศวรจริงหรือ ?)
☺ มี
☻ (ถาม – มีลูกหรือไม่ ?)
☺ มี ครองอยู่เวียงเหนือ

☻ (ถาม – มีอะไรจะสอนเป็นพิเศษหรือ ?)
☺ ให้ถือเรื่องศาสนาเป็นหลักใหญ่ ไม่ว่าทุกชาติ ทุกภาษา
ฉันรู้หัวอกของคนที่ต้องเสีย และยิ่งเสียเมื่อโดนตีเมืองคืน มันเป็นกรรมที่ถ่ายทอดมาถึงลูก ฉะนั้น จงจำไว้ว่า ถ้าจะทำอะไร จงคิดถึงลูก กรรมมันจะตามสนองหมด เพราะว่าเราเป็นตัวก่อ ฉันรู้ว่าฉันทำกรรมไว้ให้คนหลายคน นับแสน

☺ สิ่งที่พ่อและแม่อยากได้ คือความดีของลูก
ขออนุโมทนาทุกๆ คน และฉันกับบริวารขอให้บุญกุศลที่อุทิศมานี้ จงสนองพวกท่านทุกคน
☻ (ถาม – ท่านเคยมีชื่อว่าจะเด็ดหรือ ?)
☺ ไม่



126
คำเทศน์ของ พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวร


16 มิถุนายน 2517

☺ เวลาเชิญใคร หรือทำพิธีอะไร ให้นะโม 3 จบ แล้วขอด้วยว่า “ข้าพระพุทธเจ้า ขอทำการสักการะต่อองค์พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยบารมีอิทธิฤทธิ์ ขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทานด้วยความเป็นจริงทุกประการ และขอบารมีองค์ท้าวจาตุมหาราชทั้งสี่ ทรงโปรดดูแลด้วย”

☺ ฉันอยากให้พวกเธอทั้งหลายกระทำการสิ่งใด ก็ทำด้วยความเคารพ แม้ว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งมองไม่เห็น ด้วยตาเนื้อก็จริง แต่เธอก็มีจิตเคารพเชื่อมั่นอยู่ จงแสดงทั้งกาย วาจา ใจ

◄ll กลับสู่สารบัญ


127
คำเทศน์ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


5 มีนาคม 2517

สอนเด็ก
☺ ข้าอยากสอนลูกหลานเพียงอย่างเดียวว่า ให้เป็นคนเด็ดขาด
☺ ฉันอยากให้เราเป็นคนมีวินัย มีระเบียบ เลิกเสียที ไอ้การอีเหละเขะขะของเรา อย่าลืมนะ จะรับใช้ชาติต่อไป


15 กุมภาพันธ์ 2518

☺ คนภักดี คือผู้ที่ไม่ยุ ไม่พูดอันสิ่งที่ส่อให้เห็นถึงการประจบสอพลอ
คนที่ยุ กล่าววาจาทำให้ความศรัทธาเอนเอียงนั้น เป็นคนที่ทำร้าย

• บอกแก่...............ด้วยว่า ชนคนไทยที่นับถือในความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา แต่ละประมุขนั้นมีคณานับไม่ได้ อย่าหวั่นไหวโดยเหตุผลของคนบางกลุ่ม จงมั่นใจเถอะว่าเลือดไทยของปวงชนนั้นยังจงรัก และเทิดทูนอยู่เป็นแม่นมั่น และพร้อมเสมอที่จะดำรงหาคุณสู่ชาติ

• บอกว่า ถึงอย่างไร สยามเทวาธิราชพร้อมด้วยบรมกษัตริย์ของสยามประเทศ ได้ทรงปกป้องประเทศ คนดีทั้งปวง และราชวงศ์
• พ่อน่ะ อยู่ใกล้ๆ ลูก “นเรศวร”


16 กรกฎาคม 2518

สอนนายทหารผู้ทำหน้าที่ครูสอนวิชาป้องกันตัว
☺ เป็นครูเรา ก็สอนในทางที่ถูกที่ควร ให้ทหารเรามีแก่ใจในการทำงานเพื่อชาติและเป็นธรรม ต้องมีขันติมานะ อดทนต่อความชั่ว ซึ่งนำมาให้เสียระเบียบวินัย ขอบังคับที่เป็นกฎสร้างความสามัคคีให้เกิดแก่คนระดับบริหารตลอดจนรั้วของชาติ ผู้ซึ่งอุทิศร่างและจิตใจให้แก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตราธิราชเป็นสำคัญ ความสามัคคีของชนหมู่เล็กนี้ จะนำไปสู่ความสามัคคีในชนหมู่ใหญ่ เป็นลำดับ ฉะนั้น เราจะทำกิจการใดๆ ซึ่งเกี่ยวกับคนหมู่ใหญ่ จะต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกแถว

• ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา ผู้น้อยย่อมนำแบบอย่างตามซึ่งกันและกันตามลำดับ ฉะนั้น เอ็งจงจำไว้เถอะว่าเราเป็นบุคคลของใคร ทำงานเพื่ออะไร
• “อะไร” นั้นเป็นยังไง แล้วคำว่า “ใคร” เป็นอะไรตรองดูให้รู้แน่

ทำเทียนประทาน
☺ เทียนนี้ จุดบูชาที่ฝึกสอนตรงที่อันสมควร เวลาบูชากล่าวว่า “ขอให้ทหารทุกนาย จงเป็นผู้ที่ประพฤติดี ประพฤติชอบด้วยสัมมาทิฐิต่อ 3 สถาบัน”
ปัจจุบันนี้คนทั้งหลาย ทหารทั้งปวง ไม่รู้ความสำคัญว่าตนทำงานเพื่ออะไร เพื่อใคร
ภัยจะมีไม่นานนี้ ให้รวมๆ รักๆ กันให้มั่น


12 พฤษภาคม 2519

☺ ข้าผ่านมา มีอะไรบ้างไหม ?
☺ ถ้าหากบ้านเรา มีผู้ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยแล้ว เขาและเราทั้งชาติก็จะดำรงเอกราชและสงบอยู่ได้
☺ คนที่เสียสละ มีไม่มากก็ขอให้มีเถอะ


☺ เรารักชาติ เรารักศาสนา เรารักกษัตริย์ เรารักความอิสระ เรารักสมบัติของเราที่มีอยู่ ไม่อยากให้คนอื่นแย่งไป แต่ทำไมทุกคนมีแต่คำว่า “รัก” เก็บไว้ในหัวใจ ไม่มีใครต่อต้านหรือขัดขวางภัยที่จะทำลายความรักของเราให้สลายไป ?
• แต่ถึงอย่างไรก็ดี คนที่คิดว่ายังรักในสิ่งนี้อยู่ที่ยังดี ที่สามัคคี




128
คำเทศน์ของ สมเด็จพระเอกาทศรถ


5 ธันวาคม 2517

☺ ฉัน พุทธภูมิ สมเด็จแม่ข้าคือ ...................



129
คำเทศน์ของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช


28 เมษายน 2517

(ขอทราบพระนาม)
☺ นามฉันน่ะหรือ ถามรู้ไปทำไม ท่านองค์ไหนบอกก็แล้วไป แต่ถ้าไม่บอกก็อย่าถาม เขาถือว่าดูหมิ่นว่าเหตุไหน ใหญ่มาจากไหน ถึงได้มาถามง่ายๆ ดังเช่นเราเป็นเด็ก
เมื่อเราเจอผู้ใหญ่ จะเข้าไปถามชื่อเขาเฉยๆ น่ะ ควรหรือ ?


☻ (ตอบ – เหตุที่ถาม เพื่อจะใช้สรรพนามให้ถูก เกรงว่าใช้ไม่ถูกแล้วจะเป็นการล่วงเกิน)
☺ พูดให้ฟัง ฉันน่ะหรือ “นารายณ์มหาราช”



130
คำเทศน์ของ ท่านกฤษฎา

(องค์นี้ ไม่ทราบว่าเป็นท่านผู้ใด)

8 ตุลาคม 2519

☺ อยู่เป็นสุข
• คำว่า “ไทย” ไม่มีแพ้ และไม่ถอย
• ทุกคน จงมั่นใจว่า เราต้องชนะแน่ รักษาเอกราชของเราไว้ได้ อย่าไปกลัวมัน !

◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 4/8/11 at 13:49 [ QUOTE ]




131
คำเทศน์ของ ท่านพันท้ายนรสิงห์


9 กุมภาพันธ์ 2518

ประทับทรง
☺ ไอ้..........นี่มันเลวจนไม่รู้จะด่ายังไงได้จบสิ้น ไอ้ที่ดีมันก็มี แต่ไม่รู้มันไปอยู่ไหน ตราหน้าหมวกน่ะ ตรา.......ตรา.......แล้วแต่สูงศักดิ์ทั้งนั้น สมควรหรือที่จะมาทำป่นปี้ แถมข้างบนเขียนว่า........ใช่ไหม วิจารณ์ซิมันเละเทะไหม ............. ปัจจุบันมันบ้าๆ ก็รู้อยู่ ไอ้พวกเรามันก็ยังเด็ก ก็ยังดีที่มี 2 คนรักเครื่องแบบ รักเกียรติ รักวินัย

• เป็นยังไงฉันเห็น จริงอยู่ เงินเดือนไม่พอ แต่ความเป็นลูกผู้ชาย ลูกผู้หญิงยังสูงกว่า นี่มีแต่ความเป็นลูกสัตว์เดียรัจฉาน อัปยศอดสู เมื่อไรมันจะสูญสิ้น ตอบได้ไหม ?

☺ จรรยามนุษย์ ถ้ากูอยู่เป็นอธิบดีนะ กูจะตัดหัวเอาเลือกมาล้างเท้าให้ดู จำไว้นะกูเอาตาย กูเอาตายจริงๆ นะ ไอ้พวกคนแล้วทำตัวเป็นสัตว์ จะบอกให้นะ คนใดก็ตามนะ ขืนประพฤติเช่นนี้นะ กูเอาจริงๆ นะ ตายเยี่ยงหมาขี้เรื้อนกลางถนน ไม่ใช่หมากลางถนนธรรมดา กูจะบอกชื่อให้ เดี๋ยวจะว่ากูไม่เอาจริง

☻ (ถาม – แล้วไม่บาปหรือครับ ?)
☺ กูยอมตกนรก มา เข้ามาใกล้ๆ เราลูกไทย เลือดไทยอันเข้มข้นฉีดพล่านอยู่ในตัว เรามีผู้ที่มีบุญญาธิการอันสูงส่งปกครองอยู่ในพระศาสนาที่ประเสริฐที่สุดแล้ว ศีลธรรมประจำใจเราก็ดี ได้รับการศึกษาที่ดี

• มา ขอให้เลือดไทยวิญญาณไทยในตัวเราจงตื่นขึ้น เพื่อปกครองรักษาชาติของเรา
• จำไว้ ถ้าประเทศของเราตกเป็นขี้ข้าของชาติอื่น ความอัปยศอดสูจะตกมาถึงกู

“นรสิงห์”



132
คำเทศน์ของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


25 พฤศจิกายน 2517

ทรงตอบคำถามรายละเอียดทางประวัติศาสตร์
☻ (ถาม – สุกี้นายกองเป็นพม่าหรือ ?)
☺ รามัญ

☻ (ถาม – สถานที่ซึ่งสมเด็จพระศรีสุริโยทัยขาดคอช้าง ?)
☺ ขึ้นเหนือจากภูเขาทองไปอีกประมาณ 6 เส้น
☻ (ถาม – ช้างทรงเวลายุทธหัตถีมีฉัตรกี่ชั้น ?)
☺ เวลารบ ฉัตร 7 ชั้น ถ้าเป็นช้างทรงของพระเจ้าแผ่นดินที่มีบุญญาธิการมาก ก็ใช้ฉัตร 9 ชั้น ตอนยุทธหัตถี ทรงเป็นลูกหลวงอยู่ ฉัตร 7 ขั้น (ฉัตรขาว ขลิบทอง)

☻ (ถาม – จุดยุทธหัตถีอยู่ตรงไหน ?)
☺ เลยไปอีก ที่นั่นก็ใช่ แต่คนละวาระ จุดจริงอยู่ท่าม่วง
ดูแนวการยกทัพพระนเรศวร เริ่มการรบแบบห่างจากกลุ่ม ทรงเริ่มการรบแบบใหม่มากนะ เช่นการตั้งกองตระเวนสอดแนม การตั้งรบแบบกองโจร การตั้งรบแบบตีโอบ การใช้กองทัพม้า
☻ (ถาม – ช้างศึก ต้องใส่เกือกหนังด้วยใช่ไหม ?)
☺ ใช่

☻ (ถาม – มีหลักฐานอะไรเก่าๆ อ้างอิงประวัติศาสตร์บ้าง ?)
☺ ดาบน่ะ อยู่ใน...........มีเอกสารบางชิ้นเกี่ยวกับการสร้างเมือง รวมทั้งสัญญาสำเภาที่สำคัญคือ รูปจำลองเรือสำเภาของพระเจ้ากรุงจีน มีสลักเรื่อง......... ไว้ ต้องเก็บ ม้ายงั้นความแตก เจ้าสรรตัวดี
ยังมีอะไรๆ อีกมากนะ สำหรับในหลวงองค์อื่นๆ ที่พวกเราไม่รู้

◄ll กลับสู่สารบัญ


133
คำเทศน์ของ พระยาพิชัยดาบหัก


6 กันยายน 2518

☺ เอ็งหาดาบข้าได้ไหม ?
☻ (ตอบ – ได้, รับอาสา)
☺ ขุดที่เมืองระจัน

☻ (ถาม – บางระจันหรือ ?)
☺ เมืองระจัน เมื่อไม่นานมีคนขุดเอาท่อนหัวไป
☻ (ถาม – ท่านประสงค์จะให้ขุด ?)
☺ ใช่ ใกล้สองแคว

☻ (ถาม – มีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?)
☺ วังทอง ติดบางกระทุ่ม
☻ (ถาม – ด้านอยู่ไหน ?)
☺ บางกระทุ่ม
☻ (ถาม – มีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?)
☺ อย่าเลย ลำบากเปล่า ท่านห้าม ขอบใจ ลา



134
คำเทศน์ของ พระบรมราโชวาท ร.1


29 กันยายน 2518

☺ จะขอให้ลูกหลานไทยทั้งหลาย จงตั้งจิตมั่น แผ่อุทิศบุญบารมีส่วนกุศลให้แก่พี่น้อง บิดา มารดา บุพการีทั้งปวง และอุทิศให้แก่อริราชศัตรูในวันพิธีกฐิน ขอขอบใจทุกคน
(หมายเหตุ :- การอุทิศให้ศัตรู มีผลให้ศัตรูแพ้ภัยตนเอง)


ทรงตอบคำถาม
☺ ขึ้นชื่อว่า กษัตริย์ หาความสบายไม่ได้
• อย่าวิตกกังวลไปมาก ชาติเราไม่ถึงกับอดตาย เป็นไปตามวาระ

23 กุมภาพันธ์ 2518

☺ คนเรา จะทำอะไรต้องมีจิตใจที่แน่วแน่ พร้อมทั้งเหตุผล และความคิดที่ต้องประสงค์ต่อชนส่วนใหญ่ที่แจ้งด้วยปัญญา

☺ การงานของประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับคนเป็นร้อย แต่เป็นล้าน เพราะฉะนั้น เราจะทำอะไร ก็ต้องใช้ความคิดที่มีสติและปัญญาไตร่ตรองเพื่อคนทั้งปวง อย่าได้ใช้อารมณ์แห่งความพึงพอใจของตนเป็นหลัก ประเทศนั้นใครๆ ก็อยากทะนุบำรุงให้รุ่งเรือง แต่ต้องทำนุจิตใจตัวเองก่อน

• บัดนี้ ปรากฏว่าคนที่ไม่มีเลือดแห่งความเป็นไทย เลือดแห่งอิสรภาพกำลังจะมีเสียงในคนหมู่มาก ฉันรู้สึกเสียใจและเศร้าใจที่ทั้งปวงของคนกลุ่มทำลายชาติ ศาสนา และบรรพบุรุษ กำลังจะอกตัญญู
• บรรพบุรุษทั้งหลายที่เป็น เด็ก หญิง พระ และชายที่สละเลือดเนื้อชีวิต ความสุขให้แก่ชาติและบ้านเกิดเพื่อคนรุ่นหลังนี้ ท่านทั้งหลายเป็นผู้ตายเปล่ารึ ?
• ฉันเศร้าใจมาก


17 มิถุนายน 2517

ประทับทรง
☺ การรับใช้ประเทศชาตินะ เป็นคุณอเนกอนันต์ (แก่) แผ่นดิน เหมือนแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่อาศัยเกิด
☺ การรับใช้ประเทศชาติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกผู้ชาย พระศาสนา พวกเธอทั้งหลายจงพยุงกันให้ถาวรมั่นคง อย่าให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามพระศาสนา ชาติ และองค์ประมุขของพวกเธอ

• ฉันไม่ได้หมายความว่าจะยกย่องวงศ์จักรีให้เป็นจ้าว เป็นนาย เป็นเทวดา แต่ฉันหมายความว่าให้มีสิ่งผูก จูงใจแก่ชาติ คนทั้งปวงให้มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ให้มีความรักว่าเรามีน้ำใจเป็นสยามประเทศ เราเป็นไทยไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร อย่าให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามประเทศของเรา ฝืนแผ่นดินของเรา รักษาให้มั่นคง อย่าให้มีเสนียดจัญไรมากล้ำกลายเลย บุคคลใดที่อ้างตัวว่าเป็นไทย แต่ทำตัวไม่สมนั้น เป็นคนที่ทรามยิ่ง

• พวกเธอทั้งหลาย ก็คงได้รู้ได้เห็นประจักษ์สิ่งต่างๆ มาพอแล้ว ยุคแห่งองค์ที่ 10 นั้น เป็นยุคที่พวกเธอทั้งหลายจะต้องทะนุบำรุงบ้านเมือง จงตั้งมั่นในความดี มีคุณธรรม มีความสุจริต การเป็นผู้นำที่ดี เราต้องเป็นคนที่ดีก่อน ต้องทำในสิ่งที่ถูกที่ควรก่อน ถึงจะเป็นผู้นำคนทั้งปวงได้

• ท่านผู้ใหญ่ก็เหมือนกัน ขอขอบใจในสิ่งที่ท่านได้ทำมา ท่านเป็นผู้ใหญ่ เป็นแบบพิมพ์ของคนรุ่นหลัง ขอได้ทำในสิ่งที่เป็นแม่พิมพ์ที่สวยสดงดงามเถิด การใดๆ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ไม่ต้องเป็นห่วงบ้านเมือง จะเกิดยุค แต่ยังไม่ถึงกลียุคเข็ญหรอก เกิดไปตามกาลเวลาของทุกอย่าง ถ้าเลือกนายมาก มันก็ได้สิ่งที่ไม่ต้องการนักหรอก

• พวกเธอทั้งหลาย จงจำไว้ แผ่นดินนี้ได้มาด้วยหยาดเหงื่อ แรงงาน น้ำตา เลือดเนื้อของบรรพบุรุษของเราพวกเธอทั้งปวง ผืนแผ่นดินนี้ ไม่ได้เป็นของคนใดคนหนึ่ง เป็นของพวกเธอทุกกระเบียดนิ้ว ทุกผงธุลี ทำอะไรจงนึกถึงบรรพบุรุษที่ท่านได้สละเลือดเนื้อ หยาดเหงื่อ หยาดแรง น้ำตา ความทุกข์ ความลำเค็ญ ความลำบากให้แก่พวกเธอได้มีความสุขสบาย ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นแล

• ไอ้เด็กสมัยนี้ มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง มันไม่รู้จัก งานคืออะไร เด็กคืออะไร ผู้ใหญ่คืออะไร การเรียนเป็นอย่างไร การงานเป็นอย่างไร มันไม่รู้จัก ทำอะไรพอได้มาก็เห่อเหิมทะเยอทะยานเหมือนกิ้งก่าได้ทอง มีความรู้จริง มีความสามารถจริง แต่ใช้ในทางไม่ถูกไม่ควร แต่ในหลวงพระองค์นี้ท่านมีบารมีพระโพธิญาณมากหลาย ไม่งั้นคงไม่รวมกันได้อย่างนี้หรอก อย่าเห็นว่าท่านเป็นอ่อนแอเลย ท่านนั้นแหละเป็นคนที่มีบุญญาธิการมากองค์หนึ่ง

• ยุคใหม่ จะมีการปกครองแบบใหม่ ไม่ใช่แบบนี้และแบบเก่า ทวยราษฎร์มีความสุขดี เราเข้าไปทางไหน ยุคไหนเลือกกันไปเลือกกันมามันก็เบื่อ มันก็เอือม ก็ต้องไปอยู่ยุคที่ครึ่งๆ กลางๆ

☺ อันคนทั้งหลายนั้น ถ้าจะปล่อยให้เป็นอิสระมากนัก ปกครองอย่างเพื่อนกัน เพื่อนฉันเห็นทีมันจะลามปามนัก มันไม่รู้จักคำว่าเพื่อนกับเพื่อน มันไม่รู้จักคำว่าหน้าที อ้อ! เขาน่ะมีหน้าที่อย่างนั้นนะ เราน่ะ มีหน้าที่ทำอย่างนี้ พอเห็นเขาใหญ่เขาโตหน่อย เรามีหน้าที่อย่างนี้ดันไปเบ่งเท่ากับเขา ไอ้คนนี้ เคยต่อยเตะกันมา เคยเล่นหัวกัน ปกครองอย่างเพื่อนกับเพื่อนน่ะ มันไม่ได้หรอก มันต้องปกครองอย่างพ่อกับลูก หรือผู้บังคับบัญชากับลูกน้อง เอาละๆ ขอให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข


6 เมษายน 2521

“ด้วง”

☺ ในนามที่ฉันเป็นผู้สถาปนาวงศ์จักรีนี้ ฉันขออวยพรให้เธอผู้จงรักและภักดีต่อบ้านเมืองเป็นสุขสโมสรโดยทั่วหน้ากันทุกคน
☺ ในรัชกาลปัจจุบัน จะเป็นไทแก่ตัวเอง ความสุขสงบจะมีมาในเร็ววัน


◄ll กลับสู่สารบัญ


135
คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาท ร.2


1 กันยายน 2517

“เลิศหล้านภาลัย”
☺ เรื่องบ้านเมืองไม่ต้องกังวล ไฟไหม้ก็ให้ไหม้ไป
☻ (ถาม – พวกเราจะเดือนร้อน ?)
☺ คนชั่วก็ตายไป

☺ อยากรู้ไหม นโปเลียนมาเกิดเป็นใคร ?
☻ (ทูลรับ)
☺ อู่ถั่น
☻ (ทูลถามถึงสมเด็จพระนเรศวร)
☺ องค์นเรศวรท่านยืนกระหยิ่มอยู่ ท่านบอก ต้องว่าไว้ว่า ชาติๆๆ สละๆๆ คนลืมตัวเหมือนวัวลืมตีน

14 เมษายน 2527

☺ ว่ามา
☻ (ถาม – คนมีสามี จะบำเพ็ญเนกขัมมะได้ไหม ?)
☺ จริยาทุกอย่างต้องใช้สติสำรวม เนกขัมมะต้องอดทน ใช้ความพยายามเป็นบารมีอยู่ในบารมี 10

☻ (ถาม – อพรหมจริยา กับเนกขัมมะ อันเดียวกันหรือ ?)
☺ ใช่ร่วมกัน แต่บำเพ็ญคนละอย่าง อพรหมจริยา หลักทางจริยา กาย วาจา ใจ เนกขัมมะ หนักทางอดกลั้น พยายาม
☻ (ถาม – คนมีสามี ภรรยา จะบำเพ็ญเนกขัมมะได้ไหม ?)
☺ ทำไมจะไม่ได้

เสด็จในกรมฯ เสด็จตอนนี้
☻ (ถาม – เมื่อกี้นี้ใคร ?)
☺ เวลากูมาทำอ้อน เวลากูไม่มาทำเก่ง มีตาดู (เอา) เอง (ซิ) เวลากูไม่อยู่รู้ได้ยังไงวะ บรรพบุรุษกู ท่านทวด (ร.2)

◄ll กลับสู่สารบัญ


136
คำเทศน์ของ “สมเด็จพระศรีสวรินทรามาตย์


6 กันยายน 2518

☺..............เห็นจะเป็นระยะเวลานานสำหรับเธอ แต่จะเป็นระยะเวลาสั้นสำหรับฉัน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นฉันใดก็ตาม ฉันจะลงมาช่วยบรรเทาทุกข์
• ขอขอบใจทุกท่านที่เป็นสื่อให้ติดต่อ

29 กันยายน 2518

“ศรีสวรินทรามาตย์”
☺ คนทุกคนน่ะ ดีด้วยจิตใจ แต่ร่างกายและวาจาขึ้นกับพื้นฐานสิ่งแวดล้อม
เทพท่านต้องรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร อย่ากังวลเกินขอบเขต
เอาละ ผู้เจริญทุกท่าน จงมั่นยึดถือในพระพุทธวัจนะเถิด



137
คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาท ร.3”


9 กุมภาพันธ์ 2518

ทรงตอบผู้อยากเป็นนักเรียนทหาร
“ทับ” “นั่งเกล้า”

☺ รักทหารหรือว่ารักสิ่งประกอบ ถ้ารักทหารต้องประกอบด้วย
1. อดทน
2. เสียสละ
3. มานะ

☺ ทำอะไรให้คิดถึง
1. ชาติ
2. ศาสนา
3. องค์ประมุข
4. ผู้มีพระคุณ

จงหนักแน่น ใจเย็น มีสติที่สุขุม รอบคอบ และรู้คิด จงอย่าเห็นแก่เรื่องราษฎร์ เรื่องหลวงต่อมาก่อน รักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักชาติกำเนิด รักแผ่นดิน รักความเป็นไท

6 เมษายน 2520

☺ ขอขอบใจทุกๆ คน ในความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ศาสนา และราชวงศ์ สิ่งที่พวกเธอทั้งหลายได้กระทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะน้อยนิดหรือเป็นสิ่งที่มองด้วยตาไม่เห็นก็ตามเป็นเครื่องจรรโลง ยืนยันว่าความซื่อสัตย์จงรักภักดียังมีอยู่ทุกขณะจิต อานิสงส์สิ่งนี้จะพึงต่อบุญวาสนาบารมีให้พวกเธอได้อยู่เย็นเป็นสุขในปถพีนี้



138
คำเทศน์ของ “พระบรมราโชวาทของสมเด็จพระปิ่นเกล้า”


4 พฤษภาคม 2517

“เกสโร”
☻ (ถาม – จำดิฉันได้ไหม ?)
☺ จำได้ ถึงมา
☻ (ถาม – ดิฉันชื่ออะไร ชื่อพระราชทาน ?)

☺ จะลองหรือ ? ฉันรู้ แต่จะมาบอกว่าเธอน่ะ พบผู้ที่ประเสริฐแล้ว ควรยึดหลักคำสอนให้มั่น องค์ท่านนั้น ชั้นอริยะแล้ว
☻ (ถาม – ที่บ้าน บอกว่าท่านทรงไม่ได้)
☺ การทรง ไม่ว่ากายหรือวัตถุนั้น ฉันก็ไปของฉันเรื่อย ใครจะมากะเกณฑ์ให้ฉันอยู่แต่ที่นั่นที่นี่นั้นไม่ถูก ฉันไม่ใช่คนรับใช้ที่จะต้องมีนายคอยสั่งไม่ให้ไปที่โน่นที่นี่ ฉันก็ช่วยคนตกทุกข์ได้ยากไปเรื่อยๆ
• การเคารพใคร ไม่ใช่เคารพในชื่อเสียงของความเก่ง แต่ให้เคารพในความดีของผู้นั้น


16 กันยายน 2518

☺ ฝากบอก............ด้วยว่า ตามที่ท่านอริยะพระคุณเจ้าพรสวรรค์ ได้ทรงตักเตือนบอกกล่าวให้ใช้ปัญญาชี้ที่ถูกที่ควรนั้น ให้ตรองดู นึกถึงจิตเขาจิตเรา เราเป็นเช่นไรกับคนที่รักมากที่สุด เขาก็เป็นเช่นเดียวกันกับเราที่เป็นอยู่ คงนึกออกนะ บอกว่าฉัน ปิ่นเกล้า ฝากบอกด้วยนะ อย่าเดา

• ให้นำคำที่สอนคนขึ้นมาสอนตัวด้วย ที่ว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน กว่าจะพิสูจน์ได้ ระวังมันจะสายเกินการ
• ความจริงแล้ว ควรดูน้ำใจความบริสุทธิ์ อย่าเอาความมีอายุ ความทะนงตัว เขินกระดาก กลัว เกรง เข้ามาเกี่ยว ถ้าเห็นว่าเขาบริสุทธิ์ใจ เป็นคนดีจริง
• ไอ้พวกเรียนมา ข้าไม่เห็นมันใช้อาชีพสักคน เขาต้องการกระดาษที่มีคำรับรองของสถาบัน และไอ้เสื้อดำกะรุ่งกะริ่ง

• ตามหลักธรรมดาแล้ว คนห่างกัน ถ้ายิ่งดึงความรู้สึกเก่าๆ หรือรำพันความคิดถึงจะมีผลอะไร นอกจากจะทำให้ผู้ไปจากถิ่นยิ่งอาลัย คิดถึง ว้าเหว่ยิ่งขึ้น ทำให้หมดอาลัย หมดจิตใจที่จะไปทำหน้าที่ของตนเอง ขอให้เขาให้กำลังใจแต่อย่าไปดึงโลกขาดเพื่อนฝูง
• ความเป็นตัวของตัวเองไม่มี บุคลิกลักษณะตัวเองไม่มี กำลังใจสำคัญมากๆ มากทีเดียว


24 สิงหาคม 2520

☺ กิจการใดที่จะนำให้บ้านเมืองเราเจริญรุ่งเรืองโดยสุจริต ฉันและผู้รักบ้านเมืองย่อมจะจรรโลงกิจการนั้นให้เป็นผลรุ่งเรืองสืบต่อลูกหลานและปวงชน

◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 19/8/11 at 12:46 [ QUOTE ]


139
พระบรมราโชวาทของ ร.5


5 มีนาคม 2517

ทรงอบรมเด็กหนุ่ม
☺ทั้งหมดต้องปรับปรุงมารยาท
• กิริยา เป็นสิ่งเชิดชูตัวให้มีเสน่ห์ คน ชอบแสดงถึงการอบรม สถาบัน พ่อแม่ ตลอดถึงวงศ์สกุลออกมาทางกิริยา
• มารยาทงามนั้น ไปไหนคนเขาก็สรรเสริญ เข้าไปคนก็รัก มันไม่เสียหายอะไร และไม่เป็นสิ่งน่าอายด้วย

2 เมษายน 2518

(ปรารภกันถึงคนที่คิดช่วยประเทศชาติ)
“จุฬาลงกรณ์”

☺คนเช่นนี้มีอยู่มากหลาย แต่ความคิดโดนกลืนโดยกิเลส ผู้ที่คิดช่วยเหลือประเทศมีอีกมาก แต่ไม่มีใครกล้าทำ กล้าแสดงออกมานอกหน้า
• ค่าครองชีพสูง เจ้านายเลว


☺คนรุ่นใหม่ก็มีความใคร่อยากที่จะทำ แสดงซึ่งความเกรียงไกรอยู่เป็นสุขของบ้านเมืองอยู่แล้ว แต่มักจะชะงักงันด้วยอิทธิพลจากเบื้องบน
• พวกพาณิชย์เป็นมรสุมใหญ่ที่ทำให้คนดีๆ เปลี่ยนไปได้ วิสัยคนเรา ย่อมรักความสบายอยู่โดยสันดาน ฉะนั้น คนเราถ้าหยาบ เมื่อทุกข์มาหาตัวและคว้าเอาสิ่งที่ผิดๆ นั้นคิดว่าดี ทำให้สบาย มาโดยความหยาบ
• ใจคนเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะจิต ตราบใดที่ยังชอบหาสุขแบบหยาบๆ

☺ผิวชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ฤาไหว

22 พฤศจิกายน 2519

“จุฬา”

☺ ขอขอบใจทุกคนที่ร่วมใจกัน ร่วมทำนุบำรุงชาติและราชวงศ์ พระศาสนาเป็นอย่างดีเสมอมา บุญกุศลสิ่งนี้จะสนองพวกเธอทั้งปวงให้สุข ทั้งอยู่ ทั้งตาย

☺บางปะอินนี้ ถ้าแท้จริงแล้ว ฉันตั้งใจสร้างเพื่อระลึกถึงประวัติศาสตร์ตั้งแต่ครึ่งก่อนมา และให้ดำรงอยู่ในจิตใจของกษัตริย์ เพื่อที่จะรักษาให้รัตนโกสินทร์และอยุธยาเป็นเมืองสัมพันธ์กัน เพื่อที่ชนรุ่นหลังจะได้ระลึกเสมอว่า อยุธยานั้นสู้รบมา และมีความร่มเย็นเป็นสุข และยามคับขันแค่ไหน จึงสร้างเป็นสถานที่สำหรับกษัตริย์ได้มาประทับเพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่ชนที่นี้และบรรพบุรุษทั้งปวงในอดีต

◄ll กลับสู่สารบัญ


140
พระบรมราโชวาทของ ร.6


24 กุมภาพันธ์ 2517

สอนเด็กหนุ่ม
“วชิราวุธ”

☺อย่าลืมคำที่ข้าเคยให้ไว้ ข้ออยากให้รู้ว่าลูกผู้ชายเป็นอย่างไร ขี้แยเป็นอย่างไร โรงเรียนนี้ ข้าต้องการให้ลูกทุกคนมีความอดทน สามารถต่อสู้ภัยที่จะมาถึงตัวได้เสมอ ไม่ว่าภัยนั้นมองเห็นหรือไม่ก็ตาม

☺ โรงเรียนข้าสอนให้ทุกคนทำอะไรเป็น ไม่ให้ย่อหย่อนยอมแพ้ต่อสิ่งนานา
ทุกอย่างนี้ ขึ้นอยู่ที่กำลังใจเราด้วย อดทนสักหน่อยแล้วจะสบาย
• กำลังใจอยู่ที่ความมั่นคงของจิต ไม่ใช่ยอมแพ้ต่อสิ่งล่อลวงทั้งปวง ถ้าจิตเรามั่นคง เราก็มีกำลังกายและใจที่จะฝ่าฟันไปได้สำเร็จ


☺ ข้าไม่ต้องการอะไรนอกจากดำเนินตามหลักของพระพุทธศาสนาเป็นหลักประจำใจทุกวันทุกคืน มันไม่ยากเย็นเท่าไรเลย เอามาเปรียบเทียบ แก้ไขในเหตุการณ์ประจำวัน
• ข้าต้องการให้เอ็งทุกคนเป็นสุภาพบุรุษ เจนเติลแมน ให้รู้จักคำว่า “ผู้ดี”
• ผู้ดี ไม่ได้หมายถึงคนมีทรัพย์ ไม่ได้หมายถึงคนมีสกุล แต่หมายถึงการประพฤติปฏิบัติ ทั้งกาย วาจา และที่สำคัญคือใจ ขอทานเขาก็เป็นผู้ดีได้ สุภาพบุรุษก็เช่นเดียวกัน


9 เมษายน 2517

ทรงอบรมเด็ก จาก ร.ร. วชิราวุธ
“วชิราวุธ”

☺ การทรงคุณ รู้คุณผู้มีพระคุณเป็นหน้าที่ของพวกเจ้าทั้งหลาย การทำสิ่งไร ก็ต้องสำนึกถึงผู้ทรงคุณก่อนอื่น
• บุญคุณพ่อแม่นั้น ใหญ่หลวงมากนัก เราต้องรู้จักคุณแลตอบแทนท่านเสมอ ไม่ว่าท่านจะอย่างไรก็ตาม
• การที่ท่านทั้งหลาย เสด็จมาสั่งสอนนั้น จำเอาไปปฏิบัติไม่ใช่ว่าฟังวันนั้น วันรุ่งขึ้นก็ลืม ถ้าเช่นนั้นแล้ว อย่าฟังเสียดีกว่า

• การทำอะไรต้องทำด้วยจริงใจ ศรัทธา ถึงจะทำ ถ้าไม่ก็อย่าทำ อย่ารู้ อย่าเห็นเสียดีกว่า ข้าไม่ต้องการให้ลูกหลานข้าเป็นคนมดเท็จ ถึงใครจะทำอะไรไม่ดีก็ตาม อย่าเอามาเปรียบเทียบ
• พวกเจ้าก็รู้อยู่แล้วว่า ถ้าลูกคนใดประพฤติผิด พ่อก็โทมนัสเป็นธรรมดา ใครไม่รักพ่อก็ไม่ควรเอาชื่อพ่อไปอวดอ้าง
• การที่พ่อและเทพองค์อื่นมาสั่งสอน ก็ต้องการให้พวกเจ้าดี ไม่ได้มาบังคับใคร ท่านต้องการให้ดี ฉะนั้น จำนะ ไม่ได้บังคับ
☺ ต่อไป เจ้าจะต้องสวมเครื่องแบบ เจ้าจักต้องทำตนให้อยู่ในระเบียบวินัยที่ดี นำเขา ไม่ใช่ตามเขา

เราทั้งหลายอยู่ในโรงเรียน สนุก รื่นเริงมาแล้ว มันเป็นชีวิตเด็กๆ เราออกมาข้างนอก ดูตัวซิว่าอายุเท่าไรแล้ว เราเป็นผู้นำตัวเองได้แล้ว รู้จักคิด รู้จักยับยั้ง รู้จักประมาณได้แล้ว เราต้องบังคับตัวเราให้อยู่ในสิ่งที่ถูกที่ควรได้แล้ว ไม่ใช่ว่านึกจะทำอะไรก็ตาม รู้ให้ถึงเหตุผลแล้วค่อยทำ รู้เคารพยำเกรง เห็นใจ เกรงใจบุคคลอื่น รู้ให้รอบแล้วจึงทำ เราทั้งหลายนับวันจะโตเป็นหลักของทุกๆ ฝ่าย การที่ข้ามาสอนนี้ ข้าต้องการเพียงอย่างเดียวคือ ให้ลูกข้าทุกคนดี สมกับขึ้นชื่อว่าเป็นลูกวชิราวุธ

☺ ถ้าพวกเจ้าทั้งหลายรับว่าข้าเป็นพ่อ ก็ขออย่าทำให้พ่อต้องโทมนัสเลย ข้านั้นรักเจ้าทุกคนเป็นลูกเสมอ
• เราอยู่ในสิ่งที่ดีแล้ว ก็ควรได้ในสิ่งที่ดีนั้น ลูกข้าคนใดมันระยำ ข้าก็เสียใจ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมีคนดีก็ต้องมีคนเลวอยู่ แต่ว่าเราเลือกทางไหน เราเป็นชนผู้ตัดสินการของตัวเราเองได้แล้ว
จำไว้นะ พ่อรักเจ้าทุกคน


☺ เจ้าทั้งหลาย การที่ข้าแลท่านๆ มาสอน มาแนะทางให้ ข้าคิดว่าดีแล้ว มันไม่หนักเกินกว่าเจ้าจะปฏิบัติ คงทำกันได้ เพราะผลดีก็อยู่ที่เจ้านั่นเอง
• ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ก็อย่าเสียใจว่าที่ท่านมาสอนนั้นเกี่ยวกับเด็กมากกว่า เพราะเด็กฉกรรจ์เหล่านี้ต้องเติบโตฝ่าอุปสรรคอีกมากนัก เราผจญมามากแล้ว ควรปฏิบัติตามพระคุณเจ้าดีกว่า

11 มิถุนายน 2517

ประทับทรง
☺ อันสิ่งใดเป็นที่สุดปรารถนาแล้ว สิ่งนั้นย่อมดับไปในที่สุด ฉันก็ไม่รู้ว่าคำพูดของฉันที่ฉันขอแก่พวกเจ้าทั้งหลายว่า มีความมั่นคงเพียงใด
• โรงเรียนนี้ ฉันสร้างมา ฉันปลูกฝังมา ฉันก็ย่อมจัดการใหม่ได้ เรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องของฉัน พวกเจ้าไม่เกี่ยวอย่าเข้าไปยุ่ง

☺ ฉันไม่รู้ว่าคำกล่าวของฉันจะมีความหมายแก่พวกเจ้าเท่าไร ฉันขอกล่าวคำขอโทษแก่บุคคลที่ฉันทำให้เขาต้องลำบากใจ เมื่อลูกเดือดร้อน พ่อย่อมเป็นทุกข์ ลูกทุกคน พ่อรักและเป็นห่วงเจ้าเสมอ ขอให้เจ้าประพฤติตน ทำตนให้สมกับเป็นลูกผู้ชาย มีความอดทนข่มกลั้น แข็งแกร่ง และสามัคคีซึ่งกันและกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รักสถาบันและส่วนรวมอันมีประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ และศาสนาเป็นที่ตั้ง

☺ พ่อพยายามทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้ลูกทุกคนได้รับอบรม 4 ประการ คือ มีวุฒิธรรมจริยา วุฒิศึกษา ความประพฤติก็ขอให้ฟังพ่อบ้าง สิ่งใดที่ไม่มีกิจที่สำคัญ อย่ายุ่งในกิจการของพ่อ พ่อรู้ว่าเจ้าทุกคนกตัญญู รักในตัวพ่อ ทั้งๆ ที่พวกเจ้าก็ไม่เคยเห็นพ่อ ไม่เคยอยู่ในสมัยของพ่อ ไม่เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้รับสัมผัสที่เป็นรูปธรรมของพ่อ เห็นแต่อรูปธรรม พ่อรู้ในน้ำใจของพวกเจ้าทุกคน พ่อเข้าใจ เพราะฉะนั้น พ่อจึงได้ขอ

☺ มันเป็นการลำบากยากเย็นหรือไม่ ขอให้พ่อได้หรือเปล่า เจ้าทั้งหลายก็ได้ทำประโยชน์ ขอให้บอกแก่เขาด้วยว่าพ่อรู้เสมอว่า เขานั้นกระทำความดี ทำคุณประโยชน์ให้แก่โรงเรียนมาก และคุณประโยชน์ให้แก่พ่อด้วย พ่อรักความดีของเขาเสมอ ขอให้บอกให้รู้ด้วย จงอย่าเสียใจในตัวพ่อเลย

30 กันยายน 2517

“รามาธิบดีที่ 6”

☺เจ้าทั้งหลาย จงทำตัวให้สมกับเชื้อสายเหล่ากอ เชื้อไทย มีน้ำใจที่อนุเคราะห์ฝูงชนผู้ยากไร้ จงมั่นในภาระหน้าที่ที่จะมีต่อไปในวันข้างหน้า ข้าไม่ต้องการเด็กที่ฉลาดแล้วทำอะไรไม่เป็น ข้าจะดีใจมากที่ได้รู้ว่า เด็กคนหนึ่งไม่ฉลาดแต่เอาตัวรอด เป็นผู้มีสาธารณประโยชน์ต่อผืนแผ่นดินไทยที่ตัวได้ซุกหัวนอน เป็นพอแล้ว

ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส
เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย
เขาจะเห็นแก่หน้าค่าชื่อ จะนับถือพงศ์พันธ์นั้นอย่าหมาย
หนจักต้องเหนื่อยยากลำบากกาย ไหนจะอายทั่วทั้งโลกา

☺ พึงสังวรไว้ว่า ที่กล่าวนี้จะประสบได้ก็เนื่องด้วยความสามัคคี ชาติจะไม่ย่อยยับอับจนก็ด้วยพลังแห่งสามัคคีมั่นคง ความสามัคคีมั่นคง จะมีได้ก็ต้องเริ่มด้วยหมู่คณะ
• ฉะนั้น สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ฉันอยากจะให้ซื่อตรงต่อองค์รัชทายาท ทรงดำเนินตามแผนพับบลิกกูล ฉันอยากให้โรงเรียนแบบนี้ได้ขยายไปทุกภาค เพื่อก่อให้เกิดความจงรักภักดีต่อชาติและองค์ประมุข มีผลทำให้เป็นแหล่งแหล่ความสามัคคีได้ก่อเกิด

☺ ฉันพูดนี้ ไม่ใช่ว่าอะไรดีสำหรับอังกฤษ และที่ฉันทำจะดีพร้อม แต่ฉันเห็นว่าเป็นสิ่งดีสำหรับคนไทยในปัจจุบัน
• เจ้าทั้งปวงจงระลึกไว้ว่า สิ่งไหนดีก็ทำก็จำ นำไปปฏิบัติ ข้าชอบคนสำรวมมีกิริยามากกว่าคนสำรวย ตีความสำรวยคือผู้ที่มักง่าย ชอบจับจด ทำตัวอยู่ในความสบายเกินขอบเขต

25 พฤศจิกายน 2517

“วชิราวุธ”

☺ ข้าขอบใจทุกๆ คน รวมทั้งนักเรียนมหาดเล็กหลวงที่สำเร็จแล้ว และได้กระทำกุสล อุทิศให้แก่ข้าเรียบร้อยแล้ว และข้าขออำนายพรจากผลบุญ กระทำความดีทั้งหลายนี้ จงสนองตอบพวกเธอทั้งหลาย ขอให้เจริญทุกๆ สิ่งสมดังปณิธานปรารถนาโดยพลัน
• ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย จงประพฤติในความดีนี้ยิ่งๆ ขึ้นไปอย่าได้ท้อถอย จงทำคุณประโยชน์ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

7 มกราคม 2519

“วชิราวุธ”

☺ ขอให้ทำตัวสมกับเป็นคน คนคือสัตว์ผู้รู้คิด มีปัญญา มีความสามารถ เมื่อทำตัวสมกับเป็นคนแล้ว ก็ขอให้ดีขึ้นไปอีก คือประพฤติเยี่ยงมนุษยชน คือผู้ที่รู้ดีแล้ว ชอบแล้ว รู้ควรไม่ควร ดีไม่ดี กาลเวลาหาอีกไม่ได้แล้ว เมื่อมันวิ่งไปทุกวัน

• คนหิว หาชดเชยความหิวด้วยอะไร ? คนเจ็บ หายามารักษาได้ คนง่วงนอน หาความสำราญด้วยการนอนได้ แต่เวลาเมื่อหมดไป หาอีกไม่ได้
• คนที่ไม่ได้ทำกิจการใดๆ เนื่องด้วยอ้างว่าไม่มีเวลานั้น เพราะคนนั้นอยากอยู่เฉยๆ ฉะนั้น อย่าใช้คำว่า เบื่อ ท้อแท้ ขี้เกียจ ไว้คราวหน้า ผัดตัวเอง คนเช่นนั้นจะหาความสำเร็จให้กับตัวเองไม่ได้ เพราะเขาชอบอยู่เปล่าๆ เฉยๆ

☺ 1 มกรา เป็นวันที่ฉันเกิดบนโลก ฉะนั้น เธอถือว่า 1 มกรา เป็นวันต้นปี ต้นปีของความเป็นอิสระ เป็นประชาธิปไตย เป็นวันของชาติใหม่ ก็จงให้เวลาที่เธอทั้งหลายกำหนดไว้เป็นสากลนี้ จงเป็นเวลาตั้งต้นตนเองในสิ่งที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ใครยังไม่เป็นเรื่องเป็นราว ก็ขอให้เข้าเรื่องเข้าราว
• อายุเรา หมดไปทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี อย่าให้เสียเปล่า ความตายไม่มีนิมิตบอกใครได้ จงตั้งใจและตั้งต้น ไม่อยู่ในความประมาท


1 กันยายน 2517

ประทับทรง
☺ อันโรงเรียนมหาดเล็กหลวงที่ข้าได้ก่อตั้งนั้น มุ่งมั่นให้กุลบุตรทั้งหลายเป็นลูกผู้ชาย สุภาพบุรุษสมกับที่เกิดมา
• หน้าที่สำคัญประการแรก คือแผ่นดิน บิดามารดา การกตัญญูรู้คุณ ศาสนา องค์ประมุข
☺ สิ่งทั้งหลายที่พวกเจ้าได้รู้ได้เห็น ทั้งในการศึกษาก็ดี กิจกรรมก็ดี เป็นสิ่งที่เจ้าทั้งหลายควรไขว่คว้าศึกษา หน้าที่ของพวกเจ้า มีอยู่หลายหน้าที่ที่ต้องกระทำ กระทำเรื่อยไป

• สิ่งแรกที่มาก่อน คือการกระทำเพื่อส่วนรวม อันมีชาติเป็นหลัก ประมาณต่อมากระทำเพื่อส่วนรวมอันมีองค์ประมุขเป็นหลัก ประการต่อมา กระทำเพื่อส่วนรวมอันมีวงศ์ตระกูลเป็นหลัก ประการต่อมา กระทำเพื่อส่วนรวมอันมีคณะบุคคลเป็นหลัก ประการสุดท้าย ส่วนแห่งตนมาทีหลัง ฉะนั้น เจ้าทั้งหลายพึงรู้ พึงทราบด้วย

ประการแรก ต้องอดทน มานะ บากบั่น ที่สำคัญคือ การเสียสละ ละความชั่ว เสียสละในหน้าที่ ในหยาดเหงื่อแรงงาน ในงานที่เสียไป เจ้าทั้งหลายกระทำได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับจิตใจของเจ้าทุกคน

ด้วยความมั่นคงแน่วแน่ ไม่เอาโทสะ โมหะ ความอยาก ความรัก ชอบ หลงเข้ามายุ่งมาเกี่ยว ต้องวางตนเป็นกลาง ต้องมีสติสัมปชัญญะ ต้องรู้เหตุผล อะไรดี อะไรผิด ไม่ใช่ว่า อ้อ! ผู้นี้เป็นญาติของเรา เป็นน้องเรา เพื่อเราผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก ไม่ใช่คนนั้นไม่เป็นที่ชอบพอของเราเลย อย่างนั้นไม่ถูกต้อง ต้องตัดสินด้วยความเป็นธรรม อันเป็นหลักของประเทศ หวังว่าคงไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง

☺ ข้าอยากจะให้พวกเจ้าสำนึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษ เป็น man และเป็นผู้ดี
• ผู้ดี อาจจะแสลงหู ผู้ดี ไม่ได้หมายถึงผู้มีเชื้อพระวงศ์ จ้าว-ทาส ผู้มีเงินทองมหาศาล ร่ำรวย ขอทานก็เป็นผู้ดีได้ ผู้ดีคืออะไร คงรู้แล้วทุกคน จงกระทำแต่สิ่งที่ดีงาม
• ถ้าพวกเจ้าทุกคนยังรัก เคารพในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง แล้วยังกตัญญู มีความมั่นคงในตัวของข้า วชิราวุธแล้ว หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าเจ้าจะถือข้าเป็นบิดาแล้ว ก็ขอให้เจ้าเป็นบุตรที่ประพฤติแต่ความดี

☺ ส่วนข้า ถือเสมอไม่ว่าใครจะดี จะชั่วปานใดก็ตาม แต่ข้าถือว่าข้าเป็นพ่อ ต้องโอบอุ้ม ประคับประคอง คนไหนไม่ดีก็ช่วยกันตะล่อมให้มาเดินในทางที่ถูกที่ควร คนใดที่ดีแล้วก็แนะทางตรงให้กับเขา ปัดทางให้สะอาด

☺ หวังว่าคงจำเพลงของโรงเรียนมหาดเล็กหลวงได้
• ขณะปัจจุบัน พวกเจ้ายังไม่มีหน้าที่ ไม่มีเรื่องรับผิดชอบ แต่ในอนาคต ถ้าพวกเจ้ารับภาระเกี่ยวกับบ้านเมือง พ่อขอ อย่าได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวเลย อย่าได้หูเบา อย่าได้ลำเอียง จงชั่งน้ำหนักในความดีนั้นๆ เถิด ลูกเอ๋ย

18 ตุลาคม 2517

ประทับทรง
☺ข้าขอขอบใจเรื่องการทำพระ ทุกคน และขอบใจท่านเวสสุวัณที่ช่วยทำให้

☺ข้าอยากจะลงมากล่าวไว้อย่าง สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ไม่ใช่อยากเห่อ เพราะเจ้าเรียนกันมา ข้าตั้งใจสร้างเป็นโรงเรียนกินนอนแบบอังกฤษ คือพับลิคสกูล พับลิคสกูลตั้งสำหรับอบรมให้เป็นผู้ชายแ¬ข็งแกร่ง รักหมู่ รักคณะ เป็นผู้ดี เป็นแมน สุภาพบุรุษ เจนเติลแมน มานะ บากบั่นทำงาน ไม่ใช่ว่ามีความรู้อย่างเดียว ต้องมีจิตใจเห็นแก่สาธารณะ

เห็นแก่ส่วนรวม ไม่เห็นแก่ตัว ถ้าไม่ต้องการสอนให้เป็นอย่างนี้ก็ทำโรงเรียนกินนอนธรรมดาได้ ข้าต้องการเฟรนดัส มีสหาย มิตร เพื่อน เป็นกลุ่มก้อน ช่วยเหลือกัน ให้อภัยกัน ช่วยกัน รัก ปรองดอง มีไมตรีต่อกัน เป็นกรุ๊ป รวมตัวเป็นสามัคคีเป็นกลุ่มก้อน รักหมู่ รักประเทศ พับลิคสกูล ตั้งมาด้วยจุดประสงค์ใด หวังว่านักเรียนคงเข้าใจ

☺ข้ามุ่งหมายอยู่ว่า
1. ให้มีวิชา เอาตัวรอดได้
2. ให้เป็นเจนเติลแมน เป็นผู้ดี
3. ให้รักหมู่คณะ มีความสามัคคี มีไมตรี มีน้ำใจกว้างขวาง เอื้อเฟื้อ ไม่เห็นแก่ได้ เอาตัวรอดคนเดียว
4. ให้ทุกคนช่วยประเทศ ชาติ ศาสนา องค์พระประมุข
☺สิ่งเหล่านี้ คงซึ้งในจิตใจของพวกเจ้า ขอให้ปลูกฝังไว้ในจิตใจของเจ้าทั้งปวง

•เจ้านั้น พอซึ้งในความเป็นอยู่หรือ ? ซึ่งแล้วต้องนำมาปฏิบัติ ข้าจะดีใจมากหากนักเรียนของข้าทุกคนจะขยายคำว่ามิตรออกไป ให้รักหมู่ รักคณะ จับหมู่กันให้เหนียวแน่นป้องกันภัย รักษาเกียรติของตน ของหมู่คณะ รักเกียรติยศ รักหมู่คณะ ไม่ให้ใครมาเหยียดหยามความเป็นคนได้ ขอให้นักเรียนมหาดเล็กหลวงทุกคนพึงขอบใจต่อคุณสมบัตินี้ ไม่ใช่ขอบใจเฉพาะบุคคลใด

•สำหรับเจ้าเอง เคยบอกกล่าวแล้วที่หอประชุมซึ่งมีไว้สำหรับสงบจิต เจ้ารักข้าหรือไม่ อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวังนะ ข้าสอนใครได้ข้าก็สอน และสอนทุกแห่งที่ข้าเข้าได้
•ขณะนี้ โรงเรียนวชิราวุธ ข้าให้เล่นกีฬา ให้เรือแจว แต่ขณะนี้เขาไม่แจว ไม่เล่นกีฬาตามกติกาที่ข้าวาง จะเปลี่ยนจากโรงเรียนกินนอน เป็นโรงเรียนไป-กลับจะดีหรือ ข้าท้อจริงๆ ทำอย่างนั้นลักษณะลีดเดอร์ก็ไม่มี ผู้ชายไมมี กุลบุตรไม่มี

•สำหรับเจ้า โรงเรียนนี้ไม่สอนให้ขลาด ให้ท้อถอย ไม่มีมานะ ข้าต้องการให้รู้จักอุปสรรค สู้กับภัยที่มีมา ไม่ท้อถอย
•เจ้าเป็นลูกเสือใช่ไหม ? จำคติได้ไหม ? กล่าวให้ฟังซิ (เสียชีพอย่าเสียสัตย์) ปฏิบัติยากนะ แต่ถ้าเราหนักแน่น ไม่อ่อนแอเหมือนคนขลาดแล้ว ไม่ยากเลย
•ข้ากล่าวแล้ว ความหมายของเครื่องแบบ เจ้าจำได้หรือไม่ ถ้าจำได้ก็จำไว้ว่า เมื่อได้ปฏิญาณตัวแล้ว ก็ต้องเสียสละในความลำบาก และภัยที่จะมีมา

☺คนเรา ทำอะไรหยาบง่าย ทำละเอียดยาก เราไม่ได้อยู่คนเดียว ทุกอย่างที่ระเบียบในตัวของมันเอง จริง เป็นประชาธิปไตย แต่ก็ต้องมีกาลเทศะ ประเพณี ระเบียบ หัดไว้เถอะ แล้วจะรู้ในวันหนึ่ง ไม่มีอะไรใหญ่กว่าชนะตัวเอง ใจจะเหิม จะพองอย่างภาคภูมิในเมื่อทำอะไรได้ อยู่ที่ “พอ” ต้องฝึก ต้องหมั่นฝึกฝน

16 พฤศจิกายน 2520

กับเด็กๆ
☺เจ้าทั้งหลาย คงทำตนให้สมตน แห่งเกียรติแห่งตน อย่าละทิ้งเกียรติ คนเรามีความเชื่อมั่นในตัวบุคคล คือเกียรติยศ
☺เกียรติยศจะมีได้ต้องเริ่มที่สัจจะ ถ้าสัจจะไม่เป็นที่น่าเชื่อถือแล้ว เกียรติจะมีได้หรือ ข้าขอให้พระเจ้ายึดมั่นในศักดิ์ศรีของตน อย่าลืมศักดิ์ศรีของสถาบัน

29 ธันวาคม 2520

“วชิราวุธ”

☺ขอให้โอวาทสักเล็กน้อยสำหรับทุกๆ คน
•ศักราชใหม่นี้ ขอให้ทุกคนจงตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละบุคคลโดยเต็มกำลังความสามารถอย่างดีที่สุด ทำให้เป็นผลเลิศ
•ขอให้คนไทยทุกหน่อเหล่า จงสามัคคีปรองดองกัน ขอให้หยุดพูด หยุดทะเลาะหยุดวิจารณ์กัน แต่ให้มาปฏิบัติ มาทำกันให้มากกว่าพูด มากกว่านินทา ร่วมมือ ร่วมแรงปฏิบัติให้เกิดความสามัคคี

•จงหยุดด่ากันเสียที ไม่มีคนใดที่จะรักบ้านของเราเท่ากับเรา ถ้าคิดว่าปู่ ย่า ตา ยาย เป็นคนไทย เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ก็จงอย่าดูถูกคนไทย หมาพันธุ์เดียวกันไม่รักกัน หมาพันธุ์ไหนจะรักเล่า ข้าเคยพูดเมื่อครั้งข้ายังมีชีพอยู่ว่า อะไรที่ดีสำหรับชาติอื่น ไม่จำเป็นจะต้องดีสำหรับชาติเรา ควรเลือกแบบอย่างที่ดี ที่เหมาะสมมาแก้ไข ทะนุบำรุงบ้านเมืองเรากันดีกว่า เราจะได้เจริญในความสะดวก

•แต่ศีลธรรมเล่า เราจะต้องทะนุบำรุงที่วัฒนธรรมประเพณีด้วย อันที่จริง คนไทยเราไม่ใช่คนขี้เกียจ และคนไทยเราไม่ใช่คนขยัน แต่คนไทยเราเป็นคนรู้จักประมาณ รู้จักพอมาตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย จะเห็นได้จากการที่เราสงบสุข เราก็มีกินมีใช้อย่างสบายไปเรื่อยๆ เหมือนกับคนขี้เกียจ แต่มาดูอีกด้านหนึ่ง คือเมื่อมีเรื่องคับขันทีไร เราสามารถแก้ปัญหาสภาวการณ์ต่างๆ ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเสมอ ความสามารถวิชาการ เราเรียนได้ทันเขาถ้าเราจะเอาจริง ซึ่งก็มีกันมามากมาย เหล่านี้เป็นนิสัยอย่างไทยๆ ไทย แปลว่า อิสระ สบายๆ

☺ฉะนั้น เป็นคนไทยด้วยกันอย่าดูถูกคนชาติเดียวกัน อย่าเหยียดหยามคนไทย ขอให้สามัคคีกันไว้ เลิกพูดมากกันเสียที สองมือสองเท้า ช่วยกันแก้ไข ทำให้สุจริตด้วยตัวเรา ที่ตัวเรา และของๆ เราเสียก่อน แล้วเราจะอยู่ร่วมกับสังคมที่เราต้องการได้เสมอ

•ในฐานะที่ข้าเคยได้เป็นกำลังของชาติผู้หนึ่ง ขอขอบใจและโมทนาในความเสียสละของทุกคนผู้ที่ปฏิบัติการเพื่อบ้านเมืองมาด้วยดี ด้วยหน้าที่ และชีวิตอย่างจริงใจ ขอให้รักษาความดีนี้ไว้ไปจนตลอดชั่วสกุล

•อย่าลืมระลึกไว้ว่าบ้านเรา แผ่นดินของเรา ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษทั้งหลายได้เอาชีวิตเข้าแลก เอาความสุขเป็นประกัน เอาน้ำตาเป็นกำลัง เอาเลือดเป็นพื้นอุดมคติ จงปกป้องรักษาไว้ ทุกคนเป็นผู้มีสติปัญญา มีความรอบรู้ อุดมด้วยวิทยาการต่างๆ มากมาย จงใช้สติปัญญานี้รู้รับผิดชอบ รู้คิด รู้ฟัง รู้เหตุ รู้ผล อย่าทำเป็นคนปัญญาน้อยหรือด้อยปัญญา

•ชาติเรา เป็นชาติที่กำลังพัฒนาการทางด้านวัตถุ ฉะนั้น จงรีบเร่งสนองชาติให้พัฒนาเสร็จๆ เสียที น่ารำคาญ


ขอฝากไว้เพียงเท่านี้ เพราะข้าเห็นว่าคน 1 คน ก็ยังช่วยชาติได้ โดยการบอกเล่าเก้าสิบต่อๆ กันไปเป็นสาย สามารถที่จะร่วมแรงร่วมใจกันได้ อย่าอิจฉาตาร้อน อย่าเมาในอำนาจ อย่าดูถูกคน เพราะคนทุกคนฉลาด ฉลาดในสิ่งที่จะคิดในสิ่งที่จะทำ สิ่งนั้นอาจจะผิดสำหรับคนอื่นหรือบางคน และก็อาจจะถูกสำหรับคนอื่นหรือบางคน ย่อมขึ้นแล้วแต่เหตุการณ์นั้น

☺สุดท้าย ขอให้ทุกคนพึ่งปรารถนาความสุขทั่วหน้ากัน

◄ll กลับสู่สารบัญ


141
พระบรมราโชวาทของ ร.7

2 มีนาคม 2518


☺ถ้าประมุขพ้นภัยแล้ว ประเทศก็พ้นภัย เพราะถือดวงเมือง ตามดวงประมุข
•คนทุกคนแหละ ตอนแรกๆ ก็แหกปากร้องรักชาติ พอตัวสบาย ปากรักชาติมันก็ตีบลง
•ตอนนี้น่ะ ครึ่งประเทศแล้วนะ เศรษฐกิจ (ญี่ปุ่นคุม) ตาน้ำข้าว ไปร้องทำไม น้อย


☺ตราบใดที่องค์ภูมิพลยังอยู่ ตราบนั้นไม่แตกพัง รู้หรือไม่ว่าท่านคอยดำเนินการข้างหลังเพื่อพสกนิการอย่างมากมาย แต่ก็มองไม่ค่อยเห็นกัน ท่านทำทั้งพื้นมนุษย์ และเทวดา ทรงปฏิบัติทั้งภารกิจของบ้านเมือง และทรงถวายกุศลต่อพระ เทวดา เพื่อพสกนิกร



142
พระโอวาทของ กรมพระกำแพงฯ

8 ตุลาคม 2517

ประทับทรง
☺ความประมาทน่ะ เป็นทางวิบัตินะ สติ ความระลึกได้ เมื่อระลึกได้ สัมปชัญญะก็เกิด สัมปชัญญะเกิด สมาธิก็มี สมาธิมีปัญญาก็แตกฉาน ฉะนั้น จำไว้ความประมาทเป็นพื้นฐาน

•คนทุกคนมีสมาธิ มีแล้วก็มีคอนเซ็นเทรชันที่จะทำอะไรได้
•คนเราก็แปลก คิดระเบียบ ประเพณี สิ่งต่างๆ ขึ้นมา ทำให้บีบรัดตัวเองมาขึ้น คนก็มีความต้องการต่างๆ กัน เพราะฉะนั้น ก็มีคนแหวกประเพณี ทะลุกลางปล้อง ประเพณีก็ตั้งในสิ่งที่คนต้องการ มัวแต่ห้ามโน่น ห้ามนี่ ห้ามนั่น มีผลดีก็ควรตั้งมาได้ ไม่ใช่ตั้งส่งเดชไป

☻ (ทูลถามว่า ห้ามอะไรที่ไม่มีประโยชน์)
☺ห้ามคนคิดไง เขาอยากคิดก็ควรให้คิดไป นำทางให้ถูก
ไอ้คอนสติติวชัน ความจริงเรามีมาแต่โบราณนะ ตั้งแต่สมัยพระเจ้าพรหม องค์สมเด็จไงล่ะ พระธรรมไงล่ะ ไปอ่านดูซิ ไอ้ของใหม่ทำขึ้นมา คนยังคิดได้หลายทางเลย

•รัฐธรรมนูญ มนูผู้ก่อตั้ง รัฐเป็นธรรมของรัฐ ไม่เห็นเป็นไง
•ธรรมของพระศาสดา แยกได้หลายอย่าง ด้านการปกครองก็ใช้ได้ ด้านความประพฤติก็ใช้ได้
☺เรายังหนักแน่นน้อยไปหน่อย คอนสติติวชัน เราไปยกย่องไอ้สถาบันบริหารมากเกินไป อำนาจนิติบัญญัติน้อยไป ตุลาการตกกระป๋องไปเลย สามอันมันควรถ่วงดุลกันให้ดี แต่บริหารคุม เพราะกองทัพเข้าไปคุม
☺ควรยังงี้ กองทัพ ควรขึ้นตรงต่อตัวกลาง คือประมุขที่ดี ดึงถ่วงดุล

☻ (ทูลถามเรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน)
☺อันนี้ฉันตอบไม่ได้ ผู้ตอบได้ต้องอริยมรรคขึ้นไปนะ ฉันมันเทวดาเดินดิน



143
ดร.เดือน บุนนาค

23 กรกฎาคม 2525

หลังถึงแก่กรรม


☺ หลังจากบอกขอบใจคนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการรักษาพยาบาลและงานศพแล้ว ได้ให้ความรู้ปลีกย่อยบ้าง คือ
- พบคุณอ๋อยแล้ว คุณอ๋อยพาเที่ยว
- ผมได้หลวงพ่อ ท่านช่วยมากครับ
- ท่านพ่อคุณเสริม ท่านเป็นพระอรหันต์ครับ ท่านอยู่นี่กันหมดตอนนี้เอง ตาดีดูซิ มีท่านอยู่ที่นี่ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่ทึม หลวงปู่คำแสน คุณอ๋อย ท่านหญิงวิภาฯ มีสมเด็จหลวงตาเป็นประธาน (หมายถึงองค์ที่ 3) ท่านว่าที่นี่เป็นครัวใหญ่สมัยที่อยู่เมืองเขื่อนยันฮี

(หมายเหตุ :- สมเด็จพระพุทธกัสสป ทรงอุบัติบริเวณเขื่อนยันฮี เคยมีเมืองใหญ่ที่นั่น)


◄ll กลับสู่สารบัญ


144
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ท่าน “ฤๅษีลิงดำ”)

26 มีนาคม 2537

ระหว่างเสด็จในกรมฯ กรมหลวงชุมพร กำลังทรงกระดาน

☺ว่าไงท่านเจ้ากรม
☻ (ส. ปรารภว่า เสด็จฯ ไม่เคยทรงเรียกท่านเจ้ากรม)
☺ (โหน่ง. หลวงพ่อ)
☺เก่งโว้ย

☻ (ส. ถ้าเคยล่วงเกินอะไรก็ขอขมากรรม)
☺ไม่มีอะไร
☻ (ส. ที่มีข่าวว่าหลวงพ่อจะฟื้น)
☺ไม่ไหวแล้ว มันหมดสภาพ ลงก็ไม่ไหว ท่านจะให้มาฉันไม่เอา

☻ (ส. สังขารหลวงพ่อ ปิดทองเสียดีไหม ?)
☺อยู่อย่างนี้ดีแล้ว ไม่ต้องปิด จะได้ปลง

☺จะคืนกระดานให้เสด็จฯ ละ อย่าติดสังขารเลย จะดีใจอย่างมากถ้าลูกๆ จะปฏิบัติดี ไปอยู่ด้วยกันเร็วๆ

จบบริบูรณ์ พรสวรรค์ รวมเล่ม 1-2-3


◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top