Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 18/3/08 at 09:23 [ QUOTE ]

ภาพข่าว...พระสงฆ์วัดท่าซุงบางรูปเข้าไปปฏิบัติธรรมภายในป่าธุดงค์


        ขอรายงานข่าวล่าสุด...เมื่อวานนี้ 17 มี.ค. คณะทีมงานฯ ทราบข่าวมาว่า หลังเสร็จงานทำบุญประจำปีแล้ว พระสงฆ์ประมาณ 23 รูป เข้าไปปฏิบัติธรรมภายในป่า (200 ไร่) หลังวัดท่าซุง ประมาณ 10 วัน ท่านคงจะเหน็ดเหนื่อยจากงานกัน แล้วจะออกมาจากป่า วันที่ 26 มี.ค. 51 มี หลวงพ่อปลัดอนันต์, หลวงพ่อโอ, หลวงพี่ชัยวัฒน์, และ หลวงพี่ละออง เป็นต้น ใครจะพบท่าน คงจะต้องรอไป 10 วันก่อนนะ ทราบแล้วเปลี่ยน...

        ถึงอย่างไรก็ตาม ขอนำภาพมาให้ชมกันก่อน ภาพแรกนี้เป็น "ซุ้มประตู" ป่าธุดงค์ ๒๐๐ ไร่ ที่สร้างค้างไว้นานแล้ว


เวลามีการปฏิบัติธรรม จะเป็นงานธุดงค์หรืองานปริวาส กุฏิเหล่านี้จะเป็นที่พักอาศัยของพระภายในวัด ซึ่งมีอยู่รอบๆ สระน้ำแห่งนี้



หลวงพี่บางองค์ท่านก็ปักกลดภายในบริเวณนี้



นี่คือ "เครื่องสูบน้ำ" ขนาดใหญ่ท่อประมาณ ๑๒ นิ้ว ไว้สำหรับป้องกันหน้าน้ำท่วมและหน้าแล้ง เพราะอยู่ติดกับ "ประตูน้ำ" และอยู่ข้างกำแพง ส่วนด้านนอกกำแพงคือ "คลองยาง" เมื่อเวลาหน้าน้ำมากก็สูบออกไปนอกกำแพง เวลาหน้าแล้งก็สูบน้ำจากคลองยางเข้ามาภายในวัดได้



เมื่อปี ๒๕๔๙ ระดับน้ำในคลองยางสูงกว่าน้ำในวัด จึงปิดประตูน้ำไว้ แต่น้ำก็ยังไหลทะลักเข้ามา หลวงพี่ทั้งหลายพร้อมญาติโยมในวัดและเด็กนักเรียน ต้องระดมกันเอาทรายใส่ถุงปุ๋ย แล้วทิ้งลงไปถมไว้ แต่ก็สะกัดไม่อยู่ ภายหลังต้องปล่อยให้น้ำไหลเข้ามา ปรากฏว่า ปี ๒๕๔๙ ระดับน้ำทำสถิติสูงกว่าปีก่อนๆ




มองไปฝั่งตรงข้าม จะเห็นกระท่อมเล็กๆ ริมสระน้ำ ตรงข้ามกับประตูน้ำ นับว่ามีบรรยากาศเป็นธรรมชาติดีมาก



เมื่อเดินไปตามถนนใกล้จะถึง "ลานธรรม" นับว่าถนนแห่งนี้ ได้ช่วยกั้นน้ำไปด้วย ทราบว่าเมื่องปีที่แล้ว หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้ทุ่มทุนสร้างถนนให้สูงกว่าเดิม ๕๐ ซ.ม. แล้วลาดยางให้รถวิ่งได้ เพื่อเป็นคันกั้นน้ำไปด้วย ระยะทางประมาณ ๓ ก.ม. รอบบริเวณป่า ๒๐๐ ไร่ทั้งหมด



ก่อนจะถึง "ลานธรรม" เล็กน้อย จะมองเห็นกุฏิหลังหนึ่ง ด้านหน้าจะเห็น "เจดีย์" องค์เล็ก เดิมภายในป่านี้รกมาก มีหลวงพี่ในวัดหลายรูปได้เห็นดวงไฟลอยขึ้นในเวลากลางคืน จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น "พระบรมสาริริกธาตุ" ฝังไว้ใต้ดินตั้งแต่สมัยโบราณ ท่านจึงได้สร้างพระเจดีย์ทับเอาไว้ เพื่อป้องกันคนเดินข้ามไปข้ามมา จะเป็นโทษโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์



แถวนี้จะมี "ห้องน้ำ" อยู่ใกล้ "ลานธรรม" และยังมีอีกหลายจุดในบริเวณป่าแห่งนี้



วันที่ ๑๗ นี้ เวลา ๑๗.๐๐ น. ขณะมองจากบนถนนลงไป จะเห็นพระสงฆ์จำนวน ๒๓ รูป กำลังสวดมนต์ทำวัตรเย็นกัน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการปฏิบัติกิจของสงฆ์



กุฏิทรงไทยมีเจ้าภาพนำมาถวายไว้หลายปีแล้ว เป็นที่พักสำหรับพระอาจารย์ผู้ดูแล



เมื่อทำวัตรนั่งสมาธิเสร็จแล้ว หลวงพี่ก็มายืนอ่านดูระเบียบของสำนัก แล้วก็ฉันน้ำปานะไปด้วย



บริเวณ "ลานธรรม" เป็นที่ปฏิบัติธรรม





ตอนเช้า วันที่ ๑๘ มี.ค. พระอาจารย์ทั้งหลายเตรียมจัดอาหารบิณฑบาต



ต้องตั้งเต้นท์เตรียมไว้ด้วย เผื่อฝนจะเข้ามาทักทาย เมื่อไรก็ไม่รู้ได้ ตอนนี้ยังไม่มีอะไร หลวงพี่คงตักอาหารใส่ในบาตรได้ตามสบายๆ



เสร็จแล้วก็มานั่งฉันในบาตรกันเป็นที่เรียบร้อย



((((((((( โปรดติดตามวันพรุ่งนี้ ))))))))))



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 19/3/08 at 08:45 [ QUOTE ]


(Update 19 มี.ค. 2551)

        ภายในป่าหลังวัดท่าซุงแห่งนี้ นอกจากเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์แล้ว ยังมีโรงเผาถ่านอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อมีลมพัดแรงจนต้นไม้ล้ม ต้องใช้เลื่อยตัดเป็นท่อนๆ แล้วนำมาเผาถ่านส่งให้โรงครัวหุงข้าว นับว่ายังได้ประโยชน์ต่อไปอีกด้วย



        ภาพที่เห็นข้างกลดนั่นก็คือ ผืนที่นาประมาณ ๓๐ ไร่ ถ้าหากถึงกาลเวลา "ข้าวยากหมากแพง" ก็ปลูกข้าวได้ไม่ถึงกับอดตาย สามารถเลี้ยงคนได้ทั้งวัด ส่วนอีกภาพหนึ่ง คือ เครื่องปั้มน้ำ สูบขึ้นมาจากสระน้ำไปรดต้นไม้ที่กำลังปลูกไว้มากมายหลายร้อยต้น



        ภาพในบริเวณนี้ เป็นกุฏิของพระอยู่ริมสระน้ำอีกด้านหนึ่งของป่า จะมีกุฏิอยู่โดยรอบ แต่กล้องถ่ายเห็นไม่ชัด เพราะอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ในบริเวณนี้ยังมีไก่ป่าอีกหลายตัว มักจะออกมาหากินตอนเช้าๆ




เมื่อมีกิจกรรมภายในป่า จะสามารถเปิดเสียงหลวงพ่อออกทางลำโพงนี้รอบทิศทาง



        แนวกำแพงพระชำระหนี้สงฆ์ ด้านซ้ายมือของเรา ถ่ายภาพจากบนถนนก่อน จากนั้นก็ขึ้นไปข้างบนแนวกำแพง จะเห็นภายในอาคาร เป็นที่ประดิษฐาน "พระชำระหนี้สงฆ์" เป็นแถวยาวเหยียด มีเจ้าภาพทุกองค์




        ส่วนด้านนี้เป็นแนวกำแพงขวามือของเรา ข้างล่างจะเป็นที่อาบน้ำและห้องสุขา ด้านบนเป็น "พระชำระหนี้สงฆ์" มีเจ้าภาพจะขอให้สร้างอีก หลวงพ่อเจ้าอาวาสบอกว่า "สร้างจนหมดที่สร้างแล้ว"




        ภาพชุดสุดท้ายนี้ จะมองเห็นภาพแรกเป็นแนวกำแพงพระชำระหนี้สงฆ์ แต่เป็นด้านหลังกำแพงนะ ส่วนพื้นที่กว้างออกไป นั่นก็คือพื้นที่ที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้ซื้อมาไว้แล้ว (ราคาไร่ละแสนกว่าบาท) ทราบข่าวมาว่า ท่านกำลังจะพัฒนาพื้นที่นาประมาณ ๕๐ ไร่เศษนี้ ให้เป็นพื้นที่ป่ามีต้นไม้ใหญ่ร่มคลึ้ม เพื่อเป็นการขยายเขต "ปฏิบัติธุดงค์" ให้กว้างออกไปอีก เนื่องจากในเวลานี้ พื้นที่เดิม ๒๐๐ ไร่ ไม่ค่อยจะเพียงพอสำหรับนักปฏิบัติไปแล้วละ




((((((((( โปรดติดตามในวันพรุ่งนี้ ))))))))))



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 20/3/08 at 03:07 [ QUOTE ]


(วันนี้...Update ใหม่ล่าสุด..)

..........สวัสดีครับ ผมได้รับ "คลิปมือถือ" ออกมาจากป่า เรียกว่า...สดๆ ร้อนๆ เลยทีเดียว ทีมงานในวัดจึงรีบนำมาเผยแพร่ทันที คลิปแรกนี้ "เสียงพระกำลังสวดมนต์ทำวัตรเย็น" กันนะครับ ภาพอาจจะไม่ชัดเจนและสั่นไหวไปบ้าง...ต้องขออภัย แต่ก็ยังดีที่มีโอกาสได้เห็นบรรยากาศเช่นนี้































........คลิปนี้ "หลวงพ่อเจ้าอาวาส" และ "หลวงพ่อโอ" ท่านเมตตาบันทึกภาพและเสียงอนุญาตนำมาเผยแพร่ได้ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ สมัยเทคโนโลยีล้ำยุค ถือว่าท่านได้พบปะพูดคุยกับพวกเราที่อยู่ทางบ้านเป็น "ปฐมฤกษ์" แม้จะไกลเพียงไหนก็ตาม จะอยู่ส่วนไหนของมุมโลก ท่านก็ได้พูดจาทักทายกับพวกเรา เหมือนกับท่านได้ไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านแล้วนะ ขอโมทนา...สาธุด้วยครับ.


































.......เวลาใกล้ค่ำทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว นั่งสมาธิฟังเสียงธรรมปฏิบัติของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ































.........แม้จะเวลาฉันภัตตาหารในตอนเช้า พระอาจารย์ก็ยังเปิดเทปเสียงหลวงพ่อฯ สนทนาธรรมกับ "คุณลุงยกทรง" ให้ฟังด้วยละ































...........แหม..กว่าจะถ่ายภาพนี้ได้ เจ้าไก่ป่าพวกนี้ก็เล่นตัวจังเลย ไม่ยอมให้เข้าใกล้ จึงต้องซูมในระยะไกล ภาพเลยไม่ค่อยชัด แต่ก็ลองเดาๆ ไปก่อนนะ ว่าภาพนี้มีไก่ป่าอยู่กี่ตัว เป็นตัวผู้กี่ตัว ตัวเมียกี่ตัว..?



































...........การที่นำภาพมาให้ชมนี้ บางท่านอาจจะคิดว่าธรรมดา แต่ความจริง "ไก่ป่า" สมัยนี้หายากมาก ใครเคยไปเที่ยวป่ามาแล้ว จะรู้ว่าแทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว และที่หายากที่สุดอีกก็คือว่า เมื่อคืนนี้ทราบข่าวมาว่า หลวงพี่รูปหนึ่งมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เปิดมุ้งกลดออกมาตอนเที่ยงคืน ปรากฏว่ามีแขกมาเยี่ยมเยียนในตอนดึก โดยไม่ได้รับเชิญซะด้วย นั่นก็คือ "พี่งูเหลือม" นั่นเอง ท่านบอกว่าพอเห็นหน้ากันแค่นั้น พี่ก็เลื้อยออกไปเลย อยู่ใกล้ๆ จอมปลวกที่เห็นนี่แหละ ตัวยาวไม่มาก ประมาณ ๒ วา ลำตัวเท่าลำแข้งของเราเห็นจะได้ (ตามภาพ...จะเห็นท่านปักกลดอยู่ใกล้จอมปลวกพอดี)


((((((((( โปรดติดตามเหตุการณ์วันต่อไป ))))))))))



[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top