Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 1/3/13 at 18:27 [ QUOTE ]

เล่าเรื่อง..งานพิธีบวงสรวงฉลอง "ฉัตร" พระธาตุดอยตุง เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556


งานพิธีบวงสรวงฉลอง "ฉัตร" พระธาตุดอยตุง

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556


คลิปวีดีโอ...พิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง



ภาพ...บรรยากาศพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง




นับเป็นเวลานานหลายปีที่รอคอย ณ บัดนี้ พวกเราเหล่าคณะศิษยานุศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จะได้สมความปรารถนาเสียที ในเมื่อรอเวลาตามกำหนดการที่จะถึงวันนี้ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้กลับมาเยือนถิ่นเกิดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเคยมีอดีตกาลกัน ณ สถานที่นี้ จะเป็นสมัย "พระเจ้าพรหมมหาราช" ผู้สร้างพระธาตุจอมกิตติ หรือสมัย "พระเจ้ามังรายนราช" ก็ตามที่เป็นผู้สร้างพระธาตุดอยตุงแห่งนี้


(หลุมคันตุงใหญ่มีมาตั้งแต่สมัยพระมหากัสสป คือมีมาตั้งแต่สมัยต้นพุทธกาลแล้ว
ไม่ใช่มีเมื่อ พ.ศ.๑๔๕๔ อย่างที่เขียนป้ายไว้ ไม่ทราบว่าใครมาเขียนป้ายให้คนสับสน)

ในตอนเช้าวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ มีการนัดพบกันว่าจะทำพิธีบวงสรวง เวลา ๙.๓๐ น. มีหลายคณะที่ได้ขึ้นมาค้างคืน ณ วัดพระธาตุน้อย (ใกล้พระธาตุดอยตุง) โดยเฉพาะคณะหลวงพ่อโอ ซึ่งมีคณะหลวงพี่พระปลัดสมนึก พร้อมคณะพระสงฆ์วัดท่าซุงและฆราวาสได้เดินทางมาล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อจัดเตรียมสถานที่และจัดทำบายศรีนับตั้งแต่ที่พระธาตุจอมกิตติ ทั้งนี้พระสงฆ์ที่มาจากวัดท่าซุง เป็นคณะที่รับช่วงต่อจากคณะของหลวงพี่ชัยวัฒน์ ซึ่งสมัยก่อนท่านก็ต้องมาเตรียมการล่วงหน้าไว้ก่อนเช่นนี้มานานหลายปี ส่วนบายศรีสมัยก่อนจัดทำโดยคณะคุณป้าน้อย จังหวัดเชียงราย


ด้วยเหตุนี้ เมื่อคณะของหลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ เดินทางมาถึง จึงได้รับความสะดวกทุกประการ ทั้งสถานที่นั่งและสถานที่จอดรถ โดยเฉพาะโต๊ะบายศรีมีการจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ซึ่งเข้ากับบรรยากาศในตอนเช้า ที่มีหมอกสลัวๆ เหมือนกับตอนหน้าหนาวเดือนมกราคม ที่พวกเราเคยเดินทางกันมาทุกปี


นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ที่บรรยากาศเช้านี้เหมือนกับตอนนั้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว เมื่อวันก่อนหน้านี้กลางวันอากาศจะร้อนจัดมาก ทุกคนรู้สึกดีใจต่างก็ยิ้มแย้มทักทายกัน บริเวณลานพระธาตุดอยตุงดูกว้าง มีการรื้อศาลาออกไป โดยเฉพาะหลุมที่ฐานองค์พระธาตุด้านข้าง ได้มีการปรับพื้นที่เสมอกันแล้ว ทำให้สามารถเดินเวียนเทียนได้โดยสะดวก


ขณะนี้มีพวกเราเริ่มทะยอยเดินทางมาถึง บางคนก็แวะทานข้าวต้มเช้าที่วัดพระธาตุน้อยด้านล่าง บางคนเสร็จแล้วก็จอดรถไว้แล้วเดินขึ้นมา มีหลายคนที่แต่งกายในชุดล้านนาสวยงาม บางคนก็แต่งธรรมดา เพราะไม่ได้นัดหมายกันเป็นทางการ แต่ความจริงก็ได้พยายามประกาศในทางเว็บไซด์แห่งนี้ก่อนแล้ว


ก่อนที่จะเล่าเรื่องต่อไป อยากจะย้อนเหตุการณ์ตอนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกฉัตร เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ โดยก่อนหน้านั้นมีฝนตกมีลูกเห็บตกลงมาทางภาคเหนือตอนบนจนเป็นข่าวโดยทั่วไปแล้วนั้น ผู้เล่าขอนำคลิปวีดีโอมาให้ย้อนดูกันก่อน


......วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 13.30 น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานประจำอุโบสถ จากนั้น ทรงประกอบพิธียกฉัตรเจดีย์พระธาตุดอยตุง ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายครั้ง เมื่อครั้งครูบาศรีวิชัยได้บูรณะเมื่อปี 2470 ถึง 2473

ต่อมากรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ ภายใต้โครงการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์วัดพระธาตุดอยตุง เมื่อปี 2549 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในการนี้ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมที่กำพูฉัตร ซึ่งพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันจัดทำขึ้นเป็นศิลปะล้านนา เพื่อให้มีความสง่างามสมกับพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย

พระธาตุดอยตุง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนคร ซึ่งคืออำเภอแม่จันในปัจจุบัน ซึ่งพระมหากัสสปะเถระ ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือ กระดูกไหปลาร้า มาถวาย จึงได้สร้างพระสถูปเป็นที่ประดิษฐานและให้ทำตุงยาว 3000 วา ปักที่ยอดเขา เมื่อตุงปลิวไปถึงที่ใด ก็ให้กำหนดเป็นฐานพระสถูป โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะเชียงแสนย่อมุมไม้สิบสองคล้ายพระธาตุดอยสุเทพ

ต่อมาพระเจ้ามังรายนราช ได้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระมหาวชิรโพธิเถระ มาถวายขึ้นอีกองค์หนึ่งตั้งอยู่เคียงกัน จึงทำให้เห็นว่ามีเจดีย์ 2 องค์ ณ พระธาตุดอยตุงนี้ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป


ที่มา - http://nntworld.prd.go.th


ก่อนที่จะถึงหมายกำหนดงานพิธียกฉัตร ทางวัดพระธาตุดอยตุง โดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระพุทธิวงศ์ววัฒน์ เจ้าคณะอำเภอแม่สาย และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ได้ทำการปิดทองคำเปลวใหม่ทั้ง ๒ องค์ พร้อมกับเตรียมจัดสถานที่ให้สวยงาม ซึ่งมีหลวงพี่พระปลัดสมนึก และ หลวงพี่พระสมุห์มงคลเวทย์ จากวัดท่าซุงเป็นผู้ประสานงาน มีญาติโยมฝากร่วมทำบุญปิดทองไปด้วยจำนวนเงินนับหมื่นบาท ส่วนหลวงพี่ชัยวัฒน์ก็ได้ร่วมทำบุญครั้งนี้ จำนวนเงิน ๕,๐๐๐ บาท





หลังจากประดับดอกไม้อย่างสวยงามแล้ว ปรากฏว่าก่อนงานเพียงวันเดียว ลูกเห็บได้ตกลงมาอย่างหนัก
(ตามที่ได้เห็นภาพด้านล่างนี้)




พระบรมฉายาลํกษณ์สมเด็จพระเทพฯ ได้จัดทำไว้อย่างสวยงามและสมพระเกียรติ



ทางสำนักงานเลขาธิการในสมเด็จพระเทพฯ ก็ได้เดินทางมาเตรียมจัดสถานที่รับรอง




องค์พระธาตุปิดทองใหม่เสร็จแล้วทั้งสององค์ (จึงห้ามปิดทองและสรงน้ำ)


คณะกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ พร้อมด้วยคณะศิษย์ส่วนหนึ่งได้เดินทางไปร่วมพิธียกฉัตรในครั้งนี้ด้วย ต่อไปก็ขอเล่าเรื่องวันงานที่ ๑๗ ก.พ. ว่าขณะนี้พระสงฆ์และญาติโยมทุกคนก็เริ่มทยอยขึ้นมาบนองค์พระธาตุ เพื่อได้มองดูความสำเร็จและความสวยงามให้ชื่นใจ


ก่อนที่จะเริ่มพิธีบวงสรวง หลวงพี่ชัยวัฒน์ได้ชักชวนญาติโยมช่วยกันถวายผ้าตุงที่หลุมใหญ่ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยที่ "พระมหากัสสป" ท่านมาอธิษฐานปักผ้าธงผืนใหญ่ไว้เหนือยอดเขาแห่งนี้ ชาวบ้านเห็นผ้าธงบนยอดดอย จึงเรียกว่า "ดอยตุง" มาตั้งแต่บัดนั้น


เมื่อได้เวลาตามกำหนดการแล้ว หลวงพ่อท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล เจ้าอาวาสวัดท่าซุง จึงได้เริ่มทำพิธีบวงสรวง แล้วทำพิธีกล่าวคำ "วันทาใหญ่" เพื่อขอขอมากรรม และสวดอิติปิโส คาถาเงินล้าน นั่งสมาธิประมาณ ๕ นาที แล้วจึงได้เดินไปสรงน้ำและโปรยดอกไม้โดยรอบ




ขณะนี้ทางวัดกำลังจะสร้างรั้วรอบองค์พระธาตุด้านใน เพื่อป้องกันมิให้องค์พระธาตุเสียหาย จึงได้เขียนป้ายห้ามปิดทองและสรงน้ำ พวกเราจึงต้องห่มผ้าสไบทองและสรงน้ำกันที่ขอบรั้วด้านนอก


ช่วงนี้บรรยากาศเย็นสบายจริงๆ ลมพัดผ่านในขณะทำพิธีบวงสรวง เหมือนจะรับรู้รับทราบถึงความตั้งใจในความสำเร็จของพวกเราในครั้งนี้ ที่ได้รอเวลามานาน มีทั้งอุปสรรคนานัปการ กว่าจะได้มาถึงวันนี้ได้ พวกเราจึงมีความปลื้มปีติยินดี ท้องฟ้าก็คราคร่ำด้วยเมฆหมอก เหมือนกับประกาศการเป็นสักขีพยานในการสักการบูชาของพวกเราในครั้งนี้


ก่อนจะเสร็จพิธี หลวงพ่อโอได้เดินประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่พวกเราจนรอบองค์พระธาตุ ต้องขอขอบพระคุณและอนุโมทนาในความเมตตาของท่านในครั้งนี้ และก่อนจะเลิกงานหลวงพี่ชัยวัฒน์ได้ประกาศว่า ท่านย่าเคยสั่งลูกหลานผ่านพระเดชพระคุณหลวงพ่อไว้ว่า ถ้าลูกหลานจะมากราบไหว้สถานที่แห่งนี้ควรจะนุ่งผ้าถุง


ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้บอกให้พวกเราแต่งกายชุดล้านนาในปีหน้า ส่วนหลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ ก็หยอกล้อพวกเราว่า ให้เตรียมไว้ทั้งสองวันเลยนะ คือทั้งที่พระธาตุจอมกิตติและพระธาตุดอยตุง แล้วอย่าลืมเตรียมดอกไม้ไหวมาด้วยนะ แหม..ในเมื่อท่านพูดอย่างนี้ ภายหลังได้ยินพวกเราพูดกันมาคงจะเตรียมกันมาในงานหน้ากันแล้วละ


แต่ต้องไม่ลืมว่า หลวงพี่ได้สั่งไว้ว่าเราไม่ได้แต่งมาเพื่อจะอวดกัน แต่เราแต่งเพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัย ส่วนคนไหนไม่สะดวกก็แค่นุ่งผ้าถุงให้เรียบร้อยก็พอแล้วค่ะ ขออนุโมทนาทุกท่านที่ได้ร่วมเดินทาง และที่ไม่สามารถจะเดินทางไปได้ หากการเล่าผิดพลาดพลั้งไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

 ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 7/3/13 at 11:15 [ QUOTE ]


ข่าวในพระราชสำนัก

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556



เวลา 13.26 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงยกฉัตรเจดีย์พระธาตุดอยตุง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย


......เวลา 09.21 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในการนี้ทรงวางพุ่มดอกไม้ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมสมเด็จย่า ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2554

ซึ่งในปีนี้สภามหาวิทยาลัยได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาจีน แด่สมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้น ได้พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ, รางวัลเชิดชูเกียรติตุงทองคำแก่ผูเทำคุณประโยชน์ต่อหมาวิทยาลัยฯ สังคมและประเทศชาติ, เข็มเกียรติคุณผู้สนับสนุนการก่อตั้งศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และเหรียญรางวัลเกียรติยศผู้มีการเรียนดีเด่น ก่อนจะพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจำนวน 1,860 คน

โอกาสนี้ มีพระราโชวาทความว่า "ความเจริญมั่นคงของสังคมและชาติบ้านเมือง ย่อมเกิดจากปัจจัยหลายอย่างประกอบส่งเสริมกัน แต่ปัจจัยสำคัญที่สุด คือ ทรัพยากรบุคคลที่ดีมีคุณภาพ ด้วยเหตุนี้ ทุกประทศจึงจำเป็นต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความรู้ในหลักวิชา และมีความสามารถที่จะนำความรู้ไปปรับใช้ในกิจการงาน ตลอดจนสามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างผาสุกราบรื่น บัณฑิตที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้

ถือได้ว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของชาติบ้านเมือง เพราะทุกคนได้ผ่านการศึกษาอบรมมาด้วยแล้วดีทั้งโดยทางตรง และทางอ้อม ทางตรง คือการเรียนรู้จากครูที่ได้อยู่ร่วมกับผู้อื่นทั้งในมหาวิทยาลัยและในชุมชน หากแต่ละคนจะได้ตั้งใจพยายามนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรียนรู้ทั้งนี้ไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต และประกอบกิจการงาน ก็มั่นใจได้ว่า บ้านเมืองเราจะมีความผาสุกมั่นคงและเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นตลอดไป

ในตอนบ่าย เสด็จพระราชดำเนินพระไปพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานประจำอุโบสถ จากนั้นทรงยกฉัตรเจดีย์พระธาตุดอยตุง ซึ่งได้รับการบูณาปฏิสังขรณ์มาหลายครั้ง โดย "ครูบาศรีวิชัย" ได้บูรณะเมื่อปี 2470-2473 ต่อมากรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ภายใต้โครงการบูรณะ และปรับปรุงภูมิทัศน์วัดพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักดอยตุง ในการนี้ราษฎรชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่อง มาจากพระราชดำริสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานอาชีพ เจ้าหน้าที่โครงการและข้าราชการ เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินมาประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุงในครั้งนี้

เวลา 14.30 น. เสด็จออก ณ พระตำหนักดอยตุง พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายแพทย์ชัยชาญ ธเนศสกุลวัฒนา นายกสมาคมนิสิตศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยลัย จังหวัดเชียงราย นำคณะกรรมการและสมาชิกสมาคมฯ เฝ้าทูลพระละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลประจำปี 2555 ของสมาคม โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

นายอนุภาส ปฏิเสน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะสมาชิกและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านด้าย อำเภอแม่สายนายกเทศมนตรีตำบลสายน้ำคำ อำเภอแม่จัน เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย


ขอขอบคุณ - news.ch7.com


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top