Not logged in [Login - Register]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites ตั้งหัวข้อใหม่
[*] posted on 23/6/13 at 03:22 [ QUOTE ]

ภาพข่าว..งานพิธีฉลองสมโภชวิหารและพระประธาน ณ วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) เยอรมัน (ตอนที่ 2)


<< ตอนที่ 1 http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1517



เนื่องจากภาพหายไปหมด จึงต้องเอาภาพมาจากเฟสบุค เพราะข้อมูลในเว็บวัดท่าซุง จะมีรายละเอียดมากกว่า



งานพิธีฉลองสมโภชวิหารและพระประธาน (สมเด็จองค์ปฐม)

วันอาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ (วันที่สามของงาน)


.......ตามที่ได้เล่าไปตั้งแต่ตอนที่ ๑ ว่าการจัดทำบายศรี โต๊ะบวงสรวง ห้องพัก และจัดเลี้ยงอาหาร จัดทำกันทั้งวันทั้งคืนจนสว่างคาตา (ถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มิ.ย.๕๖) โดยเฉพาะป้ายวัดที่จะเปิดก็เพิ่งจะทำเสร็จ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม งานฉลองก็ต้องทำให้เสร็จตามกำหนดการ เพราะมีผู้เดินทางมาร่วมงานฉลองโดยการบวชชีพราหมณ์ตลอด ๓ วัน

วันศุกร์ที่ ๒๑ มิ.ย. ๕๖ อัญเชิญ "หลวงพ่อพระวิสุทธิเทพ"



เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. ทำพิธีอัญเชิญ "หลวงพ่อพระวิสุทธิเทพ" ขึ้นประดิษฐานบนอาคารชั้น ๓









วันเสาร์ที่ ๒๒ มิ.ย.๕๖ ใส่บาตรพระสงฆ์ในตอนเช้า











ชวยกันทำบายศรีจัดดอกไม้











........ถึงแม้งานจะฉุกละหุกไปบ้างก็ตาม แต่ก็ยังมีการปฏิบัติธรรมทุกวัน โดยเริ่มงานตั้งแต่วันศุกร์ ตอนเช้าทำวัตรเช้านั่งกรรมฐาน เปิดเทปเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ตอนสายพระอาจารย์พาเดินจงกรม ตอนบ่ายฝึกมโนมยิทธิ ตอนเย็นทำวัตรเย็นเจริญพระกรรมฐาน ตอนเช้าวันเสาร์พระสงฆ์เดินรับบิณฑบาต มีญาติโยมนำอาหารใส่บาตรก็เป็นแถวยาวเหยียด ตอนเย็นหลวงพ่อโอพร้อมด้วยพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เย็น (บทธรรมจักร) ก่อนจะสวดได้มีการเปิดวีดีทัศน์ที่ส่งโดยตรงมาจากวัดท่าซุง ซึ่งเป็นสัมโมทนียกถาจากหลวงพ่อเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล (พระครูปลัดอนันต์)




.......แต่พอถึงวันอาทิตย์ปรากฏว่าต้องประดับผ้าที่โต๊ะบายศรีกัน จึงทำให้ไม่มีที่ให้ใส่บาตรกัน ถึงอย่างไรก็ตามหลวงพี่ชัยวัฒน์ก็ได้นำบุคคลตัวอย่างสมัยพุทธกาลมาเล่าในตอนเช้ามืด เพื่อให้มีบรรยากาศเหมือนกับเล่าที่ลานธรรม (งานธุดงค์ที่วัดท่าซุง) ก่อนที่จะบรรยายภาพประกอบ ขอนำ "สูจิบัตร" และ "กำหนดการ" ของงานมาเป็นรายละเอียดของงานให้ทราบกันก่อน..


สูจิบัตร


งานเฉลิมฉลองสมโภชสมเด็จองค์ปฐม และวัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง)
วันอาทิตย์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖

Max-Planck-Str.23,
93158 Teublitz-Katzdorf
Germany


ประวัติวัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง)

........แรกเริ่มนั้นในปี 2544 ได้มีพุทธบริษัทกลุ่มหนึ่ง ทั้งชาวไทยและชาวเยอรมันที่สนใจในแนวทางปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จสัมมาพระพุทธเจ้าและเห็นว่าเมื่อปฏิบัติตามแล้วจึงพบกับความสงบความสุข จึงได้ทำหนังสือกราบเรียนท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล เพื่อขออนุญาตนิมนต์พระสงฆ์มาสอนพระกรรมฐาน ท่านเจ้าอาวาสท่านพระภาวนากิจวิมล ได้อนุญาตให้ท่านพระครูประสิทธิสรการ มาสงเคราะห์พุทธบริษัททั้งชาวไทย และชาวเยอรมัน รวมถึงประเทศข้างเคียงที่สนใจในแนวทางปฏิบัติวิชามโนมยิทธิและการวิปัสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นแนวทางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

เมื่อมีคนสนใจมากขึ้นจึงมีการจัดตั้ง สมาคมวัดพุทธไทยเนอร์นแบร์ก ขึ้นเป็นแห่งแรก จากนั้นต่อมา สมาคมศิษย์วัดท่าซุง และ สมาคมรวมใจภักดิ์ จึงเกิดขึ้น สมาคมรวมใจภักดิ์ได้มีการจัดตั้งและจดทะเบียนในเดือน มกราคม 2553 ในขณะนั้นสมาคมฯตั้งอยู่ที่ ตำบลดอยเออลิ่ง เดือนสิงหาคมปี 2553 จึงได้ย้ายไปอยู่เพนท์ลิ่ง เมืองเรเก้นบวส์ก

เมื่อมีชาวไทยและชาวเยอรมันในเมืองเรเก้นบวกส์ รวมทั้งเมืองใกล้เคียงมีเป็นจำนวนมากที่ให้ความสนใจในการปฏิบัติกรรมฐาน เป็นเหตุให้สถานที่ในการปฏิบัติธรรมนั้นไม่เพียงพอ จึงจำเป็นที่จะต้องหาสถานที่แห่งใหม่
ในเดือนมีนาคม 2555 สมาคมรวมใจภักดิ์ได้ซื้ออาคารซึ่งเคยเป็นโรงเรียนพร้อมที่ดินที่คาร์ตดอร์ฟ ซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวางเพียงพอต่อพุทธบริษัทที่สนใจและอยากเข้าร่วมในการฝึกมโนมยิทธิและปฏิบัติกรรมฐาน รวมถึงในการจัดงานบุญตามประเพณีตลอดทั้งปี พวกเราชาวสมาคมรวมใจภักดิ์ มีความปิติยินดีกันอีกครั้ง เมื่อได้ทราบข่าวว่าท่านพระครูภาวนากิจวิมล ได้มีเมตตาตั้งชื่อวัดอย่างเป็นทางการแล้วว่า วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง)



พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม)

...........พระพุทธรูป "สมเด็จองค์ปฐม" ขนาดความกว้างหน้าตัก 2 เมตร ความสูงตั้งแต่ฐานถึงยอดเรือนแก้ว 4.8 เมตร เจ้าภาพผู้สร้างคือ คุณนภดล บุญญาศิริทรัพย์ และคณะศิษย์จากประเทศไทย โดยทำพิธีหล่อพระพุทธรูป ณ โรงหล่อปฐม อ. เมือง จ.อุทัยธานี ประเทศไทย เมื่อหล่อและตกแต่งองค์พระทุกส่วนพร้อมแล้วได้ประดับเพชรรัสเซียทั้งองค์

เหตุที่พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมได้มีอัญเชิญนำมาประดิษฐาน ณ วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) ประเทศเยอรมนี เพราะคุณนพดล บุญญาศิริทรัพย์ มีจิตศรัทธาจะสร้างสมเด็จองค์ปฐมถวายเพื่อเป็นพุทธบูชา และจะถวายไว้ที่วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) แต่ท่านเจ้าอาวาสคือ "หลวงพ่อพระภาวนากิจวิมล" ได้ถามท่านเจ้าภาพผู้สร้างว่า ขอนำไปถวายที่วัดสาขาวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ที่ประเทศเยอรมนี ได้หรือไม่เพราะมีวัดอยู่ 3 วัดแล้ว

ท่านเจ้าภาพก็ไม่ขัดข้องมีความยินดีที่จะถวายพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมไว้ที่วัดสาขาที่ประเทศเยอรมนี โดยมีการทำพิธีถวายและรับมอบพระพุทธรูป เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 โดยมีท่านพระภาวนากิจวิมลเป็นองค์ประธานรับมอบ พร้อมด้วยพระสงฆ์วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) 8 รูป ที่ศาลา 12 ไร่ ณ วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี ประเทศไทย

ในการจัดส่งพระพุทธรูปสมเด็จองค์มายังประเทศเยอรมนีนั้น ท่านพระครูประสิทธิสรการได้มอบหมายให้คุณพสิษฐ์ หีบพร เป็นผู้ทำหน้าที่ในการดำเนินการจัดส่ง โดยติดต่อบริษัทชิปปิ้งที่เมืองไทยเป็นผู้จัดส่งให้โดยทางเรือ พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมและของบริวารหลายอย่างจำนวนทั้งสิ้น 42 คิวบิคเมตร เคลื่อนออกจากท่าเรือคลองเตย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2555 และเดินทางมาถึงท่าเรือเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg) ประเทศเยอรมนี วันที่ 26 สิงหาคม 2555

เมื่อผ่านการตรวจสอบของศุลกากรที่เมืองฮัมบูร์กเรียบร้อยแล้วเป็นเวลา 6 เดือนกับ 4 วัน พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมพร้อมสิ่งของบริวารก็เดินทางออกจากท่าเรือเมืองฮัมบูร์กในวันพฤหัสที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 โดยรถบรรทุกพ่วง 2 คัน และมาถึงวัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) ในตอนเช้าของวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2556 และอัญเชิญพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมประดิษฐานบนแท่นพักชั่วคราวเป็นที่เรียบร้อยในวันเดียวกัน

การที่หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมลได้เมตตาแนะนำให้ท่านเจ้าภาพสร้างพระคือ คุณนพดลและคณะมอบสมเด็จองค์ปฐมให้มาประดิษฐาน ณ วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) นั้น ถือว่าเป็นความเมตตาอย่างยิ่ง เพราะในประเทศเยอรมนีไม่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานที่วัดไทยในประทศเยอรมนีเลย ซึ่งทำให้พวกเราคนไทยและชาวเยอรมันตลอดทั้งพรหม เทวดา และอมนุษย์ทั้งหลายได้กราบไว้บูชาสักการะ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้ห่างไกลจากพระพุทธศาสนา และไม่ห่างไกลจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปเหมือนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกในโลก (องค์แรกที่สร้างขึ้นโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ประดิษฐานที่วิหารสมเด็จองค์ปฐม วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) โดยทำพิธีเททองหล่อพระ เมื่อวันที่ 15 เดือนมีนาคม 2535)

พวกเราในนามคณะกรรมการสมาคมรวมใจภักดิ์ ขอเชิญชวนชาวพุทธศาสนิกชนที่อยู่ในประเทศเยอรมนีและประเทศใกล้เคียง ตลอดทั้งชาวเยอรมันที่อยู่ใกล้วัดและอยู่ไกล ได้มากราบไหว้บูชาพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมที่ประดิษฐาน ณ วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) แห่งนี้และกราบขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่เราตลอดไป



วัตถุประสงค์ของการจัดงานในวันนี้

........วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) เป็นวัดที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ให้เป็นสถานที่เผยแผ่พระพุทธ ศาสนา เป็นจุดศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนและผู้ที่สนใจในการปฏิบัติธรรมทั่วไป ซึ่งการรวมกลุ่มนี้มีจุดมุ่ง หมายเพื่อการศึกษาพระธรรมและคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และฝึกฝนนำชีวิตให้อยู่ในกฏระเบียบของพระพุทธศาสนา

ในการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นก็เพื่อให้สมาชิกและผู้สนใจในพระพุทธศาสนา ได้มาทำความรู้จัก ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาพระพุทธศาสนาให้คงสืบไป แม้ว่าเรานั้นจะไม่ได้อยู่ในดินแดนที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติก็ตาม

กระนั้นก็ดี วัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) ยินดีต้อนรับ บุคคลทุกชาติ และทุกศาสนาโดยมิได้มีเงื่อนไขใด เพียงมีความสนในใจใคร่รู้ในขนบธรรมเนียมและประเพณีปฏิบัติของชาวไทยก็สามารถมาแวะเวียนและเยี่ยมชมวัดได้ตามอัธยาศัย



รายนามพระสงฆ์ที่อาราธนามาร่วมพิธี

พระครูปลัดทองอินทร์ กตปุญโญ (หลวงปู่ทองอินทร์) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จ.ร้อยเอ็ด
พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร (หลวงพ่อโอ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ. อุทัยธานี
พระครูอดุลธรรมาจารย์ (พระมานะ) เจ้าอาวาสวัดป่าโนนม่วง จ.ขอนแก่น
พระครูวรธรรมพินิต (หลวงตาสมพร) วัดธรรมวูปเปอร์ทาล เมืองวูปเปอร์ทาล
พระชัยวัฒน์ อชิโต (หลวงพ่อชัยวัฒน์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ. อุทัยธานี

พระครูประสิทธิสรการ (หลวงพ่ออาจินต์) ประธานสงฆ์ สมาคมวัดพุทธไทยเนอร์นแบร์ก สมาคมศิษย์วัดท่าซุง สมาคมรวมใจภักดิ์
พระอาจารย์ชัชฐากร อาริโย ประธานสงฆ์วัดเทพวงศาราม เมืองเนอร์นแบร์ก
พระอาจารย์ย่งศรี ฐิตวโร เจ้าอาวาสวัดเขาพลวง จ.เพชรบูรณ์
พระเอกชัย สุธมฺมญาณสาโร วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี
พระทนงศักดิ์ สุธมฺมสิริสาโร ประธานสมาคมวัดพุทธไทยเนอร์นแบร์ก

พระครูภาวนาพุทธิวิเทศ วัดพุทธปิยะวราราม เมืองไดรย์อายซ์
พระวารีสมบูรณ์ สุธมฺมคุตฺโต วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี
พระชูชัย สุธมฺมคุณวโร ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมศิษย์วัดท่าซุง วีสบาเด้น
พระวิเชียร สุธมฺมปายโก วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี
พระไสว ฐิตธมฺมโม วัดชัยมงคลเยอรมนี เมืองเคิร์น


หน่วยราชการไทย

คุณจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ รักษาการณ์แทนท่านกงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต

หน่วยราชการประเทศเยอรมันนี

Herr Volker Liedtke : Der Landrat des Landkreises Schwandorf (นายอำเภอเขตปกครองชวานโดร์ฟ)
Frau Maria Steger : 1.Bürgermeisterin (นายกเทศมนตรี 1)
Herr Robert Wutz : 2.Bürgermeister (นายกเทศมนตรี 2)
Herr Prokscha : Pfarrer Katdorf (บาทหลวงหมู่บ้านคาร์ตโดร์ฟ)

Motorrad Club ชมรมมอเตอร์ไซด์
Schützen Verein สมาคมยิงปืน
Sport Club ชมรมกีฬา
Freiwillige Feuerwehr หน่วยอาสาสมัครการป้องกันอัคคีไฟ

OTV : Oberpfalz TV ทีวีท้องถิ่น
Mittelbayerische หนังสือพิมพ์ส่วนท้องถิ่น โดยคุณ Werner Artmann



งานฉลองสมโภชสมเด็จองค์ปฐม และงานฉลองวัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง)

วันอาทิตย์ที่ ๒๓ มิ.ย. ๒๕๕๖

กำหนดการ

เวลา ๐๙.๐๙ น. พิธีบวงสรวง สวดอิติปิโส นั่งสมาธิ ๑๐ นาที เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ท่านผู้มีพระคุณ
เวลา ๐๙.๓๐ น. ประธานสงฆ์ทำพิธีเปิดป้ายวัด โดยพระครูปลัดทองอินทร์ กตปุญโญ พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร พระชัยวัฒน์ อชิโต พระครูประสิทธิสรการ
เวลา ๐๙.๔๕ น. ชมการแสดงรำชุดพุทธานุภาพ โดยน้องฐิติสา

เวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีถวายพานบายศรี และขอขมาพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ ในห้องพระประธาน
- ประธานฝ่ายฆราวาส คุณจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ รักษาการณ์แทนท่านกงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต จุดธูปเทียน
- ประธานสมาคม คุณวรรณภรณ์ คาร์ล กล่าวรายงานความเป็นมาของสมาคม และวัตถุประสงค์การจัดงาน
ตัวแทนสมาคมรวมใจภักด์กล่าวแนะนำพระสงฆ์ที่นิมนต์มาร่วมงาน และแนะนำแขกผู้มีเกียรติของประเทศไทย และประเทศเยอรมนี
- คุณจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ กล่าวทักทายแขกผู้เข้าร่วมงาน
- ตัวแทนของหน่วยราชการประเทศเยอรมนี กล่าวทักทายแขกผู้เข้าร่วมงาน

เวลา ๑๐.๓๐ น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพล จากนั้นผู้ร่วมงานรับประทานอาหารร่วมกัน ในระหว่างพระสงฆ์ฉันภัตตาหาร มีการแสดงนาฏศิลปไทยของคณะลูกหลานสมาคมวัดพุทธไทยเนอร์นแบร์ก สมาคมศิษย์วัดท่าซุง และสมาคมรวมใจภักดิ์
เวลา ๑๓.๐๐ น. พิธีถวายเครื่องไทยทานแด่พระสงฆ์ ถวายสังฆทาน และถวายสังฆทานรวม ถวายผ้าป่า กราบนิมนต์ประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา จากนั้นอุทิศส่วนกุศล พระสงฆ์ให้พร และประพรมน้ำพระพุทธมนต์
เวลา ๑๕.๓๐ น. เสร็จพิธี







พระประธานในวิหาร คือสมเด็จองค์ปฐมประดับเพชรวิจิตรตระการตา จนเป็นที่เลื่องลือไปในประเทศเยอรมัน







คุณจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยราชการ ประเทศเยอรมนี













วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ อันเป็นวันงานสำคัญ พิธีในตอนเช้าเริ่มพิธีบวงสรวงด้านในวิหาร
โดยพระครูสมุห์พิชิต (หลวงพ่อโอ) ส่วนด้านนอกวิหาร โดยพระครูประสิทธิ์สรการ (หลวงพี่อาจินต์)





งานนี้มีการทำบายศรี ๒ ชุด ชุดแรกเป็นของวัดจัดไว้ในวิหาร โดยคุณวาสนา พร้อมคณะ
และมีบายศรีด้านนอกวิหารอีกชุดหนึ่ง จัดทำโดยคุณแหม่ม และคณะเนอร์นแบร์ก พร้อมคุณแอ๋ว จากฮาเนาว์









หลังจากบวงสรวงแล้วจึงได้ทำพิธีเปิดป้ายวัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง) โดย หลวงตาทองอินทร์
เป็นประธาน พร้อมด้วยหลวงพ่อโอ และหลวงพี่ชัยวัฒน์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลกถาตลอดพิธี



































เครื่องบวงสรวงบายศรีมีหัวหมูและผลไม้ครบชุด (สั่งตรงมาจากเมืองไทย)





รำชุดพุทธานุภาพ โดยคุณฐิติสา





[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
[*] posted on 2/7/13 at 03:44 [ QUOTE ]


(Update รูปภาพเพิ่มเติมจากคุณจู๊ด-คุณนุ๊ก เมื่อ 11 ส.ค.56)









งานเฉลิมฉลองนี้มีการนัดหมายแต่งกายชุดไทยๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยไปด้วย























คุณทัศนีภรณ์อยู่เยอมรันกับคุณมายินที่มาจากเมืองไทย ต่างก็แต่งชุดไทยคล้ายกันโดยไม่ได้นัดหมาย



คุณจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ รักษาการณ์แทนกงสุลใหญ่ และคุณสุพัตรา (อดีตประธานสมาคมฯ สาขาที่วิสบาเดน)
คุณตุ้ม จากการบินไทย เป็นตัวแทนพุทธบริษัทถวายพานธูปเทียนแพแด่สมเด็จองค์ปฐม และครูบาอาจารย์





ประธานสมาคมฯ คุณวรรณภรณ์ คาร์ล กล่าวรายงานความเป็นมาของสมาคม และวัตถุประสงค์การจัดงาน







คุณจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ กล่าวทักทายแขกผู้เข้าร่วมงานทั้งหลาย



พร้อมกับมอบของที่ระลึกให้แก่นายกเทศมนตรี และนายอำเภอชวานโดร์ฟ (หญิง)



































เวทีการแสดง มีการฟ้อนรำชุดต่างๆ และรำกลองยาว จากสาขาวัดท่าซุงทั้งสามแห่ง











































คุณสมหวัง รองประธานสมาคมฯ มอบของที่ระลึกให้แก่คณะฟ้อนรำทุกท่าน





คณะกลองยาวจาก "สมาคมศิษย์วัดท่าซุง" จากวีสบาเดน สร้างสีสันให้แก่งานฉลองวัดนี้เป็นอย่างมากเช่นกัน





















จากนั้นขบวนแห่พุ่มผ้าป่าจากวีสบาเดน, เนอร์นแบร์ก และอีกหลายเจ้าภาพก็เคลื่อนขบวนสู่ภายในพระวิหาร



ผู้ร่วมงานมีคณะเนอร์นแบร์ก ๓ คันรถบัส คณะวีสบาเดน ๒ คันรถบัส นอกจากนั้นเป็นรถเก๋งนับร้อยคัน

















ทุบหิน "แก้วมณีนาคา" ได้สีสวยงาม ๓ องค์ แล้วถวายบูชาสมเด็จองค์ปฐม







รายการโรงทาน

แม่บ้านวัดพุทธไทยเนอร์นแบร์ก นำโดย คุณหน่อย
ก๋วยเตี๋ยวหมู แกงเขียวหวานไก่ ขนมจีน ใส้กรอกเยอรมันทอดกับผักกาดดองเปรี้ยว
ปอเปี๊ยะทอด ขนมไข่หงษ์

ศิษย์วัดท่าซุง วีสบ้านเด้น ขนมครก

คุณหนู สมโภชน์ จากร้านอาหารเดอะไทย ผัดไทย ผัดซีอี๊ว หอยทอด โดยคุณปลาเป็นผู้จัดทำ

เผือกทอด มันทอด คุณโย คุณโม คุณยุ้ย

น้ำแข็งใส โอเลี้ยง ชาเย็น กลุ่มสามัคคีธรรม (คุณบุญเลี้ยง คุณหว่าว คุณแดง และเพื่อนๆ)

ส้มตำ เจ้าภาพโดย คุณยุพิน โดยคุณนุ้ยและทีมงานเป็นผู้จัดทำ

น้ำดื่ม กาแฟเย็น ท่านพระครูประสิทธิสรการ

หมูหัน นำโดยคุณศรีแพร คุณบุญยัง (วาสนา) คุณพรเพ็ญ
โดยมีชาวเยอรมันสองท่านเป็นจัดทำ (เพื่อนคุณศรีแพร)

ข้าวกล่อง โดยคุณแมว อิงโกลสตัด เป็นผู้จัดทำ จัดไว้ให้สมาคมศิษย์วัดท่าซุง
ทานระหว่างเดินทางกลับบ้าน

ยำสารพัดนึก โดยกลุ่มลูกหลานวัดพระราชพรหมยาน (ท่าซุง)
(แอนและเพื่อนๆ เป็นเจ้าภาพ คุณหนุ่ย คุณกบ คุณเป๊กกี้เป็นผู้จัดทำค่ะ)



สรุปรายงานข่าว

........เป็นอันว่า รายการข้าวหม้อแกงหม้อที่ผู้ร่วมงานถือมาอีกหลายรายการ รวมทั้งผู้ร่วมงานทุกท่านนับพันคน ซึ่งได้เดินทางมาจากสถานที่ต่างๆ ในประเทศเยอรมัน ตลอดถึงผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอื่น รวมทั้งผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไทยอีกด้วย ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานนี้ขึ้น โดย "สมาคมรวมใจภักดิ์" ได้ประสานงานกับ "สมาคมวัดพุทธไทยเนอร์นแบร์ก" และ "สมาคมศิษย์วัดท่าซุง วีสบาเดน" ต่างก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกิจกรรมนี้กันเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพุทธศาสนาในเขตต่างแดนนี้ ซึ่งเป็นความยากลำบากกว่าที่จะมาถึงวันนี้ โดยเฉพาะการที่ท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจนิมนต์ได้เมตตามอบหมายให้ท่านพระครูประสิทธิ์สรการ (พระอาจินต์ ธัมมจิตโต) และพระวัดท่าซุงบางรูป ที่จะต้องเสียสละความสุขทุกอย่าง เพื่อให้ลูกหลานและเหล่าคณะศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จะได้มีสถานที่สำคัญในทางพระศาสนา เพื่อไว้เป็นที่บำรุงจิตใจในยามประสบความทุกข์ยาก ซึ่งไม่ใช่เป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของเราเอง การมาอาศัยอยู่กับผู้คนต่างถิ่น หรือการมีครอบครัวกับชาวต่างชาติ ย่อมมีความยากลำบากในการดำรงชีวิตเป็นธรรมดา

ฉะนั้น การที่คนไทยในต่างแดนเข้ามาอุปถัมภ์วัดวาอารามทั้ง ๓ แห่งนี้ นับว่าทุกท่านได้เสียสละด้วยความเหนื่อยยากทั้งแรงกายและปัจจัยต่างๆ ที่จะช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาในเขตแดนนี้ เมื่อได้ฟังหลวงพี่ชัยวัฒน์เล่าเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่สาขาวัดท่าซุงจะเกิดขึ้นในประเทศเยอรมันนี้ ท่านบอกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อและไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย

เพราะว่าในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยพูดกับหลวงพี่ชัยวัฒน์ว่า ท่านไม่คิดจะตั้งสาขาที่ไหน เพราะคำว่า "สาขา" จะต้องเป็นพระสงฆ์จากวัดท่าซุงไปประจำอยู่ และถือข้อวัตรปฏิบัติตามที่สำนักใหญ่วางกฎระเบียบไว้ ฉะนั้นในเมืองไทยจึงไม่มีพระจากวัดท่าซุงไปประจำที่ไหน แต่ที่ไม่น่าเชื่อว่าพระวัดท่าซุงจะต้องเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่เยอรมันอยู่เป็นประจำ

ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้ย้อนเล่าเรื่องความเป็นมาก่อนที่จะตั้งสาขาวัดท่าซุงเป็นแห่งแรกที่ "เมืองเนอร์นแบร์ก" นี้ เป็นเพราะว่าท่านได้เดินทางพร้อมกับหลวงพ่อโอ เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๓ พร้อมกับคณะญาติโยมประมาณ ๒๕ คน เป็นการเดินทางมายุโรปของท่านเป็นครั้งแรก โดยแวะเยี่ยมเยียนญาติโยม คือคุณวันทนา คุณก๊อง และคุณชลลดา ที่ประเทศอังกฤษก่อน จากนั้นจึงเดินทางมาที่ประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมัน อีตาลี และฝรั่งเศส เป็นต้น

ก่อนการเดินทางท่านได้ประสานงานกับคนไทยที่อังกฤษ คือคุณกิจจา (ตุ่ย) แก้วผดุง ส่วนที่เยอรมันมี คุณแก้ว คุณตุ๋ย และ คุณจริณา คลายส์ เป็นผู้ประสานงานเรื่องสถานที่พักกับคนไทยที่เมืองแฟรงค์เฟริต และเมืองมิวนิค ต่อมา คุณอ้อย จากเนอร์นแบร์กทราบข่าวจากพระมหาสุพจน์ว่า หลวงพี่พร้อมคณะจะเดินทางมาพักที่วัดพุทธเบญจพล นครแฟรงค์เฟริต คุณอ้อยได้โทรศัพท์ไปถามหลวงพี่ชัยวัฒน์ (ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทราบภายหลังว่าได้เบอร์โทรศัพท์จากคนอื่น) ถามว่าหลวงพี่จะมาที่เนอร์นแบร์กไหม

หลวงพี่ตอบว่าไม่ได้พักค้างคืน เพียงแค่แวะฉันเพลเท่านั้น คุณอ้อยก็บอกว่าเสียดายที่ไม่ได้พบหลวงพี่ จากนั้นก็วางหูโทรศัพท์ไป ต่อมาหลวงพี่ก็เดินทางไปพักค้างคืนที่วัดไทยมิวนิค วันรุ่งขึ้นเดินทางต่อไปที่เมืองอินน์บรุค ระหว่างรถบัสจอดรอที่ปั้มน้ำมันตรงชายแดนติดต่อกันนั้น ปรากฏว่ามีพระอาทิตย์ทรงกลดเกิดขึ้น หลวงพี่เล่าว่ารู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่า อาจจะมีอะไรที่เป็นสิริมงคลเกิดขึ้นแก่ประเทศเขตนี้กระมัง

ต่อมาหลังจากที่กลับมาถึงวัดท่าซุงแล้ว หลวงพี่ก็ทราบว่าคุณอ้อยได้โทรศัพท์ไปถึงหลวงพ่ออนันต์ เพื่อขอพระสงฆ์วัดท่าซุงมาประจำที่เมืองเนอร์แบร์ก ซึ่งต่อมาหลวงพ่อเจ้าอาวาสก็ได้มอบหมายให้หลวงพ่อโอและหลวงพี่อาจินต์เดินทางมาประสานงานกับญาติโยมที่เมืองเนอร์แบร์ก จึงเกิดสาขาวัดท่าซุงที่เมืองนี้เป็นแห่งแรก คงเป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งบอกเหตุที่ผ่านมา ในระหว่างที่หลวงพี่เดินทางเยือนประเทศยุโรปเป็นครั้งแรกนั่นเอง

เรื่องนี้ทำให้หลวงพี่ชัยวัฒน์วิเคราะห์จากการที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่ท่านได้เดินทางมาประเทศยุโรปเมื่อปี ๒๕๓๐ ท่านได้มาช่วยเหลือเหล่า ๕ ทหารเสือให้พ้นจากอบายภูมิมาแล้ว โดยการบวชพระบวชเณรและถวายพระพุทธรูปให้ จากนั้นท่านทั้ง ๕ ก็ได้มาเป็นเทวดาอารักขาวัดท่าซุง ซึ่งเทวดาเหล่านี้ท่านได้บอกหลวงพ่อว่า อีก ๑๘๐ ปีจะมาเกิดตามคำพยากรณ์ (เมื่อปี ๒๕๒๐) ที่จารึกไว้ใต้พระอุโบสถวัดท่าซุง ว่ามีพระมหากษัตริย์ธัมมิกราชจะมาบูรณะร่วมกับพระอรหันต์องค์หนึ่งที่วัดท่าซุงแห่งนี้ และวัดท่าซุงจะอยู่ไปเกือบถึงสิ้นอายุพระศาสนาห้าพันปี คือจะเริ่มทรุดโทรมไปประมาณ พ.ศ.๔๕๐๐ ผ่านไปแล้ว

ฉะนั้น สมมุติว่าถ้าวัดท่าซุงเจริญต่อไปอีกนาน และสาขาวัดท่าซุงในประเทศเยอรมันเจริญต่อไปด้วยเช่นกัน เมื่อถึงวันนั้นประมาณ พ.ศ.๒๗๐๐ พระพุทธศาสนาในแถบประเทศยุโรปคงจะเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก อาจจะขยายต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะอดีตผู้นำเหล่านี้ไปเกิดในประเทศไทยแล้ว คงจะกลับมาช่วยทนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงสืบต่อไป นี่เป็นความฝันเล็กๆ น้อยของหลวงพี่ชัยวัฒน์ที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟัง

ซึ่งความฝันนี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม แต่พวกเราก็ต้องช่วยกันรักษาไว้ด้วยความสามัคคี และน่าภูมิใจว่าสาขาวัดท่าซุงนั้นเกิดขึ้นได้ยาก ควรที่จะรักษาไว้ด้วยสติปัญญาและความสามารถกัน ถือว่าทุกท่านก็ได้ช่วยจรรโลงสาขาวัดท่าซุงทั้ง ๓ แห่งนี้ เพื่อที่จะรอการกลับมาของท่านผู้นำเหล่านี้ ซึ่งท่านคงจะเริ่มปูทางผู้คนไปตั้งแต่บัดนี้แล้ว ทั้งนี้เพราะอะไร เป็นเพราะว่าท่านปรารถนา "พุทธภูมิ" นั่นเอง จึงขอโมทนาบุญกุศลทุกท่านที่ได้มาร่วมงานฉลองวัดในครั้งนี้ ซึ่งได้ทำบุญรวมกันแล้วประมาณ ๒๕,๐๐๐ กว่ายูโร

งานนี้นับว่าสำเร็จเสร็จสิ้นด้วย เป็นความประทับใจในบรรยากาศของงาน ซึ่งมองดูรอบๆ จะเห็นรถยนต์และรถบัสจอดเรียงรายกันเต็มไปหมด ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของวัด แม้ในบรรยากาศโรงอาหารภายในเต้นท์ ก็คับคั่งไปด้วยผู้คน อาหารมีมากมายหลากหลายชนิด ทั้งข้าวสวยและข้าวเหนียว ทั้งก๊วยเตี๋ยว ขนมครก เป็นต้น ชาวต่างชาติก็มากันหลายท่าน ส่วนใหญ่จะมาภรรยาที่เป็นคนไทย แต่ละคนก็ชอบอาหารไทยกัน เสียงกลองยาวดังลั่นนำขบวนผ้าป่าเข้ามาในวิหาร เสียงไชโยโห่ร้องด้วยความยินดี

ทุกคนมีใบหน้ายิ้มแย้ม ถึงแม้อากาศภายในวิหารจะอบอ้าว ถึงแม้ก่อนงานจะต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานและการจัดสถานที่ โดยเฉพาะอาคารชั้น ๓ และห้องหลวงพ่อท่านเจ้าคุณฯ ห้องพักของผู้หญิงและผู้ชายก็เพิ่งจะทำเสร็จ นับว่าทันเวลาพอดี ทุกคนมาเห็นแล้วก็ปลื้มใจ เพราะเรามีวัดเป็นของตัวเองแล้ว ความสำเร็จครั้งนี้จึงเป็นของพวกเราทุกคน

ท่ามกลางอุปสรรคที่ขวางกั้นพอสมควร จากอากาศที่แปรปรวน หน้าร้อนก็ยังไม่ร้อน ฝนตกหนักจนน้ำท่วมในเขตเมือง Passau น้ำท่วมสูงสุดในรอบ ๕๐๐ ปี แต่ที่น่าแปลกคือ "ลูกเห็บ" ก็ตกลงมาที่นี่ด้วย แต่ก็ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาได้ ด้วยพระบารมีของคุณพระรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐมเป็นต้น คุณครูบาอาจารย์ทั้งหลาย มี พระเดชพระคุณหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เทพพรหมและเหล่านาคราชทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาอาณาเขตนี้ เป็นที่สุด

......สุดท้ายนี้จึงขอพระบารมีของท่านเหล่านี้ โปรดอำนวยอวยพรให้ทุกท่านได้รับผลสำเร็จ จงสำเร็จ และจงสำเร็จ ทั้งทางโลกและทางธรรมครบถ้วนทุกประการเทอญฯ


ขอขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก - คุณแอน และ Facebook/วัดพระราชพรหมยาน ท่าซุง
ภาพจาก - คุณมาติน (สามีคุณตุ๊ก - ประภา)
ภาพจาก - คุณมายิน เดียวสุรินทร์
ภาพจาก - คุณต้น, คุณตุ้ม การบินไทย


[ PROFILE ] [ FIND ] [ U2U ]
ตั้งหัวข้อใหม่

Go To Top