Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 8/1/09 at 08:12 [ QUOTE ]

ภาพข่าว..งานพิธีฉลองยอดฉัตร ณ พระธาตุจอมกิตติ ประจำปี 2552


พระครูปลัดอนันต์ เดินทางไปจังหวัดเชียงราย

นมัสการพระธาตุจอมกิตติ และพระธาตุดอยตุง

พระครูปลัดอนันต์ พร้อมคณะ ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. นี้ และจะไปนมัสการพระธาตุจอมกิตติ
จ.เชียงราย วันเสาร์ที่ ๑๐ ม.ค. ทำพิธีบวงสรวง เวลา ๐๙.๓๐ น. เพื่อเฉลิมฉลองยอดฉัตรใหม่ หลังจากที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงกระทำพิธียกยอดฉัตรไปแล้วเมื่อ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551

วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ม.ค. เดินทางไปนมัสการพระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย ทำพิธีบวงสรวง เวลา ๐๙.๓๐ น. เพื่อทำพิธียกยอดฉัตรพระเจดีย์ใหม่ทั้งสององค์

หมายเหตุ ข่าวล่าสุดแจ้งว่า อาจจะเลื่อนงานพิธียกฉัตรออกไปก่อน เนื่องจากเตรียมการไม่ทัน จึงต้องขออภัยทุกท่านที่ตั้งใจจะไปในงานนี้ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 17/1/09 at 21:14 [ QUOTE ]


(Update 17/1/09)

งานพิธีฉลองยอดฉัตร ณ พระธาตุจอมกิตติ

วันที่ 10 มกราคม 2552




หลังจากที่แผ่นดินไหวไปเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2550 ปรากฏว่ายอดฉัตรได้หักสะบั้นลงมา เหมือนจะเป็นสิ่งบอกเหตุให้ลูกหลานหลวงพ่อฯ ได้มีโอกาสทำบุญกับสิ่งที่ประเสริฐสุด นั่นก็คือได้ทำยอดฉัตรใหม่ หลังจากได้รวบรวมเงินทำบุญรอคอยกันมาทุกปี แต่ก็ยังไม่สามารถจะดำเนินการซ่อมแซมได้

ฉะนั้น เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินยกฉัตรไปแล้ว โดยทางกรมศิลปากรได้นิมนต์ท่านพระครูปลัดอนันต์ไปร่วมพิธีนี้ด้วย แต่ก็ท่านก็ไม่สามารถไปได้ จึงได้มอบหมายให้ตัวแทนเดินทางไปร่วมพิธีแล้ว

ครั้นถึงวันที่ 10 มกราคม 2552 อันเป็นเวลาที่จะต้องเดินทางกันเป็นประจำทุกปี ตามประเพณีที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เคยกระทำมา พวกเราต่างก็เดินทางกันไปทั่วทุกภาคของประเทศ มีทั้งรถตู้และรถยนต์ส่วนตัวนับร้อยคัน ส่วนรถบัสประมาณ 9 คัน จากคณะศิษย์จากสายลม โดยคุณนราธิป, คณะคุณเพ็ญศรี (แดง) และคณะคุณวิชัย จากการไฟฟ้า ตามเวลาที่นัดหมายกันไว้ว่า จะทำพิธีบวงสรวงในเวลา 09.30 น. ซึ่งในปีนี้อากาศทางภาคเหนือหนาวเย็นมาก


สำหรับการจัดเตรียมสถานที่นั้น คณะพระเจ้าหน้าที่จากวัดท่าซุง จำนวน 8 รูป มี พระสมนึก, พระต้อม, พระพิษณุ, พระมงคลเวช, พระอิสเรศ, พระนิติ, พระสำออย และฆราวาสอีกประมาณ 20 คน จะต้องเดินทางไปก่อนล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 51 โดยไปประสานงานกับเจ้าอาวาสที่ดอยตุงก่อน


พอถึงวันที่ 9 จึงมาประชุมกันที่พระธาตุจอมกิตติ เพื่อวางแผนการจัดสถานที่รับประทานอาหาร ละสถานที่จอดรถ โดยการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ นรข.เชียงแสน ช่วยนำเก้าอี้, เต้นท์, โซฟา, และเสื่อ เป็นต้น ประสานงานโดย พล.ร.ท.ณัฐพงษ์ (เดิมชื่อ พรชัย) กับ คุณอภิมุข (ตุ๊) และ "คุณตาล" ภรรยา



หลังจากนั้น พระเจ้าหน้าที่และฆราวาสต่างก็ช่วยกันผูกผ้าที่กำแพงด้านในรอบองค์พระเจดีย์ และบันไดทางขึ้นด้วย โดยมี อ.บุญเรือนและคุณดาวเป็นหัวหน้า พร้อมทั้งประดับธงชาติธงธรรมจักรสลับกับผ้าตุงอย่างสวยงามยิ่งกว่าปีก่อนๆ โดยมีหลวงพี่ชัยวัฒน์ได้ให้ทุนสนับสนุน ทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าดอกไม้และผ้าประดับไว้ทั้งสองแห่ง มีมูลค่าประมาณ 34,500 บาท


ด้วยเหตุนี้ หากใครได้ไปงานพิธีฉลองยอดฉัตรในปีนี้ จะพบเห็นว่ามีการตบแต่งองค์พระธาตุและบริเวณโดยรวบอย่างสวดสดงดงามเป็นที่สุด ตามภาพจะเห็นว่า ในวันที่ 9 คณะเจ้าหน้าที่จะต้องทำงานกันตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน ด้านหน้าองค์พระธาตุ ถ้าใครสังเกตให้ดีจะเห็นยอดฉัตร (เก่า) ที่หักโค่นลงมา เวลานี้ทางวัดได้ใส่ตู้กระจกไว้เป็นอย่างดี


ภาพนี้เป็นบรรยากาศในตอนเช้าของวันที่ 10 ม.ค. 52 ซึ่งการจัดเตรียมสถานที่ มีการปูเสื่อและตั้งโซฟาสำหรับพระสงฆ์และฆราวาสเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระวัดท่าซุงต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้า เพื่อคอยจัดรถที่ขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืด สำหรับเจ้าหน้าที่ นรข. จำนวน 10 นาย มี ร.ท.วินัย เป็นหัวหน้า จะมาถึง 6 โมงเช้า ช่วยจัดรถข้างล่าง และนำรถตู้คอยบริการรับส่งด้วย

ส่วนเจ้าหน้าที่จัดทำบายศรี คือ คุณป้าน้อย เชียงราย และเจ้าหน้าที่จัดเลี้ยงอาหาร มีคณะคุณอัจฉรา (ต๋อย), คณะคุณหมอเอ๋ จ.เชียงใหม่, คณะพระประกอบบุญ จ.ลำพูน และคณะ พล.ร.ท.ณัฐพงษ์ และคุณเจี๊ยบ ก็ต้องขึ้นมาแต่เช้าเช่นกัน มีการจัดสถานที่จัดเลี้ยงอาหารตั้งแต่เช้าไปจนถึงกลางวัน และที่จอดรถเป็นสัดส่วน มีการหมุนเวียนส่งผู้โดยสารได้สะดวกดีกว่าปีก่อนๆ

เมื่อทุกคนที่เดินขึ้นมาบนลานพระธาตุแล้ว จะต้องแหงนมองขึ้นไปแทบทุกคน เพราะส่วนใหญ่เพิ่งจะได้มาเห็นกัน และอยากจะรู้ว่ายอดฉัตรสวยงามแค่ไหน แต่ก็มองไม่ค่อยชัด ทีมงานจึงซูมภาพมาให้เห็นกันชัดๆ หวังว่าผู้ที่เป็นเจ้าภาพทั้งหลายคงจะชื่นใจ ถึงแม้จะไม่ได้ไปร่วมพิธีฉลองด้วย แต่ทุกท่านก็ได้บุญเต็มเปี่ยมแล้วละ ถ้ายังไม่แน่ใจก็โมทนาอีกครั้งก็ได้


ในระหว่างนี้ ท่านพระครูปลัดอนันต์เดินทางมาถึงแล้ว พร้อมทั้งหลวงพี่ชัยวัฒน์ และ ดร.ปริญญา จึงได้เล่าประวัติความเป็นมาโดยย่อ ต่อจากนั้นก็เริ่มทำพิธีบวงสรวงกัน โดยมีพระภิกษุจากต่างวัดและญาติโยมพุทธบริษัทมาร่วมพิธีกันมากมาย ต่างก็นั่งเบียดเสียดล้อมรอบองค์พระธาตุเต็มไปหมดทุกด้าน จนล้นออกไปทางลงบันได


แต่ทุกคนก็ไม่บ่น ไม่ย่อท้อ ไม่งอแง ไม่สนใจความหนาวเย็น แต่ละคนก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน บางคนก็ยังโงกง่วง เพราะต้องเดินทางมาทั้งคืน บางคณะก็มาไกลจากสุราษฎร์ธานีและภูเก็ต (ถ้าใครสังเกตให้ดี ระหว่างนั่งรถจะมาที่พระธาตุจอมกิตติ จะเห็นมีร่องรอยฝนตกอยู่ตามถนน เมื่อคืนนี้ฝนคงจะตกลงมาก่อนงาน นับว่าเป็นสิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง)


เรื่องนี้ทำให้นึกย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตอนที่ไปงานพิธียกฉัตรพระเจดีย์งค์เล็ก (เจดีย์บริวารรอบองค์พระธาตุจอมกิตติ) เมื่อปี 2545 ในปีนั้นคงจะจำกันได้ว่า ในวันก่อนงานฝนได้ตกลงมาและลมพายุพัดใหญ่ ทำให้เสาไฟฟ้าข้างถนนไปเชียงแสนได้ล้มลงมาสิบกว่าต้น


ในตอนนี้ หลังจากคณะผู้ร่วมเดินทางมาครบแล้ว ท่านพระครูปลัดอนันต์จึงได้ไปทำพิธบวงสรวงที่โต๊ะบายศรีชุดใหญ่ ด้านหน้าองค์พระธาตุ ส่วน หลวงพี่โอ เดินไปจุดธูปเทียนที่พระเจดีย์องค์เล็ก มุมด้านทิศเหนือ พระชัยวัฒน์ด้านทิศตะวันออก หลวงพี่อาจินต์ด้านทิศใต้ หลวงพี่สมพงษ์ด้านทิศตะวันตก


ในท่ามกลางบรรยากาศตอนสาย อากาศยังคลึ้มเย็นสบาย ทุกคนนั่งยกมือหลับตาไปตามกระแสเสียงชุมนุมเทวดาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ จบแล้วก็เป็นเสียงสวด "ภุมมานัง" แบบล้านนา ทำให้หวลนึกถึงอดีตที่ผ่านไปไม่นาน แค่ 30 กว่าปีมานี้เอง หลวงปู่ทั้งหลายอันมี หลวงปู่ชุ่ม หลวงปุ่ธรรมไชย หลวงปู่ชัยวงศ์ เป็นต้น ที่เคยมาร่วมทำพิธียกฉัตร พระเจดีย์จำลององค์เล็ก (ทางด้านทิศใต้) เมื่อปี 2518 เพื่อเป็นสวัสดิมงคลแก่ประเทศชาติมาแล้ว


หลังจากทำพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้นแล้ว คณะเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเชียงแสน จำนวน 12 คน ต่างก็ออกมาร่ายรำถวายมือ ชุด "ระบำเชียงแสน" จากนั้นก็เข้ามารับรางวัลจาก คุณเยาวลักษณ์ (ขวัญ) และจากท่านพระครูปลัดอนันต์ เนื่องจากวันนี้ตรงกับ "วันเด็ก" พอดี


ในปีนี้มีการทำพิธีเป็นกรณีพิเศษ คือ ท่านพระครูปลัดอนันต์ได้เป็นประธานในการนำแห่ผ้าไสบทองไปรอบๆ องค์พระธาตุ โดยมี หลวงพี่โอ หลวงพี่อาจินต์เดินถือผ้านำหน้า และญาติโยมทั้งหลายแห่ไปจนครบ 3 รอบ ที่เขาเรียกกันว่าพิธี "แห่ผ้าขึ้นธาตุ" นั่นเอง ตามที่นิยมทำกัน ณ พระธาตุนครศรีธรรมราช


ขณะนั้นทุกคนเดินแห่ผ้าเป็นขบวนยาวเหยียด บางคนก็นั่งสวดอิติปิโส เสียงดังก้องทั่วบริเวณนั้น ท่านพระครูปลัดอนันต์สวดนำไปตลอดเวลา โดยก่อนหน้านั้น คณะพิษณุโลก มี อ.วิบูลย์ มีชู ได้กล่าวคำกลอนสดุดี เนื่องในงานพิธีฉลองยอดฉัตรในครั้งนี้ด้วย


แต่ละคนอิ่มเอมเปรมใจ ยินดีที่ได้มีโอกาสมาร่วมฉลอง เพราะองค์พระธาตุมีการซ่อมแซมมาหลายครั้งแล้ว เดิมองค์พระธาตุจะเอนเอียงมาทางซ้ายมือของเรา แต่ทางกรมศิลปากรได้อนุมัติซ่อม โดยกรรมวิธีสมัยใหม่อัดพื้นให้แน่นขึ้น จนองค์พระธาตุเอียงกลับมาเล็กน้อย หลังจากนั้นแผ่นดินก็ไหวขึ้นพอดี ทำให้องค์พระธาตุไม่เสียหายเลย


ฉะนั้น ปีนี้นับเป็นปีที่ 17 หลังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ มรณภาพไปแล้ว พวกเราก็ได้ไปทำนุบำรุงและกราบไหว้องค์พระธาตุของท่านตลอดมา เพื่อเป็นการสืบทอดเจตนารมย์และสืบสานประเพณีอันดีงามตลอดไป


อีกทั้งในยามนี้ บ้านเมืองก็เกิดมีปัญหาภายในประเทศอย่างรุนแรง พวกเราชาวไทยจึงตั้งใจอธิษฐาน เพื่อขอพรจากบรรพบุรุษไทยในอดีตทั้งหลาย ขอให้ไทยจงเป็นไทย อย่าได้ตกเป็นทาสแห่งอำนาจ ด้วยการแย่งชิงความเป็นใหญ่กันเอง จนเศรษฐกิจพังพินาศไปหมดสิ้น


ขอบุญบารมีขององค์สมเด็จพระชินศรี และบารมีพระเจ้าพรหมมหาราชได้โปรดคุ้มเกล้าชาวไทย ให้พ้นจากทุพภิกขภัยและอุบัติภัย ตลอดถึงภัยพิบัติจากธรรมชาติทั้งหลาย ขอให้ปลอดภัยและมั่งมีศรีสุขตลอดกาลนานเทอญ


งานพิธีฉลองยอดฉัตรครั้งนี้ ได้มาถึงตอนสำคัญอยู่ตอนหนึ่ง คือได้มีการกล่าวคำถวายเครื่องสักการบูชา อันมี บายศรีดอกไม้ และผ้าห่มสไบทอง เป็นต้น หลังจากนั้นตัวแทนคณะสงฆ์ อันมี หลวงพี่โอ หลวงพี่อาจินต์ เป็นต้น ได้เข้าไปสรงน้ำและโปรยดอกไม้รอบองค์พระธาตุ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เพลงมหาฤกษ์บรรเพลง พร้อมกับมีเสียงประทัดแทนเสียงพลุดังขึ้นพร้อมๆ กัน


ในงานพิธีครั้งนี้ ได้มีการนั่งสมาธิเงียบสงบประมาณ 10 นาทีอีกด้วย หลังจากนั้นท่านพระครูปลัดอนันต์กล่าวสัมโมทนียกถา จบด้วยการอุทิศส่วนกุศลผลบุญทั้งหลาย แล้วมีการประกาศว่า ในเวลาเที่ยงตรงจะมีการเดินทางต่อไปที่ วัดพระเจ้าหลวงสวนดอก (เลยวัดพระธาตุผาเงา ประมาณ 20 ก.ม.) โดยมี อ.นคร จากโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม เป็นผู้ประสานงาน ได้แจ้งว่ามีการก่อสร้างวิหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว

พวกเราโดยการนำของพระครูปลัดอนันต์, หลวงพี่โอ, หลวงพี่ชัยวัฒน์, หลวงพี่อาจินต์ พร้อมคณะศิษย์มากมายหลายร้อยคน ได้ร่วมทำบุญจำนวนเงิน 158,000 บาทเศษ เพื่อต่อเติมเพดานที่องค์พระพุทธรูปต่อไป หลังจากที่การบูรณะเมื่อ 3 - 4 ที่แล้ว บัดนี้คงจะแล้วเสร็จอย่างแน่นอน สิ้นทุนทรัพย์ทั้งองค์พระและวิหารไปประมาณ 2 ล้านบาทเศษ


ต่อจากนั้นก็อัญเชิญผ้าไปห่มรอบองค์พระเจดีย์ โดยมีคณะต่างๆ ที่นำผ้ามาถวายสิบกว่าม้วนเข้าไปห่มด้วย พร้อมทั้งพวงมาลัยดาวเรือง ในตอนนี้มีจังหวะว่าง คุณเศรษฐา (จะเลงกะโบ) จึงได้ประกาศให้เด็กๆ ที่มาในงานนี้เข้าไปรับของขวัญจากท่านพระครูปลัดอนันต์ทันที


หลังจากนั้นเป็นการลุกขึ้นยืนไว้อาลัยแก่นักรบที่กู้ชาติจากขอมในสมัยนั้น แล้วร่วมกันร้องเพลง "ต้นตระกูลไทย" เพื่อเป็นการสดุดีพระเจ้าพรหมมหาราช ในฐานะที่พระองค์เป็นประมุขของบรรพบุรุษไทย โดยการสืบสันตติวงศ์มาจนถึงราชวงศ์ในปัจจุบันนี้ อีกทั้งร้องเพลง "เดินตามพ่อ" ต่อไปด้วย เป็นการนึกถึงพ่อที่มีคุณต่อลูกทั้งหลาย


มีหลายคนที่ได้ฟังเพลงนี้แล้ว ต้องน้ำตาคลอ บ้างก็เช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมา ด้วยความรำลึกถึงวีรกรรมสมัยนั้น ที่พวกเราคนไทยต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในสนามรบ โดยเฉพาะพระมเหสีของพระเจ้าพรหมมหาราช ต้องถูกพวกขอมดักทำร้ายที่หน้าประตูเมืองจนเสียชีวิต หลังจากนั้นต่างก็ได้มาร่วมสร้าง "อนุเสารีย์ชัยสมรภูมิ" คือองค์พระธาตุจอมกิตตินี้ โดยการบรรจุพระบรมธาตุส่วนหน้าผากที่ พระพุทธโฆษาจารย์ อัญเชิญมาจากประเทศลังกา เมื่อประมาณ พ.ศ. 900 เศษ

ในคราวครั้งนั้น ผู้ที่รอดชีวิตต่างก็มาร่วมฉลองชัยกัน ณ สถานที่นี้ แต่ต้องอนาถและแสนเศร้า... เมื่อย้อนระลึกถึงเพื่อนร่วมชาติ ที่เคยต่อสู้กับอริราชศัตรูอย่างเคียงบ่าเคียงใหล่กันมา โดยการรุกไล่พวกขอมลงไปถึงกำแพงเพชร ครั้นเสร็จศึกกลับมาแล้ว บางคนก็บาดเจ็บแสนสาหัส บางคนก็ต้องพิการไปตลอดชีวิต แต่น่าอนิจจา..บางคนก็ต้องหามศพที่หมดสิ้นลมปราณกลับมา

การศึกครั้งนั้น แม้พวกขอมจะสูญสิ้น แต่พวกเราก็ดับดิ้นไปไม่น้อยเหมือนกัน การฉลองชัย ณ องค์พระธาตุจอมกิตติครานั้น ถึงแม้เราจะกำชัยชนะไว้อย่างสิ้นเชิง แต่พวกเราก็สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ผัวต้องจากเมีย ลูกต้องจากพ่อแม่ โดยเฉพาะ "ท่านแม่" อันเป็นที่รักของพวกเราทั้งหลาย ที่จะต้องฉลองชัยกันไปพร้อมทั้งคราบน้ำตา..ด้วยประการฉะนี้ ฯ

((( โปรดติดตาม พิธีบวงสรวง ณ พระธาตุดอยตุง ต่อไป คลิกที่นี่)

หมายเหตุ

ถ้าต้องการย้อนชมภาพเหตุการณ์ในอดีต "งานพิธียกฉัตร เมื่อปี 2518" กรุณา Login ข้างนอกก่อน
แล้วจึงกลับเข้าอ่านข้อมูล ซึ่งจะต้องขออภัยที่จะขอสงวนสิทธิ์ในการคัดลอกข้อมูล, ภาพ, เสียง ออกไปนอกเว็บ
หากตกลงก็คลิกที่นี่
คนดีมีศีลธรรมคงไม่ฝ่าฝืนกฎกติกาของผู้อื่น


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top