พระชำระหนี้สงฆ์
...วัตถุสิ่งของที่ถือว่าเป็นของสงฆ์นั้น คือ ของในวัดทุกประเภทที่เขาถวายเป็นของสงฆ์แล้ว แม้แต่ดอกไม้ ผลไม้ในวัด
เศษไม้ที่คิดว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว เอามาทำฟืนบ้าง ทำอย่างอื่นบ้าง เล็กๆน้อยๆบ้าง จงอย่าคิดว่า ไม่บาป แม้แต่เศษกระเบื้องที่ทิ้งแล้ว ก็เป็นของสงฆ์
มีผลเสมอกัน เว้นไว้แต่ดอกไม้ที่พระหรือท่านผู้ใดปลูกไว้ในวัด
ถ้าท่านเจ้าของยังอยู่ในเขตวัดนั้น และท่านอนุญาต อย่างนี้เอาไปได้ ไม่บาป ด้วยท่านเจ้าของมีสิทธิ์สมบูรณ์ให้ได้ รับมาได้ไม่มีโทษ
แต่ถ้าท่านเจ้าของผู้ปลูกออกไปจากวัดนั้นหรือตายไปแล้ว ของนั้นเป็นของสงฆ์โดยตรง ไปเอามามีโทษตามกำลังบาป
ขโมยของสงฆ์
![](/chaiwat/th060.jpg)
และอีกประการหนึ่ง วัดร้างที่ไม่มีพระอยู่ แต่ยังมีสภาพเป็นวัดหรือที่ของสงฆ์ ที่เป็นไร่นาไปแล้วไม่มีสภาพเป็นวัด ถ้าหากเราได้นำสิ่งของไปนิดเดียว
แม้แต่ต้นหญ้าเพียงต้นเดียว เขาถือว่า เป็นหนี้สงฆ์ อันนี้อันตรายมาก สมัยหลวงปู่ปาน
ท่านแนะนำให้คนชำระหนี้สงฆ์ บาทสองบาท สลึงสองสลึงก็ได้ บางคนไม่มีเงินเอามาทำงานแทนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ไม่บังคับ เช่น ดายหญ้า เก็บกวาดขยะ ฯลฯ
ฉะนั้น การชำระหนี้สงฆ์ หากต้องการชำระให้หมดไปเลย เพราะไม่แน่ว่าอดีตชาติหลายๆชาติ ท่านได้เคยค้างชำระหนี้สงฆ์อะไรไว้บ้าง
การที่จะชำระด้วยเงินด้วยทอง เป็นเงินเท่าไรก็ไม่พอที่จะชำระได้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ จึงได้แนะนำการชำระให้ครบถ้วนด้วยการ สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก
![](/chaiwat/th072.jpg)
พระหน้าตัก ๔ ศอกถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน พระพุทธรูปไม่สามารถจะตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ที่แล้วๆมา
ถือว่าเป็นการชำระหมดไป
การชำระหนี้สงฆ์ให้ครบถ้วน ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอกองค์เดียว ก็ชำระหนี้สงฆ์ได้คนเดียว แต่ถ้าจะร่วมกันสร้างหลายๆ คน
โดยสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอกองค์เดียว จะให้สมบูรณ์จะต้องปิดทององค์พระด้วย ถ้าปิดทององค์พระก็ได้ครบถ้วนทั้งคณะ
ถ้าไม่ปิดทององค์พระก็ได้คนเดียว
ปัจจุบันนี้ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ทางวัดได้งดรับเจ้าภาพการสร้าง "พระพุทธรูปชำระหนี้สงฆ์" ไปแล้ว เนื่องจากไม่สามารถจะหาสถานที่สร้างได้
เพราะอาคารสถานที่ทุกแห่งรอบวัด เนืองแน่นไปด้วยพระชำระหนี้สงฆ์ตลอดแนวกำแพง แม้กระทั้งบริเวณป่าธุดงค์ ๒๐๐ ไร่ ก็ไม่มีที่จะสร้างแล้ว.
*********************************************************
|