Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 21/2/18 at 14:16 [ QUOTE ]

(คลิปวีดีโอ-เจ้าอาวาสองค์ใหม่เผยใจเป็นครั้งแรก) พิธีมอบตราตั้งเจ้าอาวาสวัดท่าซุง วันที่ 21 ก.พ.2561


สารบัญ (เลือกคลิกที่รายการ)

01.
ตอนที่ ๑
02. ตอนที่ ๒
03. ตอนที่ ๓
04. ตอนที่ ๔ ภาพ..พิธีมอบตราตั้ง



พิธีมอบตราตั้งเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง)
ณ มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ศาลา ๑๒ ไร่)
วัดจันทาราม (ท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
วันพุธที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑


(ถ้าไม่ได้ยินเสียง กรุณาเปิด "ปุ่มเสียง" ที่เครื่องเล่นด้วย)

พระครูปลัดสมนึก เจ้าอาวาสองค์ใหม่ เปิดเผยความในใจ
พระอาวุโสให้โอวาทแก่พระสงฆ์วัดท่าซุง
พิธีมอบตราตั้งเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง)
พระชัยวัฒน์ กล่าวขอบคุณพระมหาเถรานุเถระ
ท่านเจ้าคุณวัดสระเกศฯ กล่าวสัมโมทนียกถา

@ ตอนที่ ๑
(อัพเดท ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑)


เวลา ๑๗.๓๐ น. - พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าคณะภาค ๑๐ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ประธานในพิธี และพระเถรานุเถระที่กราบอาราธานามาร่วมพิธี เดินทางมาถึงในบริเวณงาน

เวลา ๑๘.๓๐ น. - พระสงฆ์ที่อาราธนาเจริญชัยมงคลคาถา จำนวน ๑๖ รูป เข้าประจำที่อาสนสงฆ์
- พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ ประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วเข้านั่งประจำที่
- นายประทีป หอมจรรยา เลขามูลนิธิหลวงพ่อปาน -พระมหาวีระ ถาวโร อ่านตราตั้ง เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จบแล้ว พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา

- พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ ประธานในพิธี มอบตราตั้งเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) แด่ พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ

- ตัวแทนคณะศิษย์เข้าถวายถวายเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์ที่อาราธนาเจริญชัยมงคลคาถา
- พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่ประธานในพิธี พระสงฆ์ที่เจริญชัยมงคลคาถา และพระเถรานุเถระที่กราบอาราธานามาร่วมพิธี

- พระทนงศักดิ์ พิธีกรกราบอาราธนา พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ ประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา มีใจความโดยย่อว่า

สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้พบปะสนทนากับ พระเดชพระคุณเจ้าประคุณหลวงพ่อ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" วัดสระเกศฯ อยู่เสมอ อีกทั้งหลวงพ่อฤาษียังได้บอกลูกศิษย์ว่า ถ้าท่านมรณภาพไปแล้วให้ไปกราบ "หลวงพ่อสมเด็จวัดสระเกศ" ด้วย

- หลังจากนั้น พระอาจารย์ชัยวัฒน์ อชิโต ผู้ช่วยอดีตเจ้าอาวาส กล่าวขอบคุณพระเถรานุเถระ มีใจความดังนี้



(ขอบคุณภาพจากเฟซคุณ nualsasi pu)

.....ขอกราบถวายความเคารพเป็นอย่างสูง แด่พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ, พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี, พระเดชพระคุณพระธรรมปริยัติโมลี, และพระสังฆาธิการจังหวัดอุทัยธานี อันมี พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ เจ้าคณะจังหวัด, เจ้าคณะอำเภอ, รองเจ้าคณะอำเภอ, เจ้าคณะตำบล

กระผมพระชัยวัฒน์ อชิโต ผู้ช่วย อดีตเจ้าอาวาส ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล และในนามพระอาวุโสของวัดท่าซุง อันมี พระครูสังฆรักษ์สุรจิต รองเจ้าอาวาส, พระครูสมุห์พิชิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาส, พระครูภาวนาธรรมนิเทสก์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

ขออนุญาตกราบเรียนให้ทราบว่า วัดท่าซุงมีโครงสร้างการบริหารโดย “คณะกรรมการสงฆ์” ที่ได้รับการแต่งตั้งมาตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อ "พระราชพรหมยาน" มีชีวิตอยู่

ปัจจุบันนี้ก็มีการแต่งตั้งเพิ่มเติม เพื่อทดแทนกรรมการสงฆ์รุ่นเก่าที่ได้มรณภาพไปบ้าง และเวลานี้พระอาวุโสส่วนใหญ่ก็มีสุขภาพไม่ค่อยดี

ในขณะที่ท่านเจ้าคุณ "พระราชภาวนาโกศล" อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น จึงได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการสงฆ์ขึ้น ก่อนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ เพื่อพิจารณาหาบุคคลที่จะรับช่วงเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อสนองเจตนารมณ์ของ ท่านเจ้าคุณ "พระราชภาวนาโกศล" ที่มีความประสงค์จะแต่งตั้งพระในวัดท่าซุง ที่มีความขยันขันแข็ง และมีความประพฤติอยู่ในระเบียบวินัย

จึงเห็นสมควรที่จะแต่งตั้งให้ พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส เป็นลำดับไป ทั้งนี้ ในที่ประชุม “คณะกรรมการสงฆ์” ๒๐ กว่ารูป ทุกท่านต่างก็มีความเห็นชอบตรงกันทุกรูปเป็นเอกฉันท์

พร้อมทั้งทำเอกสารและเซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐาน ตามหนังสือ “พินัยกรรม” ของท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศลไว้ดังนี้ว่า


"...หากข้าพเจ้ามรณภาพลง ขอให้แสดงเจตจำนงของข้าพเจ้าต่อเจ้าคณะปกครองทางคณะสงฆ์ว่า พระครูปลัดสมนึก ฉายา สุธมฺมถิรสทฺโธ อายุ ๕๒ ปี พรรษา ๒๘

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดจันทาราม (ท่าซุง) เป็นผู้มีความสามารถ และมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดท่าซุง แทนข้าพเจ้า

และให้มีอำนาจในการทำหน้าที่บริหารกิจการคณะสงฆ์ภายในวัดท่าซุง, อำนาจในการเบิกจ่ายงบประมาณ หรือการทำธุรกรรมกับธนาคาร และอำนาจหน้าที่อื่นๆ ของเจ้าอาวาส ตามระเบียบการปกครองของคณะสงฆ์ แทนข้าพเจ้าทุกประการ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.."


....หลังจากนั้นก็ได้มีการทำหนังสือบันทึกการประชุม เลขที่ วท๐๔/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ เสนอต่อเจ้าคณะตำบล, เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด เพื่อขอแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าวาส โดยอ้างเอกสารคำสั่งเจ้าอาวาส วัดจันทาราม (ท่าซุง) เลขที่ วท๐๓/๒๕๖๐

ต่อจากนั้นก็มีการอนุมัติให้ "พระครูปลัดสมนึก" ได้ปฏิบัติงานแทนตามความประสงค์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๐ จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

หลังจากนั้น วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น “ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดท่าซุง” จากพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

บัดนี้ ทางคณะสงฆ์วัดท่าซุง และญาติโยมพุทธบริษัท อันมีคณะกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ที่มาร่วมประชุมอยู่ ณ ที่นี้ หรือที่รอคอยฟังข่าวการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่อย่างเป็นทางการ

คงจะปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความเมตตาของพระเถรานุเถระทั้งหลาย ที่ได้กรุณาอุปภัมภ์ค้ำจุนวัดท่าซุงด้วยดีตลอดมา จึงได้อุตส่าห์เสียสละเวลาเดินทางมาด้วยตนเอง

เพื่อมอบความสุขความสำเร็จสมความปรารถนา ให้แก่บรรดาลูกหลานหลวงพ่อพระราชพรหมยาน และคณะศิษย์ของท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล

เปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมจิตใจให้กลับมาแจ่มใสกันอีกครั้ง ซึ่งพวกเราจะได้ร่วมแรงร่วมใจกันด้วยความรักความสามัคคี

เพื่อที่จะช่วยกันจรรโลงวัดท่าซุงให้เจริญมั่นคงตลอดไป จึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยขอรับ


- พระสงฆ์บนอาสนสงฆ์ให้พร แล้วทายกนำกราบพระ เป็นเสร็จพิธี

------------------------------------------------------------------

@ ตอนที่ ๒
(อัพเดท ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑)



(ขอบคุณภาพจากเฟซคุณ nualsasi pu)

....เมื่อวานมีคนเข้ามาอ่านข้อมูลใน "เว็บวัดท่าซุง" กันมาก จึงทำให้ต้องลงตอนที่ ๒ ต่อไป เพราะรายงานกันอย่างละเอียดด้วย เนื่องจากเป็นตอนสำคัญของประวัติวัดท่าซุง
.
ขอยอมรับว่าวัดท่าซุงนี่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เพราะหลังจากเสร็จพิธีแล้ว มีเสียงฟ้าคำรามและฝนตกลงมาทันทีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ โดยเฉพาะพระอาจารย์ชัยวัฒน์ท่านเล่าว่า
.
ตอนเย็นก่อนจะไปร่วมงานพิธี ขณะเดินไปเลี้ยงหมาในสนามหญ้าข้างวิหารสมเด็จองค์ปฐม
.
ปรากฏว่าหมามันหอนรับกันโหยหวน เหมือนกับที่มันเห่าหอนในวัด ตามที่หลวงพ่อบอกว่าเทวดามากันนั่นแหละ
.
ท่านจึงคิดว่าเรื่องนี้ ท่านคงจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน จึงขอเล่าเรื่อง "การมอบตราตั้งเจ้าอาวาส" กันต่อไปนะ...


เวลา ๑๙.๓๐ น. - พิธีสวดพระอภิธรรม ถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) รอบค่ำ
- หลังจากเสร็จพิธีแล้วคณะสงฆ์วัดจันทาราม (ท่าซุง) ร่วมส่งพระเถรานุเถระที่มาร่วมงาน

เวลา ๒๐.๔๕ น. - เปิดคลิปวีดีโอหลวงพ่อพระราชภาวนาโกศล มอบตราตั้งรักษาการเจ้าอาวาส ให้แก่ พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เมื่อปีที่แล้ว

- พระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ นำพระภิกษุสงฆ์ภายในวัด ถวายสักการะแด่พระอาวุโสผู้ใหญ่ภายในวัด


- พระครูภาวนาธรรมนิเทศก์กล่าวว่า ท่านรับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ "พระราชพรหมยาน" มานานแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ เพราะไม่ได้บอกใครให้ทราบ

งานสอนกรรมฐานจึงเป็นภาระหน้าที่ก็หนักมากพออยู่แล้ว จะให้ไปรับตำแหน่งอื่น รับภาระอื่นเพิ่มอีก คงรับไม่ไหวหรอก แค่นี้ก็ประสาทจะกินอยู่แล้ว


- พระอาจารย์ชัยวัฒน์กล่าวว่า ท่านทนงศักดิ์ ผู้เป็นพระพิธีกรบอกว่า วันนี้หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล คงจะมีความสุขสมหวังแล้ว เมื่อได้มีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดท่าซุงอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ในความสำเร็จก็ย่อมมาจากการทำงานของพระที่อยู่ภายในวัดด้วย ต่างก็ช่วยเหลืองานซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะเหตุการณ์หลังจากหลวงพ่อ "พระราชพรหมยาน" มรณภาพแล้ว เมื่อปี ๒๕๓๕

"พระบัญชา" ก็สึกออกไป "พระปลัดวิรัช" ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น งานการรับสมัครบวชพระ งานการนิมนต์พระผู้ใหญ่ทั้งหลาย ต่างก็รวมอยู่ที่พระชัยวัฒน์ทั้งหมด

อีกทั้งมีการจัดงานปฏิบัติธุดงค์ด้วย ภาระต่างๆ จึงมีมาก แต่ด้วยเห็นแก่โครงสร้างของวัดท่าซุง ที่จะต้องมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ รวมทั้งญาติโยมมาร่วมงานกันให้มากยิ่งขึ้น

จึงคิดที่จะขยายออกไปทางภาคอีสาน เพราะสมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ท่านไม่ได้เผยแพร่ออกไปทางภาคอีสานมากนัก เนื่องจากพระเบื้องบนได้ห้ามไว้ จนกระทั่งท่านมรณภาพไป

ต่อมาก็ได้รู้จักกับ "พระอาจารย์หนุน" ท่านอยู่จังหวัดสกลนคร จึงได้ปรึกษากับหลวงพี่เจ้าคุณเจ้าอาวาส ท่านก็สั่งให้จัดงานทอดกฐินรวม ๔๕ วัดขึ้น เพื่อเป็นผูกมิตรกับพระสายอีสานไว้

อีกทั้งหลวงพี่โอก็พยายามไปช่วยเหลือพระทางอีสาน สมัยนั้นวัดไหนขาดแคลนพระพุทธรูป รูปปั้นหลวงปู่ปาน - หลวงพ่อ หลวงพี่โอและพระชัยวัฒน์ก็ช่วยเหลือกันมาตลอด

เพราะวัดท่าซุงจะอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้ เราจะต้องมีเพื่อน ตามสุภาษิตที่ว่าล้อมรั้วด้วยเขึ้ยวงา อีกทั้งได้ขอร้องให้พระอาจารย์หนุนส่งพระมาร่วมปฏิบัติธุดงค์ทุกปี

หลังจากนั้น ปรากฏว่ามีพระมาร่วมงานกันมากมาย ญาติโยมก็นำสิ่งของเข้าโรงครัว พระสายอีสานบางวัดก็นำโรงครัวมาจัดเลี้ยงส้มตำอีกด้วย

เรื่องนี้ญาติโยมบางคนอาจไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องออกไปนอกวัดด้วย เพราะเหตุที่จะต้องประสานงานให้หลวงพี่เจ้าคุณฯ ทั้งการตั้งศูนย์กรรมฐานที่โคราช, ไปสอนที่ตาพระยา, ไปสุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต และหาดใหญ่ เป็นต้น

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การทำงานของพระ จะต้องทำบนพื้นฐานความเป็นตัวของตัวเอง เมื่อมีคนรู้จักมากขึ้น ญาติโยมก็ห้อมล้อม

พระจะต้องมีจิตสำนึกไว้อยู่เสมอ ไม่เห็นแก่ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข ต้องทำตนสม่ำเสมอตลอด มักน้อย สันโดษ ไม่หลงระเริงไปกับโลกธรรม ๘

โดยเฉพาะเวลานี้มีญาติโยมหลายกลุ่ม พระจะต้องรู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเป้าให้ใครเชิดได้ ญาติโยมก็ไม่ต้องไปหนุนชี้นำอะไรให้มาก ปล่อยให้พระท่านได้เป็นอิสระ มีความคิดมีการกระทำเป็นของตนเอง

...จึงหวังใจว่า คงจะช่วยให้หาย "กังวล" กันไปได้บ้างนะ
...สาธุ ที่ทุกคนมีความหวังดีกับวัด แต่ก็ควรติดตามข่าวสารจากวัดโดยตรงนะ


----------------------------------------------------------------------

@ ตอนที่ ๓
(อัพเดท ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑)


.....ตามที่ท่าน "พระครูอาจินต์" พูดถึงความสามัคคี เรื่องนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ "พระราชพรหมยาน" ได้เคยกล่าวไว้เมื่อ "งานคล้ายวันเกิดของท่าน" เมื่อปี ๒๕๒๒ ที่ศาลานวราชว่า

วัดท่าซุงจะอยู่ได้ก็ด้วยความสามัคคี ถ้าพวกคุณแตกความสามัคคีเมื่อไร วัดท่าซุงก็อยู่ไม่ได้เมื่อนั้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้


"...ถ้าหากว่าผมยังไม่ตาย หรือตายไปแล้วก็ดี ภารกิจหน้าที่อันนี้ บรรดาพวกท่านทั้งหมดต้องช่วยกันรักษาไว้ แต่ว่าขอไว้อย่างหนึ่ง มันจะตายหรือไม่ตายก็ไม่เป็นไร

ผมจะตายหรือผมจะมีชีวิตอยู่ ขอพวกท่านทั้งหมดให้ตั้งใจไว้ว่า เราเป็นคนกลุ่มเดียวกัน จงอย่าทำตนเหมือน "ภิกษุโกสัมพี"

ในสมัยนั้น องค์สมเด็จพระชินสีห์ยังมีชีวิตอยู่ ต่างคนต่างก็อวดเลว แตกกันเป็นสองพวก อย่างนี้เป็นการทำลายตัวเอง

การศึกษาของบรรดาท่านทั้งหลาย นอกจากคันถธุระ ก็ยังมีวิปัสสนาธุระ เรื่องวิปัสสนาธุระนี่ เป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเราจะดี ว่าจะทรงวิปัสสนาธุระไว้ได้หรือไม่ได้ ก็อาศัยความสามัคคีเป็นเหตุ

ฉะนั้น ขอทุกท่านถ้าเห็นแก่ชีวิตผมก็ดี และเห็นแก่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ผมรู้ตัวว่ากำลังกายมันไม่ดี แต่ว่าได้พยายามสร้างทุกอย่าง เพื่อวางพื้นฐานไว้ให้แก่พวกท่าน

เพราะว่าในสถานที่นี้ก็ได้รับการพยากรณ์ว่า จะเป็นศูนย์ที่มีความสำคัญต่อไปในเบื้องหน้า วัดนี้ถ้ามันจะพังจริงๆ ก็ต้อง พ.ศ.สิ้นไป ๔,๕๐๐ ปีเศษ คือ ๔,๕๐๐ ปีเศษ วัดนี้จึงจะสลายตัว

ฉะนั้น ในวันฝังลูกนิมิต บรรจุของในหลุมนิมิต องค์สมเด็จพระธรรมสามิสร์ก็ทรงตรัสว่า แดนของวัดนี้เป็นแดนของพระอริยเจ้ามาในกาลก่อน แต่ก็มาสิ้นแสงของพระอริยเจ้าลงไปประมาณ ๔๐ ปีนะ

นับแต่ปีนี้ย้อนขึ้นไป แต่ความจริงตอนนั้นก็ประมาณ ๔๐ ปี นับแต่ปีนี้ไปก็เป็น ๕๐ ปี ขาดตอนพระอริยเจ้ามา ๔๐ ปี แต่ใน ๑๐ ปีต้น ก็ยังมีพระผู้ทรงฌาน หลังจากนั้นมา ๓๐ ปี ต้องถอยหลังไปนะ

ถ้านับเวลานี้มันก็ ๕๐ – ๓๐ ปีนั้น เป็น “ภิกขุพานิช” คือ จิตหยาบสะสมกิเลสกันขนาดหนัก แล้วต่อมานี่เราก็รื้อฟื้นขึ้นมา

ท่านเล่าว่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลังจากฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ.๒๕๒๐ แล้ว ท่านบอกว่า จากนี้ไป ๓ ปี วัดนี้จะมีพระอริยเจ้าประจำตลอดไป จนถึงพระพุทธศาสนาล่วงไปถึง ๔,๕๐๐ ปี หลังจากนั้นจึงจะขาดพระอริยเจ้า

ฉะนั้น ขอบรรดาท่านทั้งหลายที่มาทำวัตรวันนี้ก็ดี แล้วเอาปัจจัยมาถวายก็ดี ทำวัตรเป็นของดีแทนขอขมาโทษ ถวายปัจจัยเป็นของดี แล้วสิ่งที่จะดีที่สุด ก็ขอให้ทุกท่านรักษา “วิปัสสนาธุระ” ของเราไว้ด้วยดี พร้อมด้วยคันถธุระ

แต่ความจริงคันถธุระนี่ ผมคิดว่าในชีวิตของผม ถ้ามันไม่ตายเสียเร็วเกินไป ผมจะทำทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้ครบถ้วน แต่เหลือไว้กับพวกท่านบ้างก็เพียงแต่ซ่อมเล็กน้อยเท่านั้น

ทว่ามุ่งมั่นอย่างเดียวคือวิปัสสนาธุระ แล้วก็วิปัสสนาธุระก็ถือว่าไอ้เรื่องการที่ใครเขาว่าเขากล่าวก็เป็นของธรรมดา

แต่ทว่าถือว่าจุดสำคัญในที่นี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาถือว่าจะเป็นศูนย์ที่มีความสำคัญ แล้วก็จะมีพระอริยเจ้ามากขึ้นตามลำดับ

ฉะนั้น ในที่สุดนี้ขอบรรดาพวกท่านที่มีเจตนาดี ผมถือว่าเป็นพระเป็นคณะที่ประกอบด้วยความกตัญญูกตเทวี รู้อุปการะที่ผมทำแล้ว ท่านทำตอบ หรือที่พระพุทธเจ้าทรงทำแล้ว ท่านสนองตอบ

การมีความกตัญญูรู้คุณนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงสรรเสริญว่าเป็นคนดี ตามพระบาลีมีว่า
“นิมิตตัง สาธุ รูปานัง กตัญญู กตเวทิตา” ซึ่งแปลเป็นใจความว่า

“ความกตัญญูรู้อุปการคุณ ที่ทำแล้วตอบสนองคุณท่าน เรากล่าวว่าบุคคลนั้นเป็นคนดี”

งานทั้งหมดที่ทำนี่ ขอท่านทั้งหลายจงอย่าถือว่าเป็นงานของผม เพราะงานทั้งหมดเป็นงานของพระพุทธเจ้า ผมทำเพื่อพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น

ในที่สุดนี้ ผมในฐานะที่เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็มาด้วยกำลังของ “พุทธภูมิ”

ต้องลำบากยากกาย ทั้งกายและใจมาสิ้นเวลา ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป บุญบารมีอันใดที่บำเพ็ญมาแล้วในตอนต้นจนถึงอวสาน จัดว่าเป็นชาติสุดท้ายในชาตินี้

ขอบุญบารมีนี้ ที่ผมบำเพ็ญมาแล้วก็ดี และขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอบุญบารมีของบรรดาพระสงฆ์อริยสาวกทั้งหลาย

จงปกป้องบรรดาท่านทั้งหลาย ช่วยกำลังกาย กำลังใจของท่าน ให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามระบอบของพระพุทธศาสนา และขอให้ทุกท่านโดยถ้วนหน้า จงบรรลุผล กล่าวคือตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน เข้าถึงพระนิพพานในชาตินี้

และอีกประการหนึ่ง กิจอันใดก็ตาม ที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระประสงค์ ขอองค์สมเด็จพระพุทธองค์

จงบันดาลจิตใจของบรรดาภิกษุสามเณร และลูกหญิงลูกชาย ให้ปฏิบัติเหตุนั้นให้เต็มที่ มีผลตามที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระพุทธประสงค์

ในที่สุดนี้ ขอท่านทุกองค์ และบรรดาคนทุกคน จงประสบแต่ความสุขสวัสดิพิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุแล้ว

ขอบรรดาท่านทั้งหลายที่เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว จงบรรลุธรรมนั้น ตามที่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทรงบรรลุแล้ว ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ...สวัสดี”


....นี่เป็นโอวาทที่ท่านฝากไว้ให้พระรุ่นนั้นและพระรุ่นนี้ด้วย หวังว่าคงจะได้นำคำตักเดือนของท่านไว้เป็นแนวทางการปฏิบัติต่อไป โดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ทะเยอทยานหวังลาภยศจนเกินพอดี ควรมุ่งแต่วิปัสสนาธุระเป็นสำคัญ

หลังจากนั้น "พระครูปลัดสมนึก" ก็ได้ถวายปัจจัยไทยธรรมแก่พระเถระของวัดทั้ง ๓ รูป ในตอนนี้ ขณะที่เสร็จพิธีแล้ว พระอาจารย์ชัยวัฒน์จึงได้นั่งรถไฟฟ้าออกมาจากศาลา ๑๒ ไร่ ท่านได้เล่าภายหลังว่า

ปรากฏว่า "คุณสุธี" ผู้ขับรถบอกว่า เมื่อกี้นี้ในขณะที่กำลังทำพิธีอยู่นั้น ได้มีเสียงฟ้าคำรามด้วย ผู้ฟังต่างก็ขนลุก เพราะอยู่ด้านในนึกว่าเป็นเสียงไมค์ พอรถไฟฟ้าออกมาส่งข้างนอก จะเดินลงปรากฏว่าฝนปรอยลงมาเป็นระยะๆ

จึงต้องนั่งรถต่อไปทางปราสาททองคำ ขณะที่มองไปบนท้องฟ้าเหนือ "วิหารสมเด็จองค์ปฐม" เห็นฟ้าแลบแปล๊บเป็นสายฟ้ายาวแบบขวาง แล้วเสียงฟ้าร้องเปรี้ยงดังสนั่น

นับเป็นที่อัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ที่ฝนตกพรำๆ และมีเสียงฟ้าร้องคำรามเป็นสักขีพยาน บอกเหตุแห่งความสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองของวัดท่าซุงสืบไป...สวัสดี



รายนามพระเถรานุเถระที่กราบอาราธานามาร่วมพิธี


ประธานในพิธี
พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ
กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าคณะภาค 10
เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร


รองประธานในพิธี
พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี
เจ้าคณะภาค 7 วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร
พระธรรมปริยัติโมลี
เจ้าคณะภาค ๓ วัดบพิตรพิมุข


พระสงฆ์ที่อาราธนาเจริญชัยมงคลคาถา


1. พระราชปริยัติสุธี รองเจ้าคณะภาค ๓ วัดธรรมามูล
2. พระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี วัดหนองขุนชาติ
3. พระราชสุวรรณเวที วัดสุวรรณคีรี
4. พระราชพิพัฒนโกศล วัดเศวตฉัตร
5. พระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท วัดพระบรมธาตุวรวิหาร

6. พระวิสุทธิศาสนวิเทศ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
7. พระครูอุทิศธรรมพินัย เจ้าคณะอำเภอหนองฉาง วัดหนองขุนชาติ
8. พระครูอุปกิตปริยัตยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอหนองขาหย่าง วัดหลุมเข้า
9. พระครูอุทิตศุภการ เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี วัดอมฤตวารี
10. พระมหาสุนทร สุนฺทรธมฺโม เจ้าคณะอำเภอทัพทัน วัดสาลวนาราม

11. พระครูอุทัยสุทธิคุณ เจ้าคณะอำเภอบ้านไร่ วัดทัพคล้าย
12. พระครูอุทัยกิตติวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอสว่างอารมณ์ วัดทุ่งสงบ
13. พระครูอุทัยวิริยสุนทร เจ้าคณะอำเภอลานสัก วัดประดู่ยืน
14. พระครูอุเทศธรรมโฆษิต รองเจ้าคณะอำเภอเมืองฯ วัดอุโบสถาราม
15. พระครูอุทัยธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลท่าซุง วัดคลองเคียน
16. พระมหาไมตรี อาสภชโย เลขาเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี วัดหนองขุนชาติ












◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 22/2/18 at 09:47 [ QUOTE ]



ประมวลภาพ...พิธีมอบตราตั้งเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง)
ณ มหาวิหาร ๑๐๐ ปี หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (ศาลา ๑๒ ไร่)
วัดจันทาราม (ท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี


วันพุธที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑












































◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 25/2/18 at 09:51 [ QUOTE ]


.






































◄ll กลับสู่สารบัญ


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top