Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 5/8/11 at 12:22 [ QUOTE ]

ภาพ/คลีปวิดีโอ...วันฌาปนกิจศพ "พระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี"


01. กำหนดการฌาปนกิจ
02. ประวัติพระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี ( สกุลเดิม อินทร์พรหม )
03. สวดอภิธรรม
04. ชมภาพหลากหลายของ "พระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี"
05. ภาพวันฌาปนกิจศพ "พระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี"



กำหนดการฌาปนกิจศพ พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี


วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔

เวลา ๑๓.๐๕ น.หลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ได้ถึงแก่มรณภาพที่ โรงพยาบาลศิริราช
เวลา ๑๕.๐๐ น. ได้เคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลศิริราช
เวลา ๑๘.๓๐ น. ได้มาถึงที่วัดจันทาราม(ท่าซุง)
เวลา ๑๙.๐๐ น. พระสงฆ์วัดท่าซุง นำโดย พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต
พระปลัดวิรัช โอภาโส และพระอาคันตุกะ ได้ร่วมกันขอขมา ต่อศพ พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี
เวลา ๑๙.๑๕ น. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร, พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต, พระปลัดวิรัช โอภาโส ได้นำ
พระสงฆ์วัดท่าซุง และพระอาคันตุกะ สรงน้ำศพ ต่อด้วยบรรดา ญาติโยมที่มาได้ร่วมกันสรงน้ำศพ
เวลา ๒๐.๐๐ น. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร, พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต, พระปลัดวิรัช โอภาโส
พระสงฆ์วัดท่าซุง ร่วมกันเอาศพของหลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ลงสู่ โลงศพ
เวลา ๒๐.๑๕ น. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร ,พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต, พระปลัดวิรัช โอภาโส
นำพระสงฆ์ทั้งหมด กราบหลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ต่อด้วยญาติโยมที่มา ก็ร่วมกัน
กราบศพหลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี

กำหนดการฌาปณกิจ





วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ ถึง วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๔

เวลา ๑๙.๓๐ น. มีสวดอภิธรรมทุกคืนที่ "ศาลาพระพินิจอักษร"

วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ และ วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๔

เวลา ๑๙.๓๐ น. มีสวดอภิธรรมที่ "ศาลา ๑๒ ไร่ "

วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔

เวลา ๑๔.๐๐ น. เปิดพระธรรมเทศนา หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เวลา ๑๔.๓๐ น. พระสงฆ์วัดท่าซุงสวดมาติกา / บังสุกุล เจ้าภาพถวายปัจจัยไทยทาน อุทิสส่วนกุศล

เวลา ๑๕.๓๐ น. ฌาปนกิจ "ณ. เมรุ ลาน 25 ไร่"

หมายเหตุ เวลาอาจเปลี่ยนแปลงใหม่ได้ ขอให้ติดตามข่าวสาร

รายนามเจ้าภาพสวดอภิธรรม


วันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ครอบครัวอินพรหม,อาจารย์อุษณีย์ เครือเขื่อนเพชรและน้องๆ,
โรงเรียนปรียาโชติ
วันเสาร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ พล.ต.ราเชนทร์-คุณจุฑามาศ รื่นกมล,พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กนกนาก
ด.ต.อดุลย์-คุณมณี ยืนยง,ด.ต.อำพร-คุณวิราศี เทียนบุตร ,คุณสมิตร-คุณศิริพร
และครอบครัว,คุณเศรษฐาและและคณะณุชเพ็ญศรี
วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ บริษัทไทยโอเชี่ยนอุตสาหกรรม จำกัด, บริษัทแม่ไม้เพลงไทย จำกัด ,
ศิษย์เก่า พสธ.รุ่น ๓,คุณเลอสรรค์ – อุทาวรรณ โอฬารวัฒน์
วันจันทร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๔ ร้าน อ. มงคล ,คณะพระติงลี่
วันอังคารที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ คณะครู-นักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา
วันพุธที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ Mr. SHAKE, MR.ROBERT & MD. SUPAKARN WONG. และคณะ
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ คุณสกลชัย – คุณโกวิทย์ โชติรัตนกุล,คุณสมศักดิ์ จิตวานิชไพบูลย์
วันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ งดสวดพระอภิธรรม เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

รายนามเจ้าภาพถวายโลงศพ,ดอกไม้ประดับในงาน
ตั้งแต่วันที่ ๔ – ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ประดับเมรุลอย

คุณโรเบิร์ต – คุณศุภากานต์ หว่อง และญาติโยมจากประเทศมาเลเซีย, ร้าน อ.มงคล ,คุณแก้ว(เยอรมัน) ,คุณนวลศิริธร ศุภกูล, MR. SHAKE,คุณสกลชัย – คุณโกวิทย์ โชติรัตนกุล.


คลิป วีดีโอ “รดน้ำศพพระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี”




รดน้ำศพพระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี
สวดอภิธรรม พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี วันที่ 6 สิงหาคม 2554


ภาพเหตุการณ์“รดน้ำศพพระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี”


เตรียมสถานที่ ศาลาพระพินิจ รอรับ







เวลา ๑๓.๐๕ น.หลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ได้ถึงแก่มรณภาพที่ โรงพยาบาลศิริราช
เวลา ๑๕.๐๐ น. ได้เคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลศิริราช
เวลา ๑๘.๓๐ น. ได้มาถึงที่วัดจันทาราม(ท่าซุง)











เวลา ๑๙.๐๐ น. พระสงฆ์วัดท่าซุง นำโดย พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโรพระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต
พระปลัดวิรัช โอภาโส และพระอาคันตุกะ ได้ร่วมกันขอขมา ต่อศพ พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี





เวลา ๑๙.๑๕ น. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร, พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต, พระปลัดวิรัช โอภาโส ได้นำ
พระสงฆ์วัดท่าซุง และพระอาคันตุกะ สรงน้ำศพ ต่อด้วยบรรดา ญาติโยมที่มาได้ร่วมกันสรงน้ำศพ





































เวลา ๒๐.๐๐ น. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร, พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต, พระปลัดวิรัช โอภาโส
พระสงฆ์วัดท่าซุง ร่วมกันเอาศพของหลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ลงสู่ โลงศพ

















เวลา ๒๐.๑๕ น. พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร ,พระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต, พระปลัดวิรัช โอภาโส
นำพระสงฆ์ทั้งหมด กราบหลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ต่อด้วยญาติโยมที่มา ก็ร่วมกัน
กราบศพหลวงพี่พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี













ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 8/8/11 at 18:18 [ QUOTE ]


02

ประวัติพระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี ( สกุลเดิม อินทร์พรหม )


ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) ตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี


ชาติกำเนิด

เดิมชื่อ ประทีป อินทร์พรหม เป็นบุตรของพ่อเถิง - คุณแม่อ้าย อินทร์พรหม เกิดเมื่อ วันอาทิตย์ ที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๔ ตรงกับวันแรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีเถาะ ที่บ้านเลขที่ ๑๑๖/๑ หมู่ที่ ๓ บ้านห้วยเรียงใต้ ตำบลวังกรด อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร

มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน รวมทั้งหมด ๙ คน ดังนี้
๑. พระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี
๒. นางสาวบุญธรรม อินทร์พรหม เสียชีวิต
๓. นายสุเทพ อินทร์พรหม

๔. นางทิพาพร อินทร์พรหม
๕. นายไพฑูรย์ อินทร์พรหม
๖. นายสมพงษ์ อินทร์พรหม

๗. นางกาญจนา มาชีพ
๘. นางสาวจันทิพย์ อินทร์พรหม
๙. นางสาวอรทัย อินทร์พรหม

ในวัยเด็ก เนื่องจากเป็นพี่คนโต ภาระในการดูแลน้อง ๆ จึงตกเป็นหน้าที่ของท่าน อาศัยมีความขยัน และรักน้อง ๆ จึงทำให้หน้าที่นี้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของท่าน

อาชีพของบิดา มารดาท่าน คือ การทำนา ตัวท่านเองก็ช่วยเหลือพ่อแม่ในการทำนาด้วย มีเวลาเหลือจากการทำนาก็หาปู หาปลา มารับประทานในครอบครัว เหลือท่านก็เอาขาย ได้สตางค์มา ก็เอามาหยอดในกระบอกไม้ไผ่ ที่ฝาบ้านเป็นกระปุกออมสินธรรมชาติ เวลาน้อง ๆ ไม่มีนมกิน ท่านก็มาแงะเอาสตางค์ที่เก็บไว้ไปซื้อนมมาเลี้ยงน้อง ๆ

การศึกษา

เมื่ออายุครบเกณฑ์ (ประมาณ ๗ ขวบ) ก็ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนห้วยเรียงใต้ จนจบชั้นประถมปีที่ 4 หลังจากจบ ป.4 แล้วท่านก็หยุดการเรียนอยู่ประมาณ ๓-๔ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๐๘ ได้เข้ากรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่กับอาจารย์ท่านหนึ่งที่สอนอยู่ที่ช่างกลปทุมวันและได้ศึกษาต่อในระบบการศึกษานอกโรงเรียนที่ โรงเรียนสุโขทัย ( กรุงเทพมหานคร) จนจบประถมศึกษาปีที่ ๗

เมื่ออายุได้ประมาณ ๑๘ ปี ก็ได้เข้าทำงาน เป็นเจ้าหน้าที่จัดส่งเอกสารที่บริษัทแอร์อินเดีย โดยทำงานอยู่ประมาณ ๕ ปี ก็ได้ลาออก และเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพิจิตร

เข้าสู่ร่มเงาพระศาสนา

เมื่อกลับมาอยู่บ้าน ยายและแม่ก็ขอให้บวช ท่านก็ได้ตัดสินใจบวช เมื่ออายุ ๒๔ ปี โดยได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดสุขุมาราม ตำบลวังตะกู อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมีพระครูวิจารณ์วิหารกิจ เจ้าอาวาสวัดสุขุมาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยมีพระถนอม อภินนฺโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเชื่อ ฉนฺทกโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่ออุปสมบทแล้ว พระอุปชฌาย์ได้ฝากท่านไว้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ท่านจึงได้ย้ายมาอยู่วัดจันทาราม (ท่าซุง) กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการอุปสมบท และทำการย้ายสังกัดจากวัดสุขุมาราม มาอยู่วัดจันทาราม (ท่าซุง) ในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๒๑ จนมรณภาพในปี ๒๕๕๔

ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๔๓ – ปี พ.ศ.๒๕๔๕ ท่านได้เป็นหัวหน้าในการสร้างสำนักสงฆ์ป่าละอู และได้อยู่จำพรรษาที่ป่าละอู เป็นช่วงเวลา ๒ พรรษา และจำพรรษา ที่วัดท่าซุงอีก ๓๔ พรรษา รวม อายุพรรษา ๓๖

ตำแหน่ง

ปีพุทธศักราช ๒๕๒๙ ได้รับคัดเลือก และตั้งเป็นคณะกรรมการสงฆ์ ของวัดจันทาราม (ท่าซุง)
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมที่ พระใบฎีกา ของพระสุธรรมยานเถระ
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๔ ได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) ตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

งานสาธารณูปการ

เนื่องด้วยพระใบฎีกาประทีปฯ มีความรู้ และทักษะในงานช่าง จึงได้มีโอกาสรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ อย่างเต็มที่ เพราะในช่วงปีพุทธศักราช ๒๕๑๘ ที่พระใบฎีกาประทีปฯ มาจำพรรษาที่วัดท่าซุง เป็นช่วงที่กำลังก่อสร้างวัด ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทใด พระใบฎีกาประทีปฯ ถือได้ว่าเป็นกำลังหลักในการทำงานมาโดยตลอด

ดังนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า แทบทุกพื้นที่ในวัดท่าซุง พระใบฎีกาประทีปฯ จะมีส่วนเข้าไปทำงานทั้งสิ้น เพราะอาคารแต่ละหลังก็จะมีระบบต่าง ๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ประปา งานสี รวมไปถึงเครื่องจักรกลต่าง ๆ ซึ่งพระใบฎีกาประทีปฯ ก็ได้จัดหามาใช้ในวัด จนเป็นแหล่งที่จะสามารถหยิบยืมของ ท่านมาใช้อย่างไม่รู้จักหมดสิ้น และท่านเองก็ไม่เคยหวงห้าม ทำให้งานก่อสร้างต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

สำหรับประวัติการทำงานในช่วงเวลาต่าง ๆ พอสรุปเป็นสังเขป ได้ดังนี้.-


ปีพุทธศักราช ๒๕๒๗-๒๕๓๖ รับผิดชอบงานซ่อมรถทุกคันในโครงการศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ร่วมกับมูลนิธิหลวงพ่อปาน- พระมหาวีระ ถาวโร

ปีพุทธศักราช ๒๕๓๐-๒๕๔๕ เป็นหัวหน้าคณะในงานเครื่องปั่นไฟฟ้าทั้งวัด และระบบสายไฟ,ตู้ควบคุมไฟในบริเวณรอบวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร,ศาลา ๑๒ ไร่,ศาลา ๔ ไร่และอาคาร ๒๕ ไร่
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑-๒๕๓๒ ช่วยดูและจัดการ ร่วมกับพระยงยุทธฯ ในการผลิตและจัดจำหน่ายยาหม่องและน้ำมนต์ชาตรี

ปีพุทธศักราช ๒๕๓๒-๒๕๓๔ เป็นหัวหน้าคณะในงานระบบไฟฟ้าอุปกรณ์งานพ่นสี ที่อาคาร ๒๕ ไร่
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๒-๒๕๓๕ เข้ามานอนเฝ้าไข้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานฯ
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖-๒๕๕๓ เป็นหัวหน้าคณะในงานดูแลมณฑปและพระศพ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ในวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร
ปีพุทธศักราช ๒๕๔๓-๒๕๔๕ เป็นหัวหน้าคณะพระ ชุดก่อสร้างสำนักสงฆ์ป่าละอู จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ชีวิตบั้นปลาย

ประมาณปลายปี ๒๕๕๒ ท่านมีอาการไอบ่อยครั้ง ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้กราบนิมนต์ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ปรากฏผลตรวจพบจุดที่ปอด ๓ จุด

แพทย์ได้จัดยาถวายและท่านก็รักษาตัวเรื่อยมา ไม่นาน พบว่าบริเวณไหปลาร้าด้านขวา (ต่อมน้ำเหลือง)ได้ตรวจพบก้อนเนื้อเท่าหัวแม่มือ ท่านจึงไปพบแพทย์ที่ศูนย์มะเร็ง จังหวัดลพบุรี เมื่อทราบผลการวินิจฉัยโรคแล้ว คณะลูกศิษย์ที่กรุงเทพฯ จึงกราบนิมนต์เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช โดยเริ่มเข้าไปทำการรักษาเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ เรื่อยมา

เนื่องจาก การแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งปอดดำเนินไปค่อนข้างมาก ทำให้อาการของท่านยังไม่ดีเท่าที่ควร การเดินทางไปตรวจรักษาและรับยาก็ดำเนินไปอยู่เป็นระยะ ๆ ต่อมา ในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ท่านได้เดินทางไปพำนักที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช ตามกำหนดนัดในวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๔

แต่พอถึงวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ อาการของท่านทรุดหนัก จนคณะศิษย์ตัดสินใจนำท่านเข้าโรงพยาบาลศิริราชก่อนกำหนดนัด และท่านได้อยู่ในการดูแลของคณะแพทย์โรงพยาบาล ศิริราช นับตั้งแต่วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นมา

ในที่สุด ก็ถึงแก่มรณภาพลงในวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๑๐ น. ด้วยอาการสงบ รวมอายุ ๖๐ ปี ๓ เดือน ๖ วัน พรรษา ๓๖

◄ll กลับสู่สารบัญ



ระลึกถึงความดีหลวงพี่ประทีป



☻หลวงพ่ออยู่ที่ไหน...หลวงพี่ทีปอยู่ที่นั่น...
☻หลวงพ่อไปไหน...หลวงพี่ทีปไปด้วยเสมอ...
☻หลวงพี่ทีป รับใช้หลวงพ่อ ทุกที่...ทุกสถาน...
☻แม้ในส้วม!หลวงพี่ทีปก็ยังยืนรับใช้ข้างโถส้วม...(เวลาหลวงพ่อป่วยหนัก)

คืนหนึ่งที่บ้านสายลม

(ปกติเวลาหลวงพ่อนอนพัก หลวงพี่ทีปจะนอนเฝ้าหลวงพ่อหน้าห้องส้วมเสมอ)
...เวลาประมาณตีสอง...หลวงพ่อตื่นขึ้นมาเข้าห้องส้วม...หลวงพี่ทีปจะประคองหลวงพ่อเข้าส้วมเป็นปกติและเมื่อหลวงพ่อเสร็จธุระในส้วม หลวงพ่อกลับมานั่งที่เตียงนอน ...เป่ายานัตถุ์...ทีป...ขอน้ำพ่อหน่อย....

จากนั้น....หลวงพ่อพูดกับหลวงพี่ทีปว่า.....
☻เออ...ทีป! ถ้าพ่อตายพวกเอ็งต้องสามัคคีกันไว้นะลูก...
☻ถ้าพวกเอ็งแตกความสามัคคีกันเมื่อไร...พวกเอ็งก็จะอยู่วัดนี้ไม่ได้..
☻เราต้องปกครองกันเองตามที่พ่อตั้งไว้...

☻ถ้าพวกเอ็งแตกความสามัคคีกันเมื่อไร...พวกคนอื่นเขาก็จะเข้ามาปกครอง...
☻พวกเอ็งก็จะเดือดร้อน...ทุกสิ่งทุกอย่างพ่อจัดสรรไว้ให้หมดแล้ว...
☻จำไว้นะลูก...ต้องสามัคคีกัน. ...จากนั้นหลวงพ่อก็ล้มตัวลงนอน
วันนี้พอมีโอกาส...จึงขอถือโอกาสนี้ฝากบอกพี่น้องรุ่นหลัง ๆ ไว้ด้วยว่า..

.

“หลวงพ่อสั่งว่า...ให้พวกเราสามัคคีกัน ”


ฟ้าเอี้ยง
( 9 สิงหาคม 2554 )


◄ll กลับสู่สารบัญ



ขอระลึกถึง หลวงพี่ประทีป อัตถทัสสี (อินทร์พรหม) พระสุปฏิปันโน



ผมได้รู้จักกับหลวงพี่ประทีป ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ และได้อยู่ร่วมกันมาตลอดในช่วงระยะที่ผมอยู่ที่วัดท่าซุง หลวงพี่สอนทุกอย่างที่ผมไม่เคยทำในชีวิต เช่น ช่างทาสี สมัยนั้นใช้ปูนขาวหมัก นำน้ำปูนผสมสีแล้วทากำแพง ทาตึกอาคาร จนกระทั่งน้ำปูนกัดอกจนพรุนท่านก็สอนให้เอาน้ำมะนาวมาทาลดพิษ สอนให้เป็นช่างไฟฟ้า ช่างน้ำประปา จำได้ว่าศาลานวราชบพิตร ก็ได้ทาฝ้าเพดาน

หลวงพี่สอนเทคนิคทุกอย่าง ทำไป ด่าไป แล้วเรายังเป็นคู่หูที่เป็นต้นอธิกรณ์ หลาย ๆ เรื่อง (ซึ่งมีปรากฏในเทปที่หลวงพ่อเล่า) เช่น เรื่องถั่วเขียวต้มน้ำตาล เป็นต้น สมัยนั้นผมจำได้ว่าพระที่วัดจะมีงานทำกันเป็นคู่ ๆ เช่น หลวงพี่นันต์ กับหลวงพี่โอ ดูแลอาคารเสริมศรี (สถานที่ปฏิบัติธรรม) หลวงพี่อรัญกับหลวงพี่ประดิษฐ์ ดูแลศาลานวราช (การรับแขกของหลวงพ่อ)

ส่วนหลวงพี่ประทีป กับตัวผม เป็นพระที่ชอบทำงานกลางแจ้งกันมาก (เราเรียกคู่เราว่าพระกรรมกร) กลางวันทำงาน กลางคืนหลวงพี่ก็ไม่ค่อยจะนอน เพราะจะเดินตรวจตราวัดเพราะช่วงนั้นที่วัดเรามีปัญหามาก บางวันก็ไม่ได้นอนเลยก็มี แต่ในช่วงนี้บางคืนเราก็โชคดีมากที่หลวงพ่อเดินมาดู มาเยี่ยมและพูดให้กำลังใจ หลวงพ่อท่านจะนั่งที่หน้าบันไดศาลานวราช เราจะนั่งกับพื้น ก็นั่งรายงานตามที่ท่านถาม

หลวงพ่อจะยิ้มและมีเมตตามาก ต่างจากตอนรับแขกถ้าเราทำผิดจะโดนทั้งตะพด ทั้งด้ามที่พรมน้ำมนต์ ผมและหลวงพี่เคยคุยและรำลึกถึงช่วงนี้ หลวงพี่ก็จะมีน้ำตา ไหลซึมเพราะคิดถึงหลวงพ่อ หลวงพี่เป็นพระที่เคร่งครัดต่อคำสั่งหลวงพ่อมาก และก็ขี้น้อยใจเช่นกัน บางครั้งที่เหนื่อยก็จะนั่งบ่นกันสองคน ช่วงนั้นผมได้ปรึกษาหลวงพี่ว่าเราน่าจะตักอาหารที่บิณฑบาตได้นำไปถวายหลวงพ่อเพื่อบูชาพระคุณ

หลวงพี่เห็นดีด้วยและนำไปเรียนกับคณะสงฆ์ซึ่งก็ได้อนุญาตให้ผมทำ หลวงพี่และผมก็จะจัดสำรับอาหารที่บิณฑบาตได้ ใส่สำรับ ยกไปถวายหลวงพ่อที่ตึกทุกเช้า หลวงพี่ให้ผมเป็นคนนำประเคน เป็นช่วงที่เรามีความประทับใจช่วงหนึ่งเพราะมีโอกาสได้กราบหลวงพ่อทุกเช้า ต่อมาจำได้ว่าในช่วงพรรษาปี ๒๕๒๐ หลวงพี่กับผมได้สมาทานธุดงควัตร โดยสมาทานถือปฏิบัติการฉันในภาชนะเดียว และฉันอาสนะเดียว เป็นวัตรในช่วงเข้าพรรษา

เราจะตักของที่บิณฑบาตรมาได้ใส่บาตร แล้วก็ถือมาไว้ที่ศาลานวราช และจะเริ่มฉันกันตอน ๑๐ นาฬิกา วันแรกที่เราเริ่ม เรากินข้าวไปได้คำสองคำก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ เพราะเป็นวันแรกที่เรากินของรวมในบาตร รสชาดบอกไม่ถูก ชีวิตช่วงนั้นทำให้เรามีความรู้สึกที่ผูกพันเสมือนหนึ่งเป็นพี่และน้องกันจริง ๆ เป็นพี่น้องทางธรรม หลังจากนั้นผมมีเหตุที่ลาสิกขาออกไปตั้งแต่ปี ๒๕๒๑ ก็ห่างเหินจากวัดมาช่วงใหญ่

ผมได้กลับมาวัดอีกครั้ง ในปีแรก ๆก็ไม่มีอะไร ไป ๆ มา ๆ ได้กราบหลวงพี่เท่าที่มีโอกาส แต่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ราวเดือนสิงหาคม หลวงพี่มีอาการปวดต้นคอมาก ที่คอมีตุ่มเกิดขึ้นมีความเจ็บปวดมาก ต้องใช้ผ้าร้อนปะคบ แต่ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ก็ใช้ก้อนหินอบร้อนปะคบแทน อาการเจ็บปวดก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

ต่อมาผมได้คุยกับหลวงพี่ว่า หลวงพี่ประสงค์จะเดินทางไปรักษาที่ไหน ผมจะเป็นอุปฐากให้ ท่านก็ตัดสินใจไปโรงพยาบาลศิริราช โดยนัดพบกับพี่หมอวัฒนะ ฐิตะดิลก ซึ่งท่านก็ดูแลรักษามาด้วยดีตลอด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นมาช่วงหนึ่ง แต่ต่อมาก็เริ่มทรุดลง จนกระทั่งท่านละสังขารไป ยังความคิดถึงและอาลัยให้แก่คนข้างหลัง

ดวงจิตที่เห็นธรรมะของหลวงพี่


ผมต้องขอใช้คำว่าดวงจิตที่เห็นธรรมของหลวงพี่ เพราะเราไม่รู้ และบอกได้ว่าท่านบรรลุอริยมรรค อริยผลอย่างไร ได้แต่อธิบายอารมณ์ของจิตตามที่หลวงพี่ได้เล่าให้ฟัง

ปกติเวลาอยู่กับหลวงพี่ ผมไม่ค่อยได้พูดคุยเรื่องอื่น ๆ มากนัก นอกจากเรื่องของหลวงพ่อ และธรรมะ และอารมณ์การปฏิบัติ วันที่หลวงพี่เข้าถึงและดวงจิตเห็นแจ้งในธรรมนั้น หลวงพี่เล่าให้ฟังถึงอารมณ์แต่ละช่วงที่ต้องถูกทดสอบอย่างหนักเป็นเวลาหลายสิบปี ช่วงพรรษาที่สิบ เป็นช่วงที่ท้อมากอยากสึกที่สุด (ท่านบอกเห็นผู้หญิงสวยมาก...)

พอไปกราบหลวงพ่อจะขอสึกโดนตะพดเข้าเต็มแรงก็กลับมาคิดว่าทำไมคนอื่น ๆ ยอม แต่ท่านไม่ยอมให้สึก เราก็คุยกันว่าเพราะหลวงพ่อรู้ว่าอนาคตใครจะเป็นอย่างไร ใครมีบทบาทภาระใดที่ต้องทำ เราภูมิใจที่ได้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ เราดีใจที่ได้เป็นสหมิกธรรม เพศ (สงฆ์ และฆราวาส) มิใช่ตัวขีดคั่น

ถ้าเรารู้แนวทางการปฏิบัติและนำคำสอนที่หลวงพ่อสอนมาเป็นวัตร หลวงพี่เล่าว่าทนทรมานกับช่วงที่จิตตกโดยเฉพาะในช่วงที่สิ้นหลวงพ่อ นึกท้อใจเพราะทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักที จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่หลวงพี่นั่งรับแขกที่วิหาร ๑๐๐ เมตร

ผมจำปีไม่ได้ (ประมาณปี ๒๕๔๗-๒๕๔๙)
หลวงพี่เล่าว่าขณะที่นั่งรับแขก ก็ฟังเทปหลวงพ่อไปด้วย วันนั้นจิตว่างและปล่อยจิตคิดตามคำสอนหลวงพ่อ ทันทีนั้นจิตก็เห็นนิมิตร เห็นพื้นที่ห้องรับแขกเปลี่ยนไปเป็นป่า พบองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าประทับนั่งเทศน์ให้แก่พระภิกษุ ท่านกราบและฟังคำเทศน์นั้น ท่านได้เห็นถึงคำสอนเป็นนิมิตรให้เห็นว่าทุกอย่างถูกรวมมาเป็นศูนย์กลางในกาย

เห็นนิมิตรทุกอย่างแสดงให้เห็นทุกข์ของการเกิดและดับ เป็นอนิจจา เป็นศูนย์กลางจากกายออกไปสู่สรรพสิ่งโดยรอบ ท่านบอกว่าก็เพียงเท่านี้ไม่มีสิ่งใดอีกที่ต้องยึดแล้ว เพราะทุกอย่างเป็นอนัตตา หลวงพี่บอกผมว่าสอนคนไม่เป็น แต่ถ้าใครถามตรงจุดหลวงพี่จะมีคำอธิบายธรรมะมาให้เห็นตลอด ซึ่งครอบครัวของผมได้พบและประสบเหตุการณ์หลาย ๆ ครั้งระหว่างที่ท่านมาพักรักษาตัว

หลวงพี่เป็นพระที่อุทิศตนเพื่อพุทธศาสนามาโดยตลอด และเป็นพระนักพัฒนาองค์หนึ่ง ซึ่งได้ดูแลงานของวัดมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลวงพ่อเคยบอกว่าวิมานของท่านทีปใหญ่โตและสว่างไสวกว่าศิษย์ของท่านทุกคน

ช่วงป่วยและละสังขาร


หลวงพี่เริ่มป่วยหนักและเข้า ๆ ออกโรงพยาบาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นมา ระหว่างที่ป่วย มีหลายเรื่องที่ทั้งขำ และเป็นคำสอนที่มีประโยชน์ เช่น วันหนึ่งพี่หมอวัฒนะบอกผมบอกหลวงพี่ว่า ให้ขึ้นไปกราบขอพรจากหลวงปู่วงศ์ เพราะหลวงปู่วงศ์ลงมาสงเคราะห์ และลดอาการทางกายให้

ผมจัดเตรียมดอกไม้ ธูปเทียนให้ แล้วก็นิมนต์หลวงพี่เข้าห้องพระ พอตอนเช้าก็ถามหลวงพี่ว่าได้ไปกราบหลวงปู่ไหม หลวงพี่ยิ้มบอกไป แล้วเลยไปนั่งคุยกับโคล่า เสียนาน ผมก็เลยแกล้งแหย่บอกให้ไปพบหลวงปู่ยังแอบย่องไปคุยกับเทพบุตรหมาจนได้ ท่านก็หัวเราะ

ระหว่างป่วย ท่านก็ยังรักษาพระวินัยที่เคร่งครัดมาก จนญาติโยมที่ผมพามาให้รู้จัก และใกล้ชิดท่าน ก็รักท่านทุกคน โดยเฉพาะหลวงพี่เป็นพระที่เกรงใจโยมมาก ถ้าใครรู้จักจะรู้ว่าท่านมีน้ำใจมาก เห็นคนเดือดร้อนไม่ได้ ต้องเข้าไปช่วยทันที ท่านบอกผมความภูมิใจหนึ่งของท่าน คือการสร้างคนให้มีความรู้

ท่านภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา สำนักที่ป่าละอู ท่านภูมิใจในกิจการที่ท่านสร้างให้เด็กทำ คือ ยาหม่อง ที่สามารถนำมาเป็นรายได้ให้แก่โรงเรียน หลวงพี่เกรงใจทุกคนที่มาผู้อุปฐากท่าน ผมได้แต่กราบท่าน บอกพวกผมไม่ต้องการอะไรจากหลวงพี่ ที่ปรนนิบัติท่านเพื่อทดแทนที่หลวงพี่ที่ได้ปรนนิบัติหลวงพ่อที่พวกผมไม่มีโอกาส

และพวกผมขอโมทนาบุญกุศลที่หลวงพี่ได้ดูแลหลวงพ่อทุกประการหลวงพี่หัวเราะแล้วพูดด่าเล่นว่า มึงไม่งกเลยนะ มาทีเดียวเอาบารมีที่กูทำทั้งชีวิตไปหมดเลย แล้วก็หัวเราะ

วันที่หลวงพี่สิ้น พี่หมอวัฒนะบอกผมว่าไม่ยื้อแล้ว พี่หมอวัฒนะบอกผม หลวงพี่ไปดี เบื้องบนเตรียมรับไว้ดีแล้ว ไม่ต้องห่วง ท่านบอกมีนิมิตรหลวงปู่วงศ์มาโปรดลดเวทนาให้ หลวงพี่ได้อาเจียนออกมาเป็นโลหิต อาการทางกายก็ทุเลาไม่เจ็บปวด ผู้ที่เฝ้าตอนหลวงพี่ตอนช่วงใกล้ละสังขารจะเห็นความผ่องใสของท่าน แล้วท่านก็ละสังขารไปด้วยอาการสงบ ได้ไปสู่สุคติตามบารมีที่หลวงพี่ ได้สร้างไว้

วันนี้แม้ว่าหลวงพี่ได้ละสังขารไปแล้ว ไปยังสถานที่ที่หลวงพี่ประสงค์และตั้งจิตไว้ แม้ว่าเราจะรู้ว่าท่านไปดีแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงและอาลัยถึงหลวงพี่ เพราะท่านเป็นพระองค์หนึ่งที่ผมคิดว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ที่ผมกราบได้ด้วยใจและด้วยความเคารพยิ่ง


ดร.สมเจตน์ ประทุมมินทร์
นักวิชาการเกษตรทรงคุณวุฒิ (นักวิชาการเกษตร ๑๐ ชช.)
หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญ กรมวิชาการเกษตร
๘ สิงหาคม ๒๕๕๔


◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 9/8/11 at 16:20 [ QUOTE ]


03

สวดอภิธรรม วันที่ 5 - 6 สิงหาคม 2554




สวดอภิธรรมวันที่ 5 สิงหาคม 2554















สวดอภิธรรมวันที่ 6 สิงหาคม 2554
















































สวดอภิธรรมวันที่ 8 สิงหาคม 2554























ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 12/8/11 at 15:09 [ QUOTE ]


04

ชมภาพหลากหลายอริยบท “พระใบฏีกาประทีป อตฺถทฺสสี”









































◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 16/8/11 at 15:52 [ QUOTE ]


05

ชมภาพวันฌาปนกิจศพ พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี


วันที่ 13 สิงหาคม 2554










ภาพการเตรียมเมรุและจัดสถานที่

ภาพการบวชเณรหน้าไฟ

ภาพการสวดมาติกา

ภาพการทำบุญกล่าวไว้อาลัย

ภาพการเคลื่อนศพสู่เมรุ

ภาพการฌาปนกิจ

ภาพการประชุมเพลิง

ภาพการเก็บกระดูกและทำบุญ


◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top