Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 29/6/08 at 20:08 [ QUOTE ]

บริเวณที่นั่งใต้ต้นโพธิ์ ฝั่งโบสถเก่า






ความเป็นมาของพระองค์ที่ ๑๐

โดย..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลายสำหรับตอนนี้ก็มาคุยกันถึงเรื่องของงาน จะเล่าสู่กันฟังว่าพระที่นิมนต์มาในงานจริงๆ จำนวนทั้งหมดรวมแล้ว ๖๒ องค์ พระอาคันตุกะ ๙๒ องค์ แล้วก็ พระองค์ที่ ๑๐ นี่อีก ๑ องค์ พระองค์ที่ ๑๐ นี่เป็นใครขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอ่านแล้วก็ควรเข้าใจ หรือว่าท่านผู้ใดไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจกันต่อไป ท่านผู้ใดเข้าใจแล้วก็เขาใจต่อไป ถ้าจะถามว่าที่พูดนี่รวนหรือ ความจริงเรื่องรวนเป็นของดี เพราะว่ารวนแล้วเนื้อก็ย่อมสุก แล้วเนื้ออ่อนยุ่ย เอามาแกงกินได้สบาย คือรวนเนื้อเพื่อแกง แต่ว่าเรื่องรวนตานี้ไม่ใช่เรื่องเนื้อ เป็นการรวนความเข้าใจ


ถ้าอธิบายให้ท่านพุทธบริษัทฟังว่า พระองค์ที่ ๑๐ เป็นใครจริงๆ

อาตมาก็ขอยืนยันว่าจะมีพระและฆราวาสลงนรกหลายคนและก็จะมีพระและฆราวาสจะไปนิพพานเร็วก็หลายคน ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่พูดเลยดีกว่า ก็จะเหมือนตัวอย่างเหมือนเช่นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เวลานั้นพระเจ้าประเสนทิโกศลถวาย อทิสสทานพอถวายแล้วองค์สมเด็จพระพิชิตมารให้พรนิดเดียวแล้วก็เสด็จกลับพระเจ้าประเสนทิโกศลก็ตามไปถึงวัดไปทวงพระพุทธเจ้าบอก "ให้ทานไปตั้งเยอะแยะแล้วทำไมถึงให้พรนิดเดียว" พระพุทธเจ้าบอกว่า "ถ้าจะให้พรยาวอำมาตย์คนหนึ่งจะหัวแตก ๗ เสี่ยง แต่ว่าอำมาตย์อีกคนหนึ่งจะเป็นพระโสดาบัน" เมื่อเห็นอันตรายกับคนบางคนประเภทนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์มีพระเมตตาจึงให้พรนิดเดียว

ฉะนั้นเรื่องพระองค์ที่ ๑๐ นี่ก็เหมือนกันท่านอาจจะมีรูปร่างเหมือนพระองค์ใดองค์หนึ่งที่ท่านทั้งหลายรู้จัก และก็คนที่มากับท่าน ๓ คนอาจจะมีรูปร่างเหมือนกับใครคนใดคนหนึ่งที่ท่านรู้จัก และต่อไปบางท่านอาจจะโมเมว่าพระองค์ที่ ๑๐ คือองค์นั้น หรือคนนั้น แต่ว่ายืนยันว่า พระองค์ที่ ๑๐ นี่อาตมาพบเมื่อไปที่ซอยสายลม

พระองค์ที่ ๑๐ องค์นั้นท่านบอกว่า "วันนั้นฉันจะไป แล้วก็จะไปอายุประมาณ ๓๐ ปี ผิวเนื้อคล้ำ" แล้วต่อมาอีก ๔ วัน จะถึงวันงานพบกับท่านอีกท่านบอกว่า "จะเอาตำหนิตรงไหนดีที่คิ้วหรือที่โหนกแก้ม" ก็เลยกราบเรียกท่านว่า "ตรงไหนก็ได้" เป็นอันว่าพระองค์ที่ ๑๐ ที่นั่งอยู่โคนต้นโพธิ์ก็เป็นอย่างงั้นเสียจริงๆ

ถ้อยคำของท่านเต็มไปด้วย สัจธรรม และก็เป็นถ้อยคำง่ายๆ คล้ายที่พระพุทธเจ้าทรงสอน แต่ลีลาการพูดของท่าน ถึงแม้เสียงจะไม่เหมือนพระพุทธเจ้าตรง เพราะท่านมาในลีลานั้น ท่านองค์นี้ชื่ออะไร อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ พระองค์ที่ ๑๐ นี่ แต่ทว่าลีลาการพูดของท่าน มีทั้งการรื่นเริงแล้วก็ธรรมะ

การพูดธรรมนี่เขาต้องพูดอย่างนั้น ไม่ใช่พูดจิตใจเศร้าหมองนั่งซึมกระทือ หลับเป็นแถวๆ นั่นมันไม่ใช่พระ เป็นนักพูดส่งเดช มีหน้าที่พูดอย่างเดียวใครจะฟังรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็ช่าง ก็ตะบันพูดไปอย่างเดียว พวกนี้พวกเปรต

(โปรดติดตามตอนต่อไป)


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top